แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดกันมา ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ระบุถึงการใช้พืชพรรณสมุนไพรตั้งแต่สมัยพุทธกาล การนำสมุนไพรมาใช้ได้ทั้งในแง่การนำมารับประทานเป็นอาหาร เช่น การรับประทานพืชผัก หรือนำมาประกอบเป็นอาหาร นอกจากนั้นยังนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเวลาเกิดอาการเจ็บป่วย การใช้ลูกประคบสมุนไพรก็เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาไทยที่คนไทยเรานำมาใช้กันตั้งแต่รุ่นปู่ย่าของเรา หลายท่านคงจะเคยมีประสบการณ์การใช้ลูกประคบสมุนไพรอยู่บ้าง แต่หลายท่านอาจจะไม่ทราบถึงรายละเอียด ในเรื่องผล การรักษา วิธีการใช้ อาการที่เหมาะกับการใช้ลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพรเป็นภูมิปัญญาไทย ที่มีมาแต่โบราณ เป็นการนำสมุนไพรพื้นบ้านชนิดต่างๆ มาใช้ประโยชน์ ในการคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยลูกประคบมีพืชสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลัก อย่างน้อย 3 ชนิด ได้แก่ ไพล ขมิ้นชันและตะไคร้ อาจผสมสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น ผิวมะกรูด ใบมะขาม การบูร พิมเสน ลูกประคบสมุนไพรมีอยู่ด้วยกันหลายสูตรทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาคของประเทศ ซึ่งจะใช้สมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆเป็นส่วนประกอบ การทำลูกประคบสมุนไพรแบบแห้งโดยนำสมุนไพรมาทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้แห้งโดยการอบหรือตากแดด และห่อสมุนไพรแห้งด้วยผ้าดิบหรือผ้าฝ้าย แล้วมัดให้แน่นเป็นลูกกลมๆ นำไปนึ่งให้ความร้อน แล้วนำไปประคบในบริเวณที่มีการปวดตึงกล้ามเนื้อ นอกจากนี้สมุนไพรไทย ยังสามารถมาทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีกมาก อันได้แก่ การทำยาหม่องการทำน้ำมันไพล การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และการทำสมุนไพรอบตัวเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้ยังมีศาสตร์การรักษาอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจในการดูแลสุขภาพ นั้นคือศาสตร์การเผาเครื่องยาร้อน ซึ่งเป็นการนำสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหยซึ่งส่วนใหญ่จะมีรสเผ็ดร้อน ซึ่งมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดช่วยลดอาการปวด และคลายกล้ามเนื้อได้ดีเช่น หัวไพล, ขิง, ข่า เป็นต้น มาตำรวมกัน แล้วนำไปวางบนท้องรอบสะดือแล้วใช้ผ้าเปียกทำเป็นวงกลมล้อมรอบ ใส่เกลือและน้ำมันสมุนไพรเล็กน้อย และใช้ผ้าอีกผืนคลุมทับอีกชั้นหนึ่งแล้วจุดไฟเผา (การเผายาสามารถทำบริเวณกล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกายได้ด้วยเช่น กล้ามเนื้อบ่า หลัง ขา เป็นต้น) ประโยชน์ของการเผายา คือ ใช้รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เป็นต้น
สถานการณ์การใช้บริการการแพทย์แผนไทยปี พ.ศ.2552, 2554 และ 2556 โดย รัชนี จันทร์เกษและคณะ เผยแพร่ในวารสารวิจัยระบบสาธารณสุขฉบับเมษายน-มิถุนายน 2559 เป็นหนึ่งในงานศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์การแพทย์แผนไทยที่น่าสนใจ กล่าวคือ เป็นการศึกษาด้านการแพทย์แผนไทยในภาพรวมของประเทศจากเอกสารผลการสำรวจอนามัยและสวัสดิการของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี พ.ศ. 2552, 2554 และ 2556 เกี่ยวกับภาวะการเจ็บป่วยและการเข้ารับบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านจากการสัมภาษณ์ประชากรทั่วประเทศปีละ 28,000 ครัวเรือน
ผลการศึกษาพบว่า ประชากรไทยที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่เลือกไปรักษาที่สถานพยาบาลภาครัฐ การไปหาหมอพื้นบ้าน/หมอแผนโบราณ หรือหมอนวดไทยมีค่อนข้างน้อย ไม่ถึงร้อยละ 2 ของประชากรที่เจ็บป่วย การรักษาด้วยยาสมุนไพรในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง โดยพบว่ากลุ่มอายุ 25-59 ปีที่เจ็บป่วยมีการใช้ยาแผนโบราณ หรือยาสมุนไพรระหว่างร้อยละ 51.0-60.3 ของประชากรที่เจ็บป่วยทั้งหมด
ที่น่าสนใจคือโรคปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อต่างๆ เป็นกลุ่มอาการที่พบมากเป็นอันดับสอง แต่กลับมีการใช้ยาแผนโบราณหรือสมุนไพรเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 27.3 33.4 และ 31.1 ของประชากรที่ใช้ยาแผนโบราณหรือสมุนไพรในปี พ.ศ.2552, 2554 และ 2556 ตามลำดับ
ข้อค้นพบสำคัญจากการศึกษาครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยังเป็นทางเลือกที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของคนไทย เห็นได้จากการเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกเพิ่มขึ้น แต่การใช้ยาแผนโบราณและยาสมุนไพรยังไม่สามารถทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากการขับเคลื่อนดำเนินงานด้านยาแผนโบราณและยาสมุนไพรที่ยังขยายตัวได้ไม่มากนักแม้จะได้รับการสนับสนุนในระดับนโยบายค่อนข้างสูงก็ตาม ด้วยเหตุที่ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวกับสมุนไพรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำยังมีปัญหา
จากข้อความข้างต้น เทศบาลเมืองเบตงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพด้วนศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประกอบกับเทศบาลเมืองเบตง มีบุคลากรที่มีใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย นวดไทยและผดุงครรภ์ไทย จึงได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารให้เตรียมความพร้อมในการเปิดคลินิก
ดังนั้น เทศบาลเมืองเบตง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพดีตามวิถีภูมิปัญญาการแแพทย์แผนไทยขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการและเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ เสริมสร้างให้ประชาชนรอบรู้ด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุน ให้มีการนําภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยสู่การใช้ประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ขอรับรองว่าโครงการนี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น มีความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน และเทศบาลเมืองเบตงได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว
-
1. 1. เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ในการนำสมุนไพรไทย เพื่อใช้ในการทําผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพได้ตัวชี้วัด : 1. ผู้อบรมมีความรู้ในการนำสมุนไพรไทย เพื่อใช้ในการทําผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและใช้ในการดูแลสุขภาพได้ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
-
2. 2. เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจในการนวดประคบด้วยสมุนไพรและศาสตร์การเผาเครื่องยาร้อนตัวชี้วัด : 2. ร้อยละ 80 ของผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจในการนวดประคบด้วยสมุนไพรและศาสตร์การเผาเครื่องยาร้อนขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
-
3. 3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้อบรมมีมาสนใจและใช้พืชสมุนไพรในการดูแลสุขภาพมากขึ้นตัวชี้วัด : 3. ร้อยละ 60 ของผู้อบรมสนใจและใช้พืชสมุนไพรในการดูแลสุขภาพขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
- 1. อบรมให้ความรู้และอบรมเชิงปฏิบัติการฯรายละเอียด
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (35 บาท x 2 มื้อ x 50 คน) เป็นเงิน 3,500 บาท ค่าอาหารกลางวัน (75 บาท x 1 มื้อ x 50 คน) เป็นเงิน 3,750 บาท ค่าตอบแทนวิทยากร (6 ชั่วโมง x 600 บ/ชม. x 5 คน) เป็นเงิน 18,000 บาท ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1 x 3 เมตร เป็นเงิน 750 บาท ค่าเข้ารูปเล่มสรุปผลการดำเนินโครงการ เป็นเงิน 300 บาท ค่าวัสดุประกอบการอบรม (สมุด ปากกา แฟ้ม เอกสารการอบรม) เป็นเงิน 10,000 บาท ค่าวัสดุที่ใช้ในโครงการฯ
- ขวดลูกกลิ้ง ขนาด 100 cc จำนวน 30 ขวดๆละ 16 บาท เป็นเงิน 480 บาท - ขวดแก้วใสพร้อมจุกในและฝา ขนาด 15 cc จำนวน 30 ขวดละ 60 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท - ขวดยาหม่องพลาสติก ขนาด 8 cc จำนวน 150 ใบๆละ 6 บาท เป็นเงิน 900 บาท - ผ้าดิบ 11 ปอนด์ หน้ากว้าง 90 cc (1พับ 40 หลา) จำนวน 4 พับ พับละ 700 บาท เป็นเงิน 2,800 บาท - เชือกเกลียวสีดิบ NO.60 จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 600 บาท - กล่องพลาสติกใสมีฝาปิดและหูหิ้ว ขนาด 30x43x24cm (ใส่A4ได้) เป็นเงิน 1,020 บาท จำนวน 6 กล่องๆละ 170 บาท - แอลกอฮอล์สำหรับจุดไฟ จำนวน 3 ลิตรๆละ 100 บาท เป็นเงิน 300 บาท - น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 500 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท - ขมิ้นชัน จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 60 บาท เป็นเงิน 180 บาท - ไพลแห้ง จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 160 บาท เป็นเงิน 480 บาท - ไพลสด จำนวน 6 กิโลกรัมๆละ 75 บาท เป็นเงิน 450 บาท - ตะไคร้บ้าน จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 25 บาท เป็นเงิน 75 บาท - ใบมะขาม จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 140 บาท เป็นเงิน 420 บาท - ผิวมะกรูด จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 170 บาท เป็นเงิน 510 บาท - ใบหนาด จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 170 บาท เป็นเงิน 510 บาท - ข่า จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 50 บาท เป็นเงิน 150 บาท - ขิง จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 90 บาท เป็นเงิน 270 บาท - เกลือ จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 20 บาท เป็นเงิน 60 บาท - การบูร จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 650 บาท เป็นเงิน 1,950 บาท - พิมเสน จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,070 บาท เป็นเงิน 3,210 บาท - เกล็ดสะระแหน่ จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,650 บาท เป็นเงิน 4,950 บาท - ไขพาราฟิน จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 500 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท - น้ำมันเปปเปอร์มิ้น จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,500 บาท เป็นเงิน 4,500 บาท - น้ำมันยูคาลิปตัส จำนวน 3,000 ml 1000 mlละ 1,160 บาท เป็นเงิน 3,480 บาท - น้ำมันระกำ จำนวน 2,000 ml 1000 mlละ 280 บาท เป็นเงิน 560 บาท - น้ำมันสะระแหน่ จำนวน 2,000 ml 1000 mlละ1,500 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท - ใบส้มป่อย จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 500 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท - ใบเปล้า จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,000 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท - วาสลิน (ปิโตรลาทัม) จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 600 บาท - เมนทอล จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 800 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท - น้ำมันกานพลู จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,270 บาท เป็นเงิน 3,810 บาท - น้ำมันอบเชย จำนวน 3 กิโลกรัมๆละ 1,270 บาท เป็นเงิน 3,810 บาท - สำลีก้อน จำนวน 1 ถุงๆ (ขนาด 450 กรัม) จำนวน 10 ถุงๆละ 145 บาท เป็นเงิน 725 บาท - กระโจมอบตัว แบบตั้งพื้น 1 หลังๆละ 1,500 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท - หม้อต้มสมุนไพร จำนวน 1 หม้อๆละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท - หม้อนึ่งลูกประคบ จำนวน 1 หม้อๆละ 1,000 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท - เตาแก๊สปิกนิก จำนวน 1 ชุดๆละ 1,700 บาท เป็นเงิน 1,700 บาท - ผ้าขนหนู ขนาดไม่น้อยกว่า 1530 นิ้ว จำนวน 1 โหลๆละ 150 บาท เป็นเงิน 150 บาท - หม้อสตูว์ทรงสูง (สแตนเลส) ขนาด 35 ซม. จำนวน 1 ใบ เป็นเงิน 1,100 บาท - โหลแก้วสูงทรงกระบอก ขนาด 6 นิ้ว จำนวน 6 ใบใบละ 350 บาท เป็นเงิน 2,100 บาท - เตียงนวดไทยพร้อมเบาะ ขนาดไม่น้อยกว่า 100200*50 เซนติเมตร เป็นเงิน 8,500 บาท รวมเป็นเงิน 104,350 บาท
*ทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยได้งบประมาณ 104,350.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ถึง 29 ธันวาคม 2566
ศูนย์บริการสาธารณสุข ก.ม. 3 เทศบาลเมืองเบตง
รวมงบประมาณโครงการ 104,350.00 บาท
- ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพกายด้วยพืชสมุนไพรไทย
- ผู้เข้าร่วมสามารถป้องกันการใช้ยาที่มากเกินไป ควบคู่กับการนำสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคได้
- ผู้เข้าร่วมสามารถประยุกต์ใช้พืชสมุนไพรในการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................