แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลลำสินธุ์
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลลำสินธุ์
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำสินธุ์
หน่วยงานราชการ
น.ส.ปวรรษา พรหมสังคหะพยาบาลวิชาชีพชำนาญการผู้รับผิดชอบโครงการ
ตำบลลำสินธุ์
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
จากความก้าวหน้าด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย ทำให้อัตราการเกิดน้อยลงประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชากรไทยหยุดโตมีแต่จะแก่ลงทุกวัน มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2566) ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ : Age Society และจากนั้นอีกเพียง 10 ปีประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” ปี พ.ศ.2568ในระดับประเทศมีประชากรผู้สูงอายุร้อยละ 21.1 ระดับจังหวัดพัทลุงร้อยละ 22.68 ระดับอำเภอศรีนครินทร์ร้อยละ 21.6 สำหรับ ตำบลบ้านลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง มีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 1,130 คน คิดเป็นร้อยละ 15.97 (จากข้อมูล HDC ณ 30 ก.ย.2566) เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสูงวัยนอกจากสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่อ่อนแอลงไปมากแล้วยังมีเรื่องของสุขภาพจิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจากอุบัติการณ์ของภาวะเสี่ยงที่พบบ่อยในผู้สูงอายุรวมถึงมีขนาดและความรุนแรงของปัญหามาก คือภาวะหกล้ม ภาวะสมองเสื่อม และตาต้อกระจก ภาวะหกล้มพบมากขึ้นตามลักษณะโครงสร้างประชากรไทยที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การหกล้มทำให้กระดูกหัก เกิดความเจ็บป่วยทั้งทางกายและจิตใจ ความพิการทุพพลภาพ และความสูญเสียทางเศรษฐกิจทั้งต่อครอบครัวและสังคมโดยรวม นอกจากนี้โรคสมองเสื่อมเริ่มพบมากขึ้นและกำลังเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ สังคม และครอบครัว เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและมีจำนวนผู้เป็นโรคมากขึ้นตามค่าอายุเฉลี่ยของประชากร ส่วนตาต้อกระจกเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและการเข้าถึงการบริการยังน้อยอยู่ ดังนั้นการที่จะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงหรือป่วยได้รับบริการสุขภาพอย่างเหมาะสมและตรงประเด็นปัญหา หรือป้องกันความรุนแรงของโรคและภาวะแทรกซ้อน รวมถึงความพิการที่เหมาะสมที่สุดคือการคัดกรองและประเมินกลุ่มโรคและอาการที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ(Geriatric Sydromes) อันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงและป่วยได้รับการส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพที่ตรงปัญหาต่อไป รวมถึงกลุ่มปกติที่คัดแยกเข้าสู่บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับปฐมภูมิ(Primary Prevention) ได้อย่างทันท่วงที การคัดกรองความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมภาวะหกล้มและตาต้อกระจกในผู้สูงอายุ จึงเป็นประตูขั้นแรกที่จะนำไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็น
ซึ่งจากการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดพัทลุง ปี 2566 พบว่า ผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 34.08, ป่วยโรคเบาหวานร้อยละ 18.21, เสี่ยงต่อสมองเสื่อมร้อยละ 0.56, เสี่ยงต่อซึมเศร้าร้อยละ 0.02, ข้อเข่าผิดปกติร้อยละ 7.26, เสี่ยงต่อภาวะหกล้มร้อยละ 7.26 มีภาวะอ้วนร้อยละ 30.65 และมีปัญหาสายตามัวร้อยละ 26.87 (จากฐานข้อมูล HDC ณ 30 กันยายน 2566)
กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำสินธุ์จึงขอเสนอการดำเนินกิจกรรมที่สร้างคุณประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยกลุ่มวัยผู้สูงอายุด้วยการจัดบริการคัดกรองความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม ภาวะหกล้มและตาต้อกระจกในผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/03/2024
กำหนดเสร็จ 30/09/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.ผู้สูงอายุได้รับการคัดกรองจากภาวะเสี่ยงในด้านต่างๆได้รับการส่งต่อและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
2.เป็นการส่งเสริมให้ญาติและผู้สูงอายุใส่ใจในการดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น