แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลแม่ขรี
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลแม่ขรี
กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลตะโหมด
เขตพื้นที่เทศบาลตำบลแม่ขรี
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
โรคไม่ติดต่อยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประชาชนไทยทั้งในแง่ภาระโรค และอัตราการเสียชีวิตอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (30 - 69 ปี) จากโรคไม่ติดต่อที่สำคัญประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคเบาหวาน, ภาวะความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจสุขภาพของประชาชนไทยโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่าคนวัยทำงาน อายุ 15 ปีขึ้นไป มีพฤติกรรมการกินผัก ผลไม้ต่อวันเพียงพอตามข้อแนะนำเพียงร้อยละ 25.23 และมีดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพียงร้อยละ 8.9 โดยโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงที่สุดเท่ากับ 44.3 รายต่อประชากรแสนคน และอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้ชายสูงกว่าเพศหญิง (กรมควบคุมโรค, 2565) สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว มักเกิดจาก“กรรมพันธุ์และพฤติกรรม” เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ ผู้ป่วยและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับความรู้เรื่องโรค รวมไปถึงความรู้เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งได้รับการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ระยะต้น ก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นคนปกติโดยปราศจากโรคแทรกซ้อน
จากผลการคัดกรองสุขภาพของประชาชนในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลตะโหมด ปี 2567 พบว่า มีประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 567 ราย กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน จำนวน 22 ราย กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 647 ราย และกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 65 ราย ( ระบบ HDC กระทรวงสาธารณสุข ,2567 ) โดยพบว่าประชาชนที่ได้รับการคัดกรอง ร้อยละ 46.25 มีภาวะอ้วนลงพุง มียังขาดความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อการป้องกันโรคที่เหมาะสม
ฉะนั้นเพื่อให้ประชาชนมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม จึงต้องยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กลุ่มคนดังกล่าว สามารถเข้าถึงเข้าใจข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ และตัดสินใจจัดการสุขภาพตนเองให้มีสุขภาพดีได้ นำไปสู่การสร้างผลผลิต สร้างรายได้ครัวเรือน สร้างสังคมแห่งความสุข เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ตอบสนองต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศชาติให้มีความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืนควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่เหมาะสม กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลตะโหมด ทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ บริการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและควบคุมโรค ฟื้นฟูสภาพ และให้บริการรักษาโรคเบื้องต้นในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแม่ขรี ตระหนักถึงความสำคัญที่จะดูแลสุขภาพแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสม มีทักษะในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรค จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูงในเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี สำหรับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี ปีงบประมาณ 2567 ขึ้นเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 31/01/2024
กำหนดเสร็จ 16/09/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. กลุ่มเป้าหมายมีความรู้และแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 80
2. กลุ่มเป้าหมายเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคที่เหมาะสม เพิ่มขึ้นร้อยละ 20