แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. นายจิตรภณ บุญเกิด ประธานกลุ่ม065-049-736-4
2. นายมานพ เมืองมูล รองประธาน 089-598-321-6
3. นายเกรียงศักดิ์ แซ่พุ่น กรรมการ 098-064-373-1
4. นายสุรชัย เจ๊ะมะ กรรมการ 081-957-593-4
5. นายเกษม การี เลขานุการ 092-853-358-4
ปัจจุบัน “บุหรี่ไฟฟ้า” ถือว่าได้รับความนิยมขึ้นกว่าในอดีตมาก ซึ่งแรกเริ่ม บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการโฆษณาสรรพคุณว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่มาจนวันนี้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ได้กลายเป็นเหมือนกับทางเลือกสำหรับ “วัยรุ่น” มากขึ้นในฐานะ “แฟชั่นใหม่” ภายใต้แนวความคิดที่ว่า “เท่ห์ สูบได้ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” วิกฤตบุหรี่ไฟฟ้าไทย ระบาดเพิ่ม 10 เท่าใน 1 ปี เปิดเผยในวงสัมมนา ‘บุหรี่ไฟฟ้ามหันตภัยไม่เงียบล่าเยาวชน’ ซึ่งการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบประชากรไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 0.14 % คิดเป็นจำนวน 78,742 คน ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยเป็นเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า อายุ 15-24 ปี จำนวน 24,050 คน และการสำรวจสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ปี 2565 พบอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้า1.21%คิดเป็นจำนวน 709,677 คน โดยเป็นเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า อายุ 15-24 ปีจำนวน 269,553 คน ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ กุมารแพทย์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวถึงวิกฤตบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ระบาดเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 10 เท่า ใน 1 ปีในเวทีเสวนา ‘บุหรี่ไฟฟ้ามหันตภัยไม่เงียบล่าเยาวชน’ ของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งเพราะอยู่ในช่วงระบาดขาขึ้น ที่จำเป็นต้องประสานความร่วมมืออย่างเป็นระบบและเข้มข้นจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่าย ซึ่งสิ่งที่สำคัญต้อง ‘คงกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า’เพราะหากคิดว่าคุมไม่ได้ก็ยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าไปเลย ไทยจะยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกว่านี้ เหมือนแคนาดาและนิวซีแลนด์ที่เมื่อยกเลิกกฎหมายแล้ว อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนพุ่งขึ้น 2-5 เท่าใน 3 ปี ดังนั้นสิ่งที่ไทยจะต้องทำเร่งด่วนนอกเหนือจากห้ามนำเข้า คือ ‘เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด ในการจับ ปรับ อย่างจริงจัง ห้ามโฆษณาและห้ามขายโดยเฉพาะในสื่อออนไลน์’ เหมือนกับที่สิงคโปร์และฮ่องกงดำเนินการ คาดการณ์ว่าอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนไทยจะไม่เพิ่มขึ้นและจะค่อยๆ ลดลง 1.7% ใน 3 ปี จากการสังเกตและติดตามประเมินภายในโรงเรียนพบว่า เด็กอายุ11-15 ปี บางกลุ่มมีพฤติกรรม เปลี่ยนไปอย่างผิดปกติเช่นติดเกมส์มาโรงเรียนพูดถึงแต่เกมส์ที่เล่นด้วยกันในค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่สนใจเรียน ก้าวร้าวและหลับในห้องเรียน บางคนมีการขอ (ขู่) เอาเงินจากเพื่อนๆและรุ่นน้องในโรงเรียนและ/หรือที่เล่นเกมส์ด้วยกัน และมีการโพสต์ในเฟสบุ๊คกลุ่ม (ปิด) ซักชวนให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า โดยเป็นตัวแทนขายตรงพร้อมกับชักชวนเพื่อนๆและรุ่นน้องให้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นเด็กที่มีฐานะค่อนข้างดีกลุ่มนี้จะมีทั้งเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันและต่างโรงเรียนมีนัดที่จะไปพบกันทั้งในสนามกีฬา และสถานที่ใกล้ร้านจำหน่ายโดยผู้ปกครอง หรือ ครู ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ตลอดจนไม่รู้ถึงสาเหตุพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของบุตรหลานของตน เช่น ขอเงินมากกว่าปกติโดยอ้างเหตุซื้ออุปกรณ์การเรียน ฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามาแรงในปัจจุบัน ซึ่งที่พบมีมากในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา และที่น่าเป็นห่วงก็พบในระดับชั้น ป.5 - ป.6 และที่เพิ่งตรวจพบคือชั้น ป.4 ทางชุมชนกือติง เทศบาลเมืองเบตงได้เห็นความสำคัญของภัยร้ายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อกลุ่มเยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเรียนที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นวัยอยากรู้อยากลอง ชุมชนกือติง เทศบาลเมืองเบตง จึงได้จัดโครงการ “บุหรี่ไฟฟ้า มหันตภัยใหม่ใกล้ตัวนักสูบรุ่นเยาว์” เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้รู้เท่าทันเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และเกิดความตระหนักถึงพิษภัยอันตรายจากการสูบของบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นแกนนำในการช่วยเพื่อนมิให้ตกเป็นเหยื่อของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
-
1. เพื่อให้เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และ ตระหนักถึง โทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% มีความรู้ รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
-
2. เพื่อให้เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมมีความตระหนักถึงอันตรายของพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% สามารถถ่ายทอดความรู้ขยายผลไปยังผู้ใกล้ชิดใน ครอบครัว เพื่อนบ้านและชุมชนได้ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
-
3. เพื่อให้เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมมีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% มีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
- 1. โครงการ “บุหรี่ไฟฟ้า มหันตภัยใหม่ใกล้ตัวนักสูบรุ่นเยาว์” ปีงบประมาณ 2567รายละเอียด
กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมอบรมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างภูมิคุ้มกันจากบุหรี่ไฟฟ้า - ค่าวิทยากรบรรยาย จำนวน 1 ชั่วโมงๆละ 600 บาท เป็นเงิน 600 บาท - ค่าป้ายไวนิลโครงการ ขนาด 1.2 เมตร x 2.4 เมตร จำนวน 1 ผืน เป็นเงิน 720 บาท - ค่าวัสดุประกอบการอบรม จำนวน 60 ชุดๆละ 40 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมกลุ่ม แบ่ง 4 กลุ่มๆละ 15 คน มีการทอดถ่ายความคิด ในกิจกรรมกลุ่ม - ค่าวิทยากรกลุ่ม จำนวน 5 ชั่วโมงๆละ 600 บาท 4 กลุ่มๆละ 1 คน เป็นเงิน 12,000 บาท - ค่าอาหารกลางวันสำหรับวิทยากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 คนๆละ 75 บาท
จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 1,500 บาท - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มผู้เข้ารับการอบรมสำหรับวิทยากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 80 คนๆละ 35 บาท จำนวน 2 มื้อ (ผู้เข้ารับการอบรม 60 คน เจ้าหน้าที่ฯ 20 คน) เป็นเงิน 5,600 บาท - ค่าเข้ารูปเล่มสรุปผลการดำเนินโครงการ เป็นเงิน 300 บาท - ค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการฯ
- สีไม้ จำนวน 3 โหลๆละ 110 บาท เป็นเงิน 330 บาท - สีชอล์ค จำนวน 3 โหลๆละ 85 บาท เป็นเงิน 255 บาท - ดินสอไม้ จำนวน 3 โหลๆละ 133 บาท เป็นเงิน 399 บาท - ยางลบ จำนวน 3 โหลๆละ 72 บาท เป็นเงิน 216 บาท - โพสอิท จำนวน 1 โหลๆละ 45 บาท เป็นเงิน 45 บาท - เชือกขาว จำนวน 3 ม้วนๆละ 12 บาท เป็นเงิน 36 บาท
- ปากกาเคมี 2 หัว สีน้ำเงิน สีแดง สีดำ จำนวน 3 โหลๆละ120 บาท เป็นเงิน 360 บาท
- กระดาษบรู๊ฟ จำนวน 15 แผ่นๆละ 5 บาท เป็นเงิน 75 บาท - ค่าถ่ายเอกสารแบบทดสอบประเมินความรู้ เป็นเงิน 130 บาทงบประมาณ 24,966.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567
ณโรงเรียนตาดีกาอุสมาเนียะห์ ชุมชนกือติง
รวมงบประมาณโครงการ 24,966.00 บาท
หมายเหตุ : หมายเหตุ งบประมาณสามารถถัวเฉลี่ยได้ทั้งโครงการโดยมีกิจกรรมอย่างครบถ้วน
- เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และ ตระหนักถึง
โทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
- เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมมีความตระหนักถึงอันตรายของพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
- เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมการอบรมมีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้า
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง รหัส กปท. L7161
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................