2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล หมายถึง การใช้ยาโดยมีข้อบ่งชี้ มีประสิทธิผลจริง สนับสนุนด้วยหลักฐานที่เชื่อถือได้ มีราคาเหมาะสม ลดต้นทุนยาที่สั่งเกินความจำเป็น คำนึงถึงปัญหาเชื้อดื้อยา ใช้ยาในกรอบบัญชียาอย่างเป็นขั้นตอน (คู่มือการใช้ยาอย่างสมเหตุผลตามบัญชียาหลักแห่งชาติ) จากการสำรวจสถานการณ์การใช้ยาในชุมชน ปี 2567พบว่า ประชาชนยังมีพฤติกรรมผิดๆในการหาซื้อยาปฏิชีวนะใช้เองจากร้านค้า หรือมีการเรียกร้องขอใช้ยาปฏิชีวนะจากเจ้าหน้าที่ผู้สั่งจ่ายยาใน รพสต.บ่อยๆ ในโครงการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งได้กำหนดให้เป็นการพัฒนาระบบบริการสาขาส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล(Rational Drug use : RDU) ใน หน่วยบริการปฐมภูมิและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลได้กำหนดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล หมายถึง การใช้ยาโดยมีข้อบ่งชี้ มีประสิทธิผลจริง สนับสนุนด้วยหลักฐานที่เชื่อถือได้ มีราคาเหมาะสม ลดต้นทุนยาที่สั่งเกินความจำเป็น คำนึงถึงปัญหาเชื้อดื้อยา ใช้ยาในกรอบบัญชียาอย่างเป็นขั้นตอน (คู่มือการใช้ยาอย่างสมเหตุผลตามบัญชียาหลักแห่งชาติ) จากการสำรวจสถานการณ์การใช้ยาในชุมชน ปี 2567พบว่า ประชาชนยังมีพฤติกรรมผิดๆในการหาซื้อยาปฏิชีวนะใช้เองจากร้านค้า หรือมีการเรียกร้องขอใช้ยาปฏิชีวนะจากเจ้าหน้าที่ผู้สั่งจ่ายยาใน รพสต.บ่อยๆ ในโครงการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งได้กำหนดให้เป็นการพัฒนาระบบบริการสาขาส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล(Rational Drug use : RDU) ใน หน่วยบริการปฐมภูมิและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลได้กำหนดแนวทาง เครื่องมือและตัวชี้วัด นอกจากนี้ จุดเน้นการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในระดับ รพสต. คือ เน้นการสั่งใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบโดยเฉพาะใน ๒ กลุ่มโรคคือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (ARI) และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea : AD) โดยมีเป้าหมาย คือ ใช้ยาปฏิชีวนะน้อยสุดเท่าที่จำเป็น, อัตราใช้ยาปฏิชีวนะไม่มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ≤ ร้อยละ 20 (จากข้อมูลการใช้ยาปฏิชีวนะของ รพสต.นาเสมียน ปีงบประมาณ 2567 พบว่า อัตราใช้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มโรค ARI รพ.สต.อยู่ที่ร้อยละ 7.27 ส่วนโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันอัตราใช้ยาปฏิชีวนะเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 19.77 ) ซึ่งก็ผ่านเกณฑ์ มาตรฐานการใช้ยาสมเหตุสมผล แต่ก็มีเป้าหมายที่ซื้อยามารับประทานเองจากร้านขายยาหรือคลินิก โดยกลุ่มประชาชนเอง จากการสำรวจร้านชำในพื้นที่รับผิดชอบของ รพ.สต.นาเสมียน จำนวน 39 ร้าน พบว่ามีร้านชำที่ขายยาปฏิชีวนะ จำนวน 15 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 38.46 ทำให้ประชาชนที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและหลอดลมอักเสบเฉียบพลันโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานเอง ด้วยความคิดเดิมๆ ที่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะแล้วหายจากโรคซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ เป็นผลให้ เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ยา ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเสมียน จึงได้จัดทำโครงการรู้เท่าทัน การใช้ยาอย่างสมเหตุสม ปี 2568
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/03/2025
กำหนดเสร็จ 30/09/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ประชาชนตระหนักถึงการใช้ยาสมเหตุสมผล ร้อยละ 80
2. ร้านชำไม่ขายยาปฏิชีวนะ ร้อยละ 100