แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการส่งเสริมสุขภาพจิตในเยาวชนชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
บริษัท มัชญกาญงานวิจัย 56 จำกัด
อำเภอ พระเเสง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
สถานการณ์ที่ 1: ความเครียดในเยาวชนอายุ 18-25 ปี เป็นปัญหาเชิงซ้อนที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ งานวิจัยของ Mahmoud et al. (2012) ในวารสาร Journal of Adolescent Health ชี้ให้เห็นว่าความเครียดในช่วงวัยนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพจิตและพัฒนาการทางอารมณ์ การแก้ปัญหาควรมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการจัดการความเครียด การสร้างระบบสนับสนุนทางจิตสังคม และการให้คำปรึกษาเชิงรุก โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาและสถานที่ทำงาน การสร้างหลักสูตรการเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิต การฝึกทักษะการผ่อนคลาย และการสร้างเครือข่ายสนับสนุนทางอารมณ์เป็นกลยุทธ์สำคัญ งานวิจัยของ Robotham & Julian (2006) ยังพบว่าการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่เป็นมิตรและไม่ตีตราทางสังคมจะช่วยลดความรุนแรงของปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางจิตใจ การสร้างชุมชนออนไลน์ที่เอื้ออาทรและเข้าใจ จะเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเยาวชนที่มีความเครียดสูง การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับกลยุทธ์และพัฒนาแนวทางการดูแลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถานการณ์ที่ 2: การสร้างเครือข่ายพลเมืองสุขภาพจิตเป็นกลไกสำคัญในการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตที่ซับซ้อนและกระจายตัว งานวิจัยของ World Health Organization (2018) ระบุว่าเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็งสามารถลดผลกระทบทางลบของปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างมีนัยสำคัญ การขยายและเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของสมาชิกเครือข่าย การสร้างระบบการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาเครื่องมือและแนวปฏิบัติร่วมกัน จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย งานศึกษาของ Tuli & Deshmukh (2015) ชี้ให้เห็นว่าการสร้างวัฒนธรรมการดูแลและเกื้อกูลกันในชุมชนเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายสุขภาพจิต การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงและสนับสนุนการทำงานของเครือข่าย การสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน และการสนับสนุนทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เครือข่ายสามารถตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างครอบคลุมและทันท่วงที
สถานการณ์ที่ 3: ภาวะซึมเศร้าในผู้ใหญ่อายุ 26-60 ปี เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม งานวิจัยของ Kessler et al. (2003) ในวารสาร JAMA Psychiatry ชี้ให้เห็นว่าภาวะซึมเศร้าสามารถลดทอนผลิตภาพการทำงานและคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหาจำเป็นต้องมีแนวทางที่รอบด้าน เริ่มตั้งแต่การคัดกรองและวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบการดูแลทางจิตเวชที่เข้าถึงง่ายและไม่ตีตรา การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตในสถานที่ทำงานและชุมชน การพัฒนาโปรแกรมการฟื้นฟูและสนับสนุนทางจิตสังคม งานศึกษาของ Cuijpers et al. (2014) แนะนำว่าการใช้วิธีการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) ควบคู่กับการใช้ยาอย่างเหมาะสม การสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน และการสร้างระบบติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดความรุนแรงของภาวะซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้คำปรึกษาและติดตามผล การพัฒนาแอปพลิเคชันและเครื่องมือสนับสนุนการดูแลตนเอง การสร้างชุมชนออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้กำลังใจ จะเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงและช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 27/01/2025
กำหนดเสร็จ : 04/04/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?เยาวชนจะมีการพัฒนาทางด้านจิตใจและอารมณ์อย่างเป็นระบบ โดยคาดว่าจะสามารถจัดการกับความเครียด ความวิตกกังวล และปัญหาทางอารมณ์ได้ดีขึ้น มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นมากขึ้น สามารถสื่อสารและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต และสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ให้กับเยาวชนในระยะยาว อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและมีความเข้มแข็งทางจิตใจ