แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลทุ่งหว้า รหัส กปท. L8009
อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.นายสืบสายลิ่มสายหั้ว
2.นายสุชาติ เฮ่าฮู่เที่ยน
3.นายอมรทุ่งหว้า
4.นายชวนพิศ ทุ่งหว้า
5.นายธวัช อินทร์ชู
ปัจจุบัน “บุหรี่ไฟฟ้า” ถือว่าได้รับความนิยมขึ้นกว่าในอดีตมาก ซึ่งแรกเริ่ม บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการโฆษณาสรรพคุณว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่มาจนวันนี้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ได้กลายเป็นเหมือนกับทางเลือกสำหรับ “วัยรุ่น” มากขึ้นในฐานะ “แฟชั่นใหม่” ภายใต้แนวความคิดที่ว่า “เท่ห์ สูบได้ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” วิกฤตบุหรี่ไฟฟ้าไทย ระบาดเพิ่ม 10 เท่าใน 1 ปี เปิดเผยในวงสัมมนา “บุหรี่ไฟฟ้ามหันตภัยไม่เงียบล่าเยาวชน” ซึ่งการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบประชากรไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 0.14% คิดเป็นจำนวน ๗๘,๗๔๒ คน ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยเป็นเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า อายุ15 - 24 ปี จำนวน24,050 คน และการสำรวจสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ปี 2568พบอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1.21 %คิดเป็นจำนวน 709,677 คน โดยเป็นเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า อายุ 15 - 24 ปีจำนวน 269,553คน ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ กุมารแพทย์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวถึงวิกฤตบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ระบาดเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 10 เท่า ใน 1 ปีในเวทีเสวนา ‘บุหรี่ไฟฟ้ามหันตภัยไม่เงียบล่าเยาวชน’ ของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งเพราะอยู่ในช่วงระบาดขาขึ้น ที่จำเป็นต้องประสานความร่วมมืออย่างเป็นระบบและเข้มข้นจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่าย ซึ่งสิ่งที่สำคัญต้อง ‘คงกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า’เพราะหากคิดว่าคุมไม่ได้ก็ยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าไปเลย ไทยจะยิ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกว่านี้ เหมือนแคนาดาและนิวซีแลนด์ที่เมื่อยกเลิกกฎหมายแล้ว อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนพุ่งขึ้น 2-5 เท่าใน 3 ปี ดังนั้นสิ่งที่ไทยจะต้องทำเร่งด่วนนอกเหนือจากห้ามนำเข้า คือ ‘เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด ในการจับ ปรับ อย่างจริงจัง ห้ามโฆษณาและห้ามขายโดยเฉพาะในสื่อออนไลน์’ เหมือนกับที่สิงคโปร์และฮ่องกงดำเนินการ คาดการณ์ว่าอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนไทยจะไม่เพิ่มขึ้นและจะค่อยๆ ลดลง 1.7 % ใน 3 ปี จากการสังเกตและติดตามประเมินภายในโรงเรียนพบว่า เด็กอายุ 11 -15 ปี บางกลุ่มมีพฤติกรรม เปลี่ยนไปอย่างผิดปกติเช่นติดเกมส์มาโรงเรียนพูดถึงแต่เกมส์ที่เล่นด้วยกันในค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่สนใจเรียน ก้าวร้าวและหลับในห้องเรียน บางคนมีการขอ (ขู่) เอาเงินจากเพื่อนๆและรุ่นน้องในโรงเรียนและ/หรือที่เล่นเกมส์ด้วยกัน และมีการโพสต์ในเฟสบุ๊คกลุ่ม (ปิด) ซักชวนให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า โดยเป็นตัวแทนขายตรงพร้อมกับชักชวนเพื่อนๆและรุ่นน้องให้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นเด็กที่มีฐานะค่อนข้างดีกลุ่มนี้จะมีทั้งเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันและต่างโรงเรียนมีนัดที่จะไปพบกันทั้งในสนามกีฬา และสถานที่ใกล้ร้านจำหน่ายโดยผู้ปกครอง หรือ ครู ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ตลอดจนไม่รู้ถึงสาเหตุพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของบุตรหลานของตน เช่น ขอเงินมากกว่าปกติโดยอ้างเหตุซื้ออุปกรณ์การเรียน ฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามาแรงในปัจจุบัน ซึ่งที่พบมีมากในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา และที่น่าเป็นห่วงก็พบในระดับชั้น ป.5 - ป.6 และที่เพิ่งตรวจพบคือชั้น ป.4 ทางชุมชนบ้านโพธิ์ ได้เห็นความสำคัญของภัยร้ายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อกลุ่มเยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเรียนที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นวัยอยากรู้อยากลอง ชุมชนบ้านโพธิ์ เทศบาลตำบลทุ่งหว้า จึงได้จัดทำโครงการ “บุหรี่ไฟฟ้า มหันตภัยใหม่ใกล้ตัวนักสูบรุ่นเยาว์” เพื่อให้นักเรียน เยาวชนและผู้ปกครองได้รับความรู้รู้เท่าทันเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และเกิดความตระหนักถึงพิษภัยอันตรายจากการสูบของบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นแกนนำในการช่วยเพื่อนมิให้ตกเป็นเหยื่อของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
-
1. 1.เพื่อให้เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และ ตระหนักถึง โทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : 1. เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% มีความรู้ รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าขนาดปัญหา 100.00 เป้าหมาย 100.00
-
2. 1. เพื่อให้เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมมีความตระหนักถึงอันตรายของพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : 1. เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% สามารถถ่ายทอดความรู้ขยายผลไปยังผู้ใกล้ชิดใน ครอบครัว เพื่อนบ้านและชุมชนได้ขนาดปัญหา 100.00 เป้าหมาย 100.00
-
3. เพื่อให้เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมมีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าตัวชี้วัด : เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรม ร้อยละ 80% มีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ขนาดปัญหา 100.00 เป้าหมาย 100.00
- 1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้บุหรี่ไฟฟ้า/การป้องกัน/การปฏิเสธ/โทษของบุหรี่ กิจกรรมย่อย ทำกิจกรรมกลุ่ม นำเสนอ - ถาม – ตอบ ปัญหาความรู้ที่ได้รับรายละเอียด
กิจกรรมหลัก อบรมให้ความรู้บุหรี่ไฟฟ้า/การป้องกัน/การปฏิเสธ/โทษของบุหรี่ กิจกรรมย่อย - ทำกิจกรรมกลุ่ม - นำเสนอ - ถาม – ตอบ ปัญหาความรู้ที่ได้รับ รายละเอียดงบประมาณ 1. ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 3 ชั่วโมง ๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท 2. ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม จำนวน 2 คนๆ ละ 3 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 3,600 บาท 2. ค่าอาหารว่าง มื้อ ๆ ละ 35 บาท จำนวน 50 คน เป็นเงิน 3,500 บาท 3. ค่าอาหารกลางวัน 1 มื้อ ๆ ละ 70 บาท จำนวน 50 คน เป็นเงิน 3,500 บาท 4. ค่าป้ายไวนิลขนาด 1.25 X 2.40 ม. จำนวน 1 ป้าย เป็นเงิน 450 บาท 5. ค่าเครื่องเสียง จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 1,000 บาท 6. ค่าเอกสารที่ใช้ในโครงการ 6.1 ค่ากระเป๋าผ้าใส่เอกสาร จำนวน 50 ใบๆละ 60 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท 6.2 ค่าสมุดปกอ่อน จำนวน 50 เล่ม ๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 500 บาท 6.3 ค่าปากกาลูกลื่น จำนวน 50 ด้ามๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 500 บาท 6.4 ค่ากระดาษปรุ๊พ จำนวน 6 แผ่นๆ ละ 5 บาท เป็นเงิน 30 บาท 6.5 ค่าปากกาเคมี จำนวน 8 ด้ามๆ ละ 15 บาท เป็นเงิน 120 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 18,000.-บาท (หนึ่งหมื่นแปดพันบาทถ้วน) ทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยกันได้
งบประมาณ 180,000.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 30 กันยายน 2568
ณ อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนอนุบาลทุ่งหว้า
รวมงบประมาณโครงการ 180,000.00 บาท
1เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และ ตระหนักถึง โทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 2. เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมมีความตระหนักถึงอันตรายของพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า 3. เด็กเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านโพธิ์ ที่เข้าร่วมการอบรมมีทักษะในการปฏิเสธจากการชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้า
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลทุ่งหว้า รหัส กปท. L8009
อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลทุ่งหว้า รหัส กปท. L8009
อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................