กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จวบ

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการตรวจหาสารเคมีในเลือดกลุ่มเกษตรกร ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ปีงบประมาณ 2568

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จวบ

โรงพยาบาลเจาะไอร้อง

ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด

สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ คือ จะทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธ์และตา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่การที่อวัยวะในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกาย ไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่าง ๆ ขึ้นมา เช่นโรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ตำบลจวบ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ85.98 (สำนักงานเกษตร อำเภอเจาะไอร้อง 2567) และมีการมีการใช้พื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากถึง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่ส่วนยางพารา สวนผลไม้ และปลูกผักสวนครัว ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง ดังนั้น โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ได้เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบ
จึงได้จัดทำโครงการโครงการตรวจหาสารเคมีในเลือดกลุ่มเกษตรกร ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ปีงบประมาณ 2568 ขึ้น เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือด เพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใด และจัดอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการแก่เกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้อง เพื่อให้เกษตรกรเกิดความตระหนักในการป้องกันตนเองจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปลอดโรคจากการทำงานต่อไป

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อตรวจหาปริมาณสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร ตำบลจวบ

ร้อยละ 80 ของเกษตรกรในตำบลจวบ ได้รับการคัดกรองสารเคมีตกค้างในเลือด

0.00
2 เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง

ร้อยละ 80 ของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในตำบลจวบ มีความรู้เรื่องการใช้สารเคมีที่ถูกต้องและปลอดภัย

0.00

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น

กำหนดเสร็จ

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 ตรวจหาสารเคมีในเลือดกลุ่มเกษตรกรตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง ปีงบประมาณ 2568

ชื่อกิจกรรม
ตรวจหาสารเคมีในเลือดกลุ่มเกษตรกรตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง ปีงบประมาณ 2568
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
  • กระดาษทดสอบหาปริมาณโคลีนเอสเตอเรส
    จำนวน 3 กล่อง x 950 = 2,850 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 30 กันยายน 2568
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

 

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
2850.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 2,850.00 บาท

หมายเหตุ :

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

1. ทราบถึงสถานการณ์สารเคมีตกค้างในเลือดของกลุ่มเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในตำบลจวบ
2. ประชากรกลุ่มเสี่ยง มีความรู้ ทักษะการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย
3. ประชากรกลุ่มเสี่ยง ได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง และสามารถป้องกันไม่ให้สารเคมีเข้าร่างกายจนเป็นอันตราย


>