กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาย่า

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการชุมชนล้อมรักษ์ (CBTX) ในชุมชน รพ.สต.บ้านศาลามะปราง

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เขาย่า

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านศาลามะปราง

-

หมู่ที่ 1 , 2 , 4 และ 10 ตำบลเขาย่า

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานสิ่งเสพติด

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ร้อยละของหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน

 

50.00
2 ร้อยละของเด็กและเยาวชน อายุ 15-25 ปีในชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติด

 

12.00

ปัญหายาเสพติดของประเทศไทยเป็นปัญหาเรื้อรังปัญหาหนึ่ง โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ทวีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้จำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเศรษฐกิจและสังคมทั้งผู้เสพ ครอบครัว และชุมชน สถานการณ์ยาเสพติดสำหรับสถิติของผู้ป่วยสารเสพติดในประเทศไทย จากรายงานผลการดำเนินงานตามแบบบำบัดรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2565 พบว่ามีผู้เข้ารับการบำบัด ทั้งหมด 120,925 คน โดยแบ่งเป็นชาย จำนวน 1063,709 คนและหญิง จำนวน 14,206 คน นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 4,335 คน ว่างงาน จำนวน 24,349 คน และอื่นๆ จำนวน 17,105 คน เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอีกทั้งส่งผลกระทบต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าจำนวประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป เป็นผู้ที่ดื่มสุรา ประมาณ 15.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 28.4 โดยเป็นผู้ที่ดื่มสม่ำเสมอ 6.98 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 12.5 และเป็นผู้ที่ดื่มนานๆ ครั้ง 8.91 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 15.9 ในกลุ่มอายุ 25 - 44 ปี มีอัตราการดื่มสุราสูงสุด ร้อยละ 36 รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 20 - 25 ปี ร้อยละ 33.5 ตามลำดับ การใช้สุรา/สารเสพติดมีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการทางจิตหรือเรียกว่าภาวะโรคจิตเวชสุรา/สารเสพติด ซึ่งเมื่อสารดังกล่าวผ่านเข้าสู่สมองมีผลทำให้สารสื่อนำประสาทหรือสารโดปามีนในสมองผิดปกติ หากมีการเสพติด/ดื่มหนักมากก็จะส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยทั้งทางร่างการและทางจิตเวชได้ เช่น ภาวะหวาดระแวง หลงผิด ประสาทหลอน เป็นต้น กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับภาคีเครือข่ายดำเนินการการบำบัดรักษายาเสพติดภายใต้นโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย” ให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแทนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วิธีที่คุ้มค่าที่สุดคือการให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด (CommunityBasedTreatmentand Care: CBTX) ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษาโดยมีส่วนร่วมของชุมชนมีอัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือห้องฉุกเฉิน หรือประวัติทางอาชญากรรมลดลง และยังมีทางเลือกที่เหมาะสม อาทิ การลดอันตรายจากสารเสพติด การป้องกันและแก้ไขผู้ที่มีอาการทางจิตจากการใช้สารเสพติดเพิ่ม การเข้าถึงบริการระบบสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และการเตรียมการรองรับประมวลกฎหมายยาเสพติดเพื่อเป้าหมายคือผู้เสพผู้ติดยาเสพติดได้รับการบำบัดรักษา ลดอันตรายจากยาเสพติด สามารถกลับสู่สังคมไปใช้ชีวิตในสังคมตามปกติได้ จากสถิติผู้ป่วยจิตเวชสารเสพติดของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านศาลามะปรางที่มารับบริการแผนกผู้ป่วยจิตเวชสารเสพติด ปี 2566 จำนวน 4 ราย และ ปี 2567 จำนวน 3 ราย และยังมีผู้ป่วยติดสารเสพติดในพื้นที่อีกมากที่ยังไม่ได้รับการบำบัดรักษา และยังไม่มีอาการทางจิตเวช และหลังจากที่ผู้ป่วยได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาเพื่อป้องกันการกลับไปเสพสารเสพติดซ้ำ ซึ่งจะเห็นว่าผู้ที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับเสพซ้ำอีกเป็นจำนวนมาก การใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการบำบัดถือว่าเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกับประชาชนหรือกลุ่มบุคคลซึ่งต้องเข้ามาร่วมกันดำเนินการในการบำบัดฟื้นฟูทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจปฎิบัติการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์และการประเมิลผล การดูแลผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดในชุมชนเป็นการบำบัดแบบหนึ่งที่ให้บริการในชุมชน ทำให้เข้าถึงครอบครัวของผู้ใช้สารเสพติดและสมารถนำทรัพยากรรวมถึงนำความรู้ที่มีในชุมชนมาร่วมในการบำบัดฟื้นฟูได้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านศาลามะปราง กองสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดทำโครงการประชุมเชิงปฎิบัติการการสร้างการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชสารเสพติดในชุมชน ฟื้นฟูสมรรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชสารเสพติด เน้นชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดและมีความผิดปกติทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอย่างมีมาตรฐานและเหมาะสม สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อเพิ่มหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน

ร้อยละของหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน

50.00 2.00
2 เพื่อลดเด็กและเยาวชน อายุ 15-25 ปีในชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติด

ร้อยละของเด็กและเยาวชน อายุ 15-25 ปีในชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติด

12.00 10.00

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 50
กลุ่มวัยทำงาน 10
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
กลุ่มเป้าหมายจำแนกเพิ่มเติม
แกนนำ อสม. ผู้นำชุมชน 50

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 21/04/2025

กำหนดเสร็จ 30/09/2025

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 สกัดกั้นผู้เสพรายใหม่ในชุมชน โดยการคัดกรองและปรับพฤติกรรม ที่เน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่

ชื่อกิจกรรม
สกัดกั้นผู้เสพรายใหม่ในชุมชน โดยการคัดกรองและปรับพฤติกรรม ที่เน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

เพื่อสกัดกั้นผู้เสพรายใหม่ในชุมชน โดยการคัดกรองและปรับพฤติกรรม ที่เน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ มีการจัดตั้งกลุ่มค้นหาและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในพื้นทีรับผิดชอบ เพื่อค้นหากลุ่มเสพ กลุ่มเสี่ยง การบำบัดอย่างย่อในชุมชน การปรับพฤติกรรม รวมทั้งการส่งต่อไปยังสถานบำบัดเพื่อรักษาต่อเนื่องและส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เด็กในชุมชนได้พัฒนาทักษะตนเองโดยมีการประชุมแกนนำชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วย แกนนำอสม. จำนวน 55 คน ผู้นำชุมชน จำนวน 20 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 3 คน มีการให้ความรู้เกี่ยวยาเสพติด และฝึกปฏิบัติในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด โดยการจำลองเหตุการณ์ มีค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าอาหารว่างและครื่องดื่ม จำนวน 80 คนๆ ละ 2 มื้อๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 4,000 บาท - ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 80 คนๆ ละ 1 มื้อๆ ละ 70 บาท เป็นเงิน 5,600 บาท - ค่าทีมวิทยากร จำนวน 4 คน (ช่วงเช้า จำนวน 3 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท ช่วงบ่ายทำกิจกรรมซ้อมแผน มีทีมวิทยากร จำนวน 4 ท่านๆ 3 ชั่วโมงๆ 600 บาท เป็นเงิน 7,200 บาท) รวมเป็นเงิน 9,000 บาท

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 มีนาคม 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2568
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

1.มีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเสพกลุ่มเสี่ยง ในชุมชน 2.มีเครือข่ายในการขับเคลื่อนการทำงานในชุมชน

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
18600.00

กิจกรรมที่ 2 ลดความรุนแรงและลดผลกระทบของการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน

ชื่อกิจกรรม
ลดความรุนแรงและลดผลกระทบของการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

ลดความรุนแรงและลดผลกระทบของการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน การสร้างและพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายการเฝ้าระวัง ให้มีองค์ความรู้และมีทักษะในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนและมีคณะทำงานติดตามประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน ที่มาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกพื้นที่มีแผนการดำเนินงานการเฝ้าระวังยาเสพติดในชุมชนโดยมีการติดตามการเฝ้าระวังโดยภาคีเครือข่ายอสม.ผู้นำชุมชน

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 เมษายน 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

1.มีทีมเครือข่ายในการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน 2.ภาคีเครือข่ายมีความรู้และทักษะในการเฝ้าระวังยาเสพติดในชุมชน

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
0.00

กิจกรรมที่ 3 เพิ่มอัตราการเข้าถึงระบบการบำบัดรักษาภาครัฐของผู้เสพและผู้ติดและลดอัตราการเสพซ้ำของผู้ผ่านการบำบัดเมื่อคืนกลับชุมชน

ชื่อกิจกรรม
เพิ่มอัตราการเข้าถึงระบบการบำบัดรักษาภาครัฐของผู้เสพและผู้ติดและลดอัตราการเสพซ้ำของผู้ผ่านการบำบัดเมื่อคืนกลับชุมชน
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

เพิ่มอัตราการเข้าถึงระบบการบำบัดรักษาภาครัฐของผู้เสพและผู้ติด และลดอัตราการเสพซ้ำของผู้ผ่านการบำบัดเมื่อคืนกลับชุมชน พัฒนาเครือข่ายชุมชนที่เฝ้าระวังและสอดส่องปัญหายาเสพติดในชุมชนให้เชื่อมต่อกับหน่วยบริการสุขภาพภาครัฐให้สามารถส่งต่อผู้ติดยาไปบำบัดรักษาได้อย่างทั่วถึง และการสร้างระบบรองรับต่อผู้ที่ผ่านการบำบัดจากสถานบำบัดเมื่อกลับมาอยู่ในชุมชน ให้ได้รับการฝึกอาชีพ การสร้างการยอมรับในการจ้างงาน และให้โอกาสในการกลับมาเป็นสมาชิกของชุมชน การพัฒนาระบบการดูแลผู้การบำบัดโดยการบูรณาการวิถีชุมชน ที่ทำให้ผู้ผ่านการบำบัดไม่กลับไปเสพยาซ้ำโดยมีการเฝ้าระวังและติดตามโดยภาคีเครือข่ายในชุมชน

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2568
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

1.ผู้เสพได้รับการบำบัดรักษาร้อยละ50 2.ผู้เสพส่งบำบัดรักษาได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากชุมชน

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
0.00

กิจกรรมที่ 4 เฝ้าระวังติดตามอย่างต่อเนื่อง

ชื่อกิจกรรม
เฝ้าระวังติดตามอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

เฝ้าระวังติดตามอย่างต่อเนื่อง มีการสุ่มตรวจปัสสาวะ ทุก 4 เดือน เพื่อเฝ้าระวังการเสพยาเสพติดซ้ำ และส่งเสริมอาชีพตามที่ตนเองถนัดเพื่อให้ผู้เสพห่างไกลยาเสพติด 1.ค่าชุดตรวจยาเสพติด จำนวน 100 ชุด เป็นเงิน 3,500 บาท

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 เมษายน 2568 ถึง 30 กันยายน 2568
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

1.ชุมชนมีการติดตามกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเสพอย่างต่อเนื่อง

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
3500.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 22,100.00 บาท

หมายเหตุ :

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

ปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชน อายุ 15 - 25 ปี ลดลง


>