2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
หลักการและเหตุผล
โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่นับวันจะมีความรุนแรงและมีอัตราป่วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในจำนวนผู้ป่วยเหล่านั้นส่วนหนึ่งก็เสียชีวิตซึ่งถือว่าเป็นโรคระบาดที่อันตราย ในอดีตโรคไข้เลือดออกมักจะเป็นเฉพาะในกลุ่มเด็กเท่านั้น แต่ในปัจจุบันพบในทุกกลุ่มอายุและเป็นปัญหาสำคัญทางการแพทย์และการสาธารณสุขในระดับประเทศ เนื่องจากความรุนแรงของโรคแปรผันตรงต่ออัตราตาย การป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกจึงส่งผลต่อสุขภาพของผู้ป่วย,ชมชน, สังคมและประเทศชาติตามลำดับ หากมีการตรวจ วินิจฉัยขั้นต้นที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ แต่เดิมระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออกจะพบบ่อยในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5 – 9 ปี แต่ปัจจุบันมักพบผู้ป่วยได้ในทุกกลุ่มอายุและโรคไข้เลือดออกนี้ มียุงลายเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญและในช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ของทุกปีจะเป็นช่วงฤดูฝนมียุงลายชุกชุม และเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคมาก แต่แนวโน้มจากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกมีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนมาก และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการดำเนินการควบคุมและป้องกันที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่องการดำเนินงานด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากประชาชน องค์กรส่วนท้องถิ่นองค์กรชุมชนต่าง ๆ จึงจะประสบความสำเร็จการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกก็เช่นเดียวกันหากประชาชนทุกครัวเรือนมีความรู้ในเรื่องโรคไข้เลือดออกการป้องกันควบคุมโรคที่ถูกต้องความตระหนักในอันตรายของโรคมีการดำเนินการที่ต่อเนื่องสามารถดูแลครัวเรือนของตนเองได้โรคไข้เลือดออกก็จะมีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายที่ลดลง
ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หมู่ 5 บ้านเกาะสวาด หมู่ 6 บ้านกูบู หมู่ 7 บ้านโคกยามู หมู่ 8 บ้านสะปอม และหมู่ 10 บ้านบึงฉลามเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีปัญหาการเกิดโรคไข้เลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง อัตราป่วยโรคไข้เลือดออกทุกประเภทมีแนวโน้มการระบาดของโรค ปีเว้น 1 ปี โดยปีที่มีการระบาดสูงสุดในรอบ 10 ปี คือ ปี 2565 พบผู้ป่วยจำนวน 3 ราย คิดเป็นอัตรา 46.51 ต่อแสนประชากร ซึ่งเป็นปีที่เป็นรอบของการระบาด และในปี 2566 เป็นรอบของการระบาด พบผู้ป่วยจำนวน 10 ราย คิดเป็นอัตรา 173.22 ต่อแสนประชากร ปี 2567 พบผู้ป่วย จำนวน 4 ราย คิดเป็นอัตรา 62.29 ต่อแสนประชากร(อัตราป่วยเกิน 50 ต่อแสนประชากร)ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกที่มีมาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการแก้ไขปัญหา จากการตั้งรับไปสู่นโยบายเชิงรุกโดยใช้ยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมให้คนในชุมชนได้เห็นความสำคัญถึงสภาพปัญหาของโรคไข้เลือดออก เกิดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง พร้อมทั้งหาวิธีการแก้ไข ซึ่งปัญหาของโรคไข้เลือดออกเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมดังนั้น การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก จึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโรคที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเน้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญและถือเป็นภารกิจที่ต้องช่วยกัน กระตุ้นและชักนำให้ประชาชน องค์กรชุมชน ตลอดจนเครือข่ายสุขภาพให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/04/2025
กำหนดเสร็จ 15/09/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. สามารถลดอัตราการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกให้เหลือไม่เกิน 50 ต่อแสนประชากร
2. ประชาชนให้ความร่วมมือในการดำเนินการควบคุมและป้องกันโรคไข้เลือดออก