กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะขับขี่ยานพาหนะสองล้อ เช่น รถจักยาน และรถจักรยานยนต์ แลพการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสส่วนใหญ่มาจากอาการบาดเจ็บที่ศรีษะ ซึ่งหมวกนิรภัยมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บที่ศรีษะ และลดอาการรุนแรงของอาการบาดเจ็บลงได้ การส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีวินัยและสวมหมวกนิรภัยมากขึ้น จึงเป็นวิธีการสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บที่ศรีษะหรือเสียชีวิตจากการบาดเจ็บประเภทนี้ นอกจากนี้ผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยยังเพิ่มภาระให้แก่โรงพยาบาลที่รับตัวเข้ารักษาเป็นภาระแก่บุคคล ครอบครัว (หรือผู้ดูแล) และสังคมหากต้องกลายเป็นคนพิการสาเตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย 99% เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยรายงานของสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ยังเผยว่ามีเด็กไทยเพียง 7% เท่านั้นที่ใส่หมวกนิรภัยระหว่างการเดินทาง ซึ่งอัตราการใช้หมวกนิรภัยจำนวนน้อยนี่เอง สะท้อนให้เห็นถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าภัยอันตรายรอบตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่พ่อแม่และผู้ปกครองหลายๆคนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บุตรหลานสวมใส่หมวกนิรภัยขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์แล้วก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่แม้จะสวมหมวกนิรภัยให้เด็ก แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพ มีขนาดพอดีกับศรีษะเด็กและจะสวมใส่หมวกนิรภัยให้เด็กอย่างถูกวิธีได้อย่างไร และพฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาทขาดความระมัดระวัง ชะล่าใจขับขี่ในช่องจราจรที่ไม่ถูกต้องการเปลี่ยนช่องทางจราจรโดยไม่เปิดสัญญาไฟ เนื่องจากอาจเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ที่การจราจรไม่ได้หนาแน่นเหมือนในเมือง เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้มาตรฐาน รวมถึงการเรียนรู้วิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการป้องกันและสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ดังนั้นเพื่อการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้ถนน การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก พ่อแม่และผู้ปกครอง ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้หมวกนิรภัย พร้อมอบรมวินัยจราจร ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากในการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็ก ตามหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท 08116.4/ว 256 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ได้กำหนดมาตรการและแนวทางในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัยของเด็กปฐมวัยและผู้ปกครองในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ถือปฎิบัติดังนี้ 1.กำหนดเขตสวมหมวกนิรภัย 100% ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งโดยให้ดำเนินการดังนี้ 1.1 จัดทำป้ายเขตสวมหมวกนิรภัย 100% ในบริเวณด้านหน้าอาคารอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1.2 กำหนดให้เด็กปฐมวัยรวมทั้งผู้ปกครองที่ขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และจักรยานทุกคนตสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่มารับส่งบุตรหลาน 2.ในการพิจารณาจัดการหมวกนิรภัยสำหรับเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อปฎิบัติตามข้อ 1 ดังนี้ 2.1 พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จัดซื้อหรือจัดหาให้กับบุตรหลานด้วยตนเอง 2.2 หากพ่อ แม่ ผู้ปกครองท่านใด เป็นผู้มีรายได้น้อยหรือยากจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในการดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจพิจารณาจัดหาหมวกนิรภัยให้กับเด็กปฐมวัยโดยเป็นลักษณะให้ยืมใช้ โดยดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 เพื่อความปลอดภัยระหว่างการเดินทางของเด็กปฐมวัยและผู้ปกครองระหว่างการเดินทางมาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือการขับขี่บนท้องถนน และเพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยให้บุตรหลานสวมใส่หมวกนิรภัยขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ประกอบกับหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด ที่ มท0816.4/ว1214 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เรื่องการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับปฐมวัย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีการศึกษา พ.ศ. 2564 ข้อ 2 การส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับปฐมวัย โดยสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัย กำหนดพื้นที่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนที่จัดการศึกษารัดับปฐมวัยเป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100% เพื่อเป็นการดำเนินตามนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและเพื่อเป็นอันตรายจากอุบัติเหตุจากการไม่สวมหมวกนิรภัย กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม จึงได้จัดทำโครงการเด็กปฐมวัย สวมหมวกนิรภัย มีวินัยจราจร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

• 1. 1.เพื่อขับเคลื่อนเชิงนโยบายและแผนงานการป้องกันและแก้ปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเด็กระดับปฐมวัย

  ตัวชี้วัด : การป้องกันและแก้ปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเด็กระดับปฐมวัย

  ขนาดปัญหา 70.00 เป้าหมาย 100.00
• 2. เพื่อพัฒนารูปแบบและสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ในการปลูกฝังวินัยจราจรตั้งแต่ระดับปฐมวัยใหให้เกิดนวัฒกรรมการจัดการความปลอดภัยทางถนน ในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย การจัดทำธนาคารหมวกนิรภัยสำหรับเด็ก การจัดการสภาพแวดล้อมบริเวณหน้าสถานศึกษาและบริเวณทางข้าม การจัดการความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียน การจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมตามช่วงวัย และสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองในการขับขี่รถปลอดถัย

  ตัวชี้วัด : ปลูกฝังวินัยจราจรตั้งแต่ระดับปฐมวัยใหให้เกิดนวัฒกรรมการจัดการความปลอดภัยทางถนน

  ขนาดปัญหา 70.00 เป้าหมาย 80.00
• 3. เพื่อพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างวินัยจราจร ความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กระดับปฐมวัย และพัฒนาแนวทางการนำหลักสูตรไปใช้ที่เหมาะสมให้บุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะ ในการจัดกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กโดยบูรณาการ การปลูกฝังจราจร ตามหลักวิชาการและมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา

  ตัวชี้วัด : แนวทางการนำหลักสูตรไปใช้ที่เหมาะสมให้บุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะ ในการจัดกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กโดยบูรณาการ การปลูกฝังจราจร ตามหลักวิชาการและมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา

  ขนาดปัญหา 70.00 เป้าหมาย 90.00

ตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2569

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในเขตตำบลฝาละมี

รวมงบประมาณโครงการ 56,780.00 บาท

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีความปลอดภัยบนท้องถนนที่เน้นการทำงานอย่างมีส่วนร่วมระหว่าง ครู ผู้ปกครองและชุมชน 2.เด็กนักเรียนมีเจตคติที่ดีในการสวมหมวกนิรภัยและการขับขี่พาหนะด้วยความปลอดภัย 3.เด็กมีความรู้ ความเข้าใจในการขับขี่ยานพาหนะให้มีความปลอดภัยบนท้องถนนในการเดินทางมาเรียน 4.ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องปลอดภัย

ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้

• check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
• check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
• check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว