กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น

กปท.7

แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลนครหาดใหญ่ รหัส กปท. L7258

อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"

อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.
ชื่อ
check_box_outline_blank
แผนงาน
check_box
โครงการ
check_box_outline_blank
กิจกรรม
นักเรียนเทศบาลนครหาดใหญ่ รู้เท่าทันภัยทางน้ำ
2.
ชื่อ
check_box_outline_blank
หน่วยงาน
check_box_outline_blank
องค์กร
check_box_outline_blank
กลุ่มประชาชน
ศูนย์อาสาสมัคร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กลุ่มคน
นายรชดี้ บินหวัง
นายธานันธ์ สาเล็ง
นางสาวศุภานนท์ โสภามณี
นางสาวศุภานนท์ โสภามณี
นางสาวจิรวรรณ ไชยรัตน์
นางสาวจิรภิญญา สุขไพบูลย์สมบัติ
นางสาว ธนพร ชนะวรรณโณ
3.
หลักการและเหตุผล

การจมน้ำนับเป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีต้องเสียชีวิต ซึ่งมีสถิติสูงกว่าการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ และสูงเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร พบว่าในแต่ละปีเด็กไทยเสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 1,500 คน หรือเฉลี่ยวันละ 4 คน และยังมีแนวโน้มสูงมากขึ้น พบว่าอุบัติเหตุจากการจมน้ำนั้นมี 2 ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยด้านบุคคลและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข, 2552) จากการสำรวจข้อมูลเด็กไทยปี พ.ศ. 2546-2547 พบว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ว่ายน้ำเป็นร้อยละ 16.3 คน หรือกล่าวได้ว่าในจำนวนเด็กที่อายุน้อยกว่า 15 ปี จำนวนกว่า 13 ล้านคน ว่ายน้ำเป็นเพียง 2 ล้านคน และเด็กส่วนใหญ่ไม่เรียนว่ายน้ำจนกว่าอายุ 9 ปีขึ้นไป ซึ่งในต่างประเทศพบว่า การสอนเด็กให้ว่ายน้ำเป็นและรู้จักวิธีการเอาชีวิตรอด ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการจมน้ำของเด็ก แต่สำหรับประเทศไทยโอกาสฝึกว่ายน้ำของเด็กยังอยู่ในวงจำกัด และการสอนว่ายน้ำที่มีอยู่ยังขาดในเรื่องของทักษะความปลอดภัยทางน้ำ ทักษะการเอาชีวิตรอด การป้องกันอุบัติภัยทางน้ำและการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทางน้ำ (สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2552)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การจมน้ำยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ในรอบ 10 ปีตั้งแต่ พ.ศ.2551 – 2560 มีรายงานเสียชีวิตรวม 9,574 คน เฉลี่ยปีละ 957 คน โดยเฉพาะเดือนตุลาคมเป็นช่วงปิดเทอม พบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตการจมน้ำเฉลี่ยวันละ 3 คน สูงรองจากช่วงปิดเทอมใหญ่ภาคฤดูร้อน (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) โดยเดือนตุลาคมปี 2560 มีเด็กเสียชีวิต 75 คน กลุ่มอายุ 5 – 9 ปีเสียชีวิตมากที่สุด ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเร่งให้ความรู้ประชาชน ผู้ปกครอง ผ่านสื่อต่าง ๆ ในท้องถิ่น เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำเสียชีวิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจมน้ำส่วนใหญ่เกิดจากการไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำสาธารณะมากที่สุด โดยเกือบทั้งหมดไม่มีอุปกรณ์ช่วยลอยตัวขณะเกิดเหตุ ที่น่าสังเกตคือ เด็กที่เสียชีวิตร้อยละ 12.5 ว่ายน้ำเป็น และคุ้นเคยกับแหล่งน้ำที่ไปเล่น แต่ไม่ทราบสภาพใต้น้ำที่ เช่น น้ำมีความเชี่ยว กระแสน้ำแรง และมีความลึกมาก รวมทั้งเด็กบางคนไม่ได้ตั้งใจไปเล่นน้ำ แต่พลัดตกน้ำจากการเดินหรือยืนใกล้ขอบบ่อ หรือไปกับผู้ใหญ่ที่ออกหาปลาแล้วปล่อยเด็กเล่นน้ำกันเองตามลำพัง

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมต่อว่า ดังนั้น ครูหรือ ผู้ปกครอง ต้องสอนเด็กให้รู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ที่สำคัญคือจะต้องสอนให้เด็กมีทักษะการเอาชีวิตรอดและวิธีการช่วยเหลือคนตกน้ำ/จมน้ำที่ถูกต้อง ไม่ลงไปช่วยคนจมน้ำด้วยตนเอง ให้ “ตะโกน” เรียกผู้ใหญ่มาช่วย “โยน” อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ โดยโยนครั้งละหลายๆ ชิ้น “ยื่น” อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 ส่วนชุมชนควรสำรวจแหล่งน้ำเสี่ยง และติดป้ายเตือน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์การช่วยคนตกน้ำที่หาได้ง่ายในชุมชน (อ้างถึงใน : www.fm91bkk.com)

จากรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ ปีที่ 46 ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2558โดยสํานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าสถานการณ์การจมน้ำของเด็กไทย ปี พ.ศ. 2557 สถิติ พบว่าร้อยละของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีที่บาดเจ็บรุนแรงจากการตกน้ำ จมน้ำ ประเทศไทย จำแนกตามวันที่เกิดเหตุ (ค่าเฉลี่ย 10 ปี) พบว่า วันเสาร์-อาทิตย์มีสถิติสูงที่สุด ขณะเดียวกันพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ความเผอเรอของผู้ปกครอง แหล่งน้ำเสี่ยงคือ กะละมัง ถังน้ำ โอ่ง อ่างเลี้ยงปลา และยังพบว่าเด็กอายุมากกว่า 5 ปี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่รู้วิธีเอาชีวิตรอด แหล่งน้ำเสี่ยงได้แก่ บ่อขุดเพื่อการเกษตร แม่น้ำ คลอง หนอง บึง
ขณะเดียวกัน สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข 2557 เปิดเผยข้อมูลว่า จังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีจำนวนการเสียชีวิตสูงสุด 10 ลำดับแรกของประเทศไทย ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 - 2557 มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำสะสมทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ปี 2554-2557 จำนวน 267 คน เฉลี่ยเสียชีวิตปีละ 66 คน โดยพบว่าร้อยละ 34 (92 คน) ของผู้ที่เสียชีวิตมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นเด็กเพศชายมากกว่าเพศหญิง 2 เท่าตัว การกระจายการเสียชีวิตรายเดือน พบว่า ช่วงที่มีการเสียชีวิตมากมี 2 ช่วง คือ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม (12,14 และ 10 คน ตามลำดับ) อีกช่วงคือ เดือน ตุลาคม (13 คน) ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียน และตรงกับเทศกาลสงกรานต์อำเภอที่มีเด็กเสียชีวิตมากที่สุดในจังหวัดสงขลา คือ อำเภอเมืองสงขลา และอำเภอหาดใหญ่ (19 คน) และมีเด็กเสียชีวิตติดต่อกันทุกปี รองลงมาคืออำเภอสะเดา (11 คน) แหล่งน้ำที่เด็กเสียชีวิตมีการระบุไว้ 51 คน พบว่า จมน้ำในแหล่งน้ำบริเวณบ้านมากที่สุด จำนวน 11 คนรองลงมาคือ คลอง ทะเล บ่อขุดเพื่อการเกษตร จำนวน 10, 9 และ 5 คน ตามลำดับทั้งนี้ 4 ปัจจัยหลักที่มีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถสนับสนุนให้เด็กสามารถเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำได้ดีขึ้นประกอบด้วย ผู้ปกครอง ที่ที่ต้องสนับสนุนให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบได้รับโอกาสในการฝึกว่ายน้ำ ขณะเดียวกันตัวเด็กเอง ที่มีระยะเวลาในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน และในส่วนของผู้ประกอบการ ที่ไม่ควบคุมสภาพแวดล้อมภายในสระให้ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข ไม่เสียสุขภาพ หรือเกิดความหวาดกลัว และด้านหน่วยงานภาครัฐที่ไม่มีนโยบายเชิงรุก ที่หน่วยงานท้องถิ่นต้องดำเนินการ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เป็นองค์กรชั้นนำที่ทำงานส่งเสริมอาสาสมัครทั้งในและระหว่างประเทศซึ่งได้รับรางวัลยอดเยี่ยม รางวัลโล่พระราชทานประเภทสถาบันการศึกษาที่ส่งเสริมงานอาสาสมัครในสถาบันการศึกษา จากการประกวดโครงการงานมหกรรมจิตอาสาในสถาบันการศึกษา ปี 2 (2556) ระดับอุดมศึกษา (Education & Volunteer Expo 2013) จากที่หลายหน่วยงาน หลายคณะในมหาวิทยาลัยได้ดำเนินภารกิจด้าน จิตอาสาเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันศูนย์อาสาสมัคร ม.อ. ถือเป็นหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริม สนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรได้ทำงานด้านอาสาสมัครเพื่อสังคมตามศักยภาพ ความรู้ความสามารถที่ตนเองมี
ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง เพื่อนมนุษย์ และสังคม ตามพระราชปณิทานของพระราชบิดาที่ว่า “ขอให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” จึงได้ส่งเสริมให้นักศึกษาและบุคลากรขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมในหลากหลายโครงการ เช่น โครงการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เฮติ น้ำท่วมในพม่า สอนหนังสือภาษาไทยให้เด็กพม่าที่วัดคลองเป โครงการอาสาพัฒนาชุมชน ค่าพัฒนาชุมชน เป็นต้น รวมทั้งสนับสนุนโครงการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยทางน้ำตามหลักสูตรกระทรวงสาธารณสุข ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทั้งแก่ชุมชน โรงเรียนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่และโรงเรียนที่สนใจ โดยที่ผ่านมาได้จัดโครงการอบรมทักษะด้านความลปอดภัยทางน้ำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมรวมกว่า 1,500 คน และฝึกทักษะด้านการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานแล้วกว่า 200 คน

ดังนั้นจากข้อมูลความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางน้ำของเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำนักการศึกษาเทศบาลนครหาดใหญ่ และศูนย์อาสาสมัครเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เล็งเห็นความจำเป็นสำคัญ ในการสร้าทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันเหตุเสียชีวิตจากการจมน้ำ พร้อมกับมีแนวคิดในการพัฒนาเด็กเยาวชนในโรงเรียนเทศบาล 1 - เทศบาล เทศบาล 6 ให้มีทักษะด้านความปลอดภัยทางน้ำพร้อมถ่ายทอนให้คนอื่นได้ จึงได้จัดทำโครงการ “เด็กเทศบาลนครหาดใหญ่ รู้เท่าทันภัยทางน้ำ” ขึ้นให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1-6 เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ถึงเทศบาล 6 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มีความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางน้ำ มีทักษะด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำอย่างปลอดภัยตามหลักสูตรมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำของกระทรวงสาธารณสุข มีทักษะการ CPR เบื้องต้น และมีความรู้ความสามารถในการประดิฐเสื้อชูชีพแบบง่ายเพื่อความปลอดภัยทางน้ำ พร้อมนำไปสู่การขยายผลไปยังกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งในโรงเรียนและในพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้เคียงต่อไปด้วย

4.
วัตถุประสงค์(เพื่อการจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ และรักษาพยาบาลระดับปฐมภูมิเชิงรุก รวมถึงการจัดกระบวนการหรือกิจกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค)
  • 1. เพื่อเพิ่มทักษะด้านความปลอดภัยทางน้ำทั้งด้านการตะโกน โยน ยื่น การช่วยเหลือคนตกน้ำอย่างปลอดภัย การทำเสื้อชูชีพแบบง่าย และการช่วยหายใจ/นวดหัวใจ (CPR) แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 1-6 จำนวน 1200 คน
    ตัวชี้วัด : นักเรียนในโรงเรียนเทศบาลนครหาดใหญ่ (เทศบาล1-6) มีทักษะด้านความปลอดภัยทางน้ำทั้งด้านการตะโกน โยน ยื่น การช่วยเหลือคนตกน้ำอย่างปลอดภัย การทำเสื้อชูชีพแบบง่าย และการช่วยหายใจ/นวดหัวใจ (CPR) แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 1-6 จำนวน 1,200 คน
    ขนาดปัญหา เป้าหมาย 2.00
  • 2. เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหากลุ่มนักเรียน ท1-6ที่เสี่ยงอุบัติเหตุทางน้ำอย่างแท้จริง ทางโครงการจะมีการคัดเลือกผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น 6 ชั่วโมง แล้วมีความเสี่ยงภัยทางน้ำ หรือจำเป็น หรือสนใจเข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตรทักษะด้านการว่ายน้ำขั้นพื้นฐาน หน่วยงานจัดโครงการจะดำเนินการต่อยอดไปสู่โครงการอบรมทักษะพื้นฐานด้านการว่ายน้ำต่อไป
    ตัวชี้วัด : ทุกโรงเรียนมีกลุ่มเสี่ยงภัยทางน้ำ หรือสนใจอยากเข้าฝึกอบรมหลักสูตรการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานจากโครงการ ทั้งสิ้น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 25-30 คน
    ขนาดปัญหา เป้าหมาย 1.00
5.
วิธีดำเนินการ(ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตามข้อ 4)
  • 1. เยาวชนในเทศบาลนครหาดใหญ่ รู้เท่าทันภัยทางน้ำ
    รายละเอียด

    7.1 กิจกรรม 6 ครั้ง แต่ละครั้งประกอบด้วย
    เวลา 08.30- 08.45 น. พิธีเปิดโครงการ โดย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เวลา 08.45- 09.00 น. วิดิโอแนะนำโครงการ และหลักสูตรการฝึกอบรม
    เวลา 09.00- 12.00 น. อบรมภาคทฤษฎี เรื่องความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ (Water Safety Knowledge)
    เวลา 13.00- 16.00 น. เข้าฐานการเรียนรู้เพื่อ…ฝึกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (Water Rescue)โดยใช้อุปกรณ์ช่วยชีพฝึกปฏิบัติการทำเสื้อชูชีพแบบง่ายฝึกทักษะด้านการช่วยเหลือคนตกน้ำตามหลักสูตรตะโกน โยน ยื่น และฝึกทักษะด้านการCPR
    เวลา 16.00- 16.30 น. ประเมินผลการฝึกอบรม / กิจกรรมทดสอบ/ แจกของรางวัลพร้อมพิธีปิด โดยผู้อำนวยการโรงเรียน
    เวลา 16.40- 17.00 น. สรุป After Action Review : (AAR) คณะครูและผู้บริหาร/ทีมงานประเมินการดำเนินโครงการร่วมกับทีมทำงานตามหลัก PDCA

    7.2 รายละเอียดงบประมาณรวม 6 ครั้ง (เฉลี่ยครั้งลอ 40,733 บาท)
    7.2.1 ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 59,100
    - ประชุมทีมเพื่อเตรียมงาน10 คน × 6 มื้อ × 35 บาท 2,100 บาท
    - ประชุมทีมเพื่อถอดบทเรียนทีมงาน(10 คน × 6 มื้อ × 35 บาท) 2,100 บาท
    - อาหารว่างสำหรับผู้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ
    และผู้สื่อข่าวท้องถิ่น 200 คน × 1 มื้อ × 6 โรงเรียน × 35 บาท 42,000 บาท
    - อาหารเที่ยงสำหรับคณะทำงาน
    และผู้สื่อข่าวท้องถิ่น 42 คน × 1 มื้อ × 6 ครั้ง × 50 บาท 12,600บาท
    7.2.1 ค่าตอบแทนทีมวิทยากร 115,200บาท
    - วิทยากรหลักอบรมภาคทฤษฎี 1 คน× 3 ชั่วโมง × 1200 บาท × 6 ครั้ง 21,600บาท
    - วิทยากรหลักอบรมภาคปฏิบัติ 2 คน× 3 ชั่วโมง × 600 บาท × 6 ครั้ง 21600บาท
    - ผู้ช่วยวิทยากร8 คน × 250 บาท × 6 ชั่วโมง × 6 ครั้ง 72,000บาท
    - อาสาสมัครช่วยวิทยากร30 คน/ครั้ง 0.00 บาท 7.2.2 ค่าสัมพันธ์ไวนิล สื่อประชาสัมพันธ์ และคู่มือประกอบการดำเนินงานโครงการ 53,600
    - ค่าไวนิลประชาสัมพันธ์/พิธีเปิดงานโครงการ(ขนาด 2.5 เมตร×4 เมตร) 1 ชิ้น × 6 โรงเรียน × 600 บาท 3,600 บาท
    - ค่าถ่ายเอกสารคู่มือด้านความปลอดภัยทางน้ำ 1,200 ชุด × 25 บาท 30,000บาท
    - ค่าวิดิโอสำหรับประมวลผลงานโครงการ เหมาจ่าย20,000 บาท
    7.1.3 ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการฝึกอบรม 16,500บาท
    - ท่อ PVC ขนาด 4 หุน
    7.2.4 กิจกรรมฝึกช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ 10 เส้น × 120 บาท 2,000 บาท
    - เชือกในล่อนสำหรับฝึกช่วยผู้ประสบภัยทางน้ำ200 เมตร × เมตรละ 50 บาท 2,000 บาท
    - ปากกา1 กล่อง 100 บาท
    - กระดาษ A41 รีม 100 บาท
    - เชือกฟางสำหรับทำเสื้อชูชีพแบบง่าย 20 มวน300 บาท
    - ขวดน้ำพลาสติก 150 ขวด(หาขวดน้ำที่ใช้แล้ว) 0 บาท - หุ่นตังกวนสำหรับฝึก CPR 4,000 บาท ×3 ตัว 12,000 บาท
    7.2.4 ค่าเดินทาง 6000 บาท - เดินทางไปกลับ 1,000 บาท × 6 ครั้ง

    รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 250,400 บาท (สองแสนห้าหมื่นสี่ร้อยบาทถ้วน)

    งบประมาณ 250,400.00 บาท
6.
กลุ่มเป้าหมาย และกิจกรรม(เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)
6.1. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด จำนวน คน

6.2. กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน จำนวน คน

6.3. กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน จำนวน คน

6.4. กลุ่มวัยทำงาน จำนวน คน

6.5. กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน คน

6.6. กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จำนวน คน

6.7. กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ จำนวน คน

6.8. กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง จำนวน คน

6.9. สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] จำนวน คน

7.
ระยะเวลาดำเนินการ(ควรระบุตามการดำเนินงานจริง)

ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561

8.
สถานที่ดำเนินการ

โรงเรียนเทศบาล 1-6

9.
งบประมาณ(ให้สอดคล้องกับวิธีดำเนินการ ที่ตั้งไว้ตามข้อ 5)

รวมงบประมาณโครงการ 250,400.00 บาท

10.
ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตามข้อ 4)
  1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ถึงเทศบาล 6 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มีความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางน้ำ ตามหลักสูตรมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสามารถนำไปแนะนำผู้อื่นได้
  2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ถึงเทศบาล 6 ในเขตเทศบาล นครหาดใหญ่ มีทักษะด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำอย่างปลอดภัยตามหลักสูตรมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งมีทักษะ และความมั่นใจมากขึ้นด้านความปลอดภัยทางน้ำ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ
  3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ของโรงเรียนเทศบาล 1 ถึงเทศบาล 6 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มีความรู้ความสามารถในการประดิฐเสื้อชูชีพแบบง่ายเพื่อความปลอดภัยทางน้ำ พร้อมสามารถถ่ายทอดแก่ผู้อื่นได้
  4. พบเจอกลุ่มเสี่ยงภัยทางน้ำจากกลุ่มผู้เข้าร่วมฝึกอบรม และหากกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวสนใจอยากพัฒนาทักษะพื้นฐานการว่ายน้ำ ทางโครงการจะดำเนินการจัดฝึกอบรมในโอกาสต่อไป
11.
คำรับรองความซ้ำซ้อนของงบประมาณ

ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้

  • check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
  • check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
  • check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว


ลงชื่อ............................................................ผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

      (............................................................)

ตำแหน่ง ............................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- เห็นชอบ/อนุมัติ
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ


ลงชื่อ............................................................หัวหน้าหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน

      (............................................................)

ตำแหน่ง ............................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................

กปท.8

แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลนครหาดใหญ่ รหัส กปท. L7258

อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

วัน...........เดือน............................................ พ.ศ. ............
เรื่อง ขอเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2562
เรียน ประธานกรรมการกองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลนครหาดใหญ่
เอกสารแนบ แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม (แบบ กปท.7) จำนวน 1 ชุด

ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น

หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ

ลงชื่อ .................................................. หัวหน้าหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน

(...........................................................)

ตำแหน่ง ...............................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................

กปท.9

แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลนครหาดใหญ่ รหัส กปท. L7258

อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

วัน...........เดือน............................................ พ.ศ. ............
ผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้

1. ความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน
check_box_outline_blank
สอดคล้อง
check_box_outline_blank
ไม่สอดคล้อง
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
2. ความซ้ำซ้อนของงบประมาณกองทุน ฯ กับงบประมาณจากแหล่งอื่น
check_box_outline_blank
ซ้ำซ้อน
check_box_outline_blank
ไม่ซ้ำซ้อน
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
3. ความเสี่ยงจากผลประโยชน์ทับซ้อน
check_box_outline_blank
เสี่ยง
check_box_outline_blank
ไม่เสี่ยง
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
4. เป็นหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ที่มีสิทธิขอรับงบประมาณ (ตามประกาศ ฯ พ.ศ. 2567 ข้อ 10) (เลือกเพียง 1 ข้อ)
5. ประเภทการสนับสนุน (ตามประกาศ ฯ พ.ศ. 2567 ข้อ 10) (เลือกเพียง 1 ข้อ)
6.งบประมาณที่เสนอ จำนวน 250,400.00 บาท
check_box_outline_blank
อนุมัติงบประมาณ เนื่องจากแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
check_box_outline_blank
ประชาชนได้รับผลประโยชน์
check_box_outline_blank
ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
check_box_outline_blank
ผู้รับผิดชอบงานมีศักยภาพ
check_box_outline_blank
ค่าใช้จ่ายมีความคุ้มค่า
จึงเห็นควรสนับสนุน เป็นเงิน จำนวน ........................................ บาท
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
check_box_outline_blank
ไม่อนุมัติงบประมาณ
เพราะ...................................................................................................................................................
check_box_outline_blank
ให้รายงานผลการดำเนินงานแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ภายในวันที่................................................(ตามแบบฟอร์ม ฯ กปท.10)
check_box_outline_blank
ให้ อปท. แจ้งผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ทราบผล เพื่อดำเนินการ ต่อไป
ลงชื่อ ....................................................................

(....................................................................)

ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม

วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................

ลงชื่อ ....................................................................

ตำแหน่ง ....................................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................