แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาโหนด
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาโหนด
รพ.สต.บ้านนาโหนด
ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 1 3 6 และ 10 ตำบลนาโหนด อำเภอเมืองพัทลุงจังหวัดพัทลุง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ในปัจจุบันสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้วิถีชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสม การออกกำลังกายน้อยลง ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมายโดยเฉพาะโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งพบได้ทั่วโลกทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา ในประเทศไทยพบโรคเบาหวาน 2.5% ของประชากร คิดจากประชากร 60 ล้านคน มีคนเป็นโรคเบาหวานประมาณ 3 ล้านคน ส่วนโรคความดันโลหิตสูงมีคนเป็นโรคความดันโลหิตสูงประมาณ 5 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2562 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาโหนด มีประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จำนวน 1,950 คน และในปี 2561 ผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนโรคเบาหวาน จำนวน 167 คน และโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 477 คน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสาธารณสุขในชุมชน
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/10/2018
กำหนดเสร็จ 31/03/2019
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ลดลง ร้อยละ 2 ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1,950 คน ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพค้นหาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 1,560 คน คิดเป็นร้อยละ 80 ของกลุ่มประชากร
ประชาชนตรวจพบมีความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโหลิตสูง ได้รับคำแนะนำ และได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร้อยละ 100
ประชาชนที่ตรวจพบเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโหลิตสูง (ผู้ป่วยรายใหม่) ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่เกิดโรคแทรกซ้อน ร้อยละ 100
กลุ่มเสี่ยงได้รับการติดตามตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคฯ
กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้รับการส่งต่อตามระบบ
กลุ่มป่วยได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อควบคุมโรคหรือป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน