แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ดุซงญอ
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ดุซงญอ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
หลักการและเหตุผล
ฟันและอวัยวะในช่องปากเป็นด่านแรกของระบบย่อยอาหาร และมีความสำคัญสำหรับการติดต่อสื่อสารของผู้คนในสังคม ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคของคนเปลี่ยนไป ในขณะที่ระบบบริการสุขภาพและระบบการพัฒนาคนยังไม่สามารปรับตัวรองรับให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทำให้การเกิดโรคฟันผุ ในทุกกลุ่มวัย กรมอนามัย เปิดเผยผลสำรวจสุขภาพช่องปาก ในปี ๒๕๕๕ พบว่า เด็กไทยโดยเฉลี่ยร้อยละ ๕๐เป็นโรคฟันผุสูงสุดในเขตภาคใต้ร้อยละ ๖๕ โดยเฉพาะใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ในปี ๒๕๕๖ กระทรวงสาธารณสุขได้รายงาน พื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนใต้ เด็กและผู้สูงอายุเผชิญปัญหาโรคฟันสูงเป็นอันดับ ๑ ของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาส พบเด็กฟันผุถึงร้อยละ ๘๐ ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉลี่ยพบ ๑ ใน ๑๐ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร และพบว่ากว่าครึ่งยังไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากอุปสรรคในการเดินทางและผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทำให้เกิดปัญหาเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงสูงถึงร้อยละ๙๑และมีโอกาสสูญเสียฟันทั้งปากเพิ่มขึ้น การสำรวจสภาวะทันตสุขภาพในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอจังหวัดนราธิวาส ในปี ๒๕๖๑ พบว่าเด็กอายุ๐-๕ ปี ฟันผุสูงถึงร้อยละ ๖๒ .๓๕ เด็กอายุ๖-๑๒ ปี พบว่ามีปัญหาฟันถาวรผุร้อยละ ๘๒ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กองทันสาธารณสุขก าหนด คือมีฟันถาวรผุไม่เกินร้อยละ ๒๐ กลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่พบปัญหาการสูญเสียฟันชัดเจน ในกลุ่มอายุ ๑๓-๕๙ ปีมีฟันถาวรผุร้อยละ ๗๕ การสูญเสียฟันในผู้สูงอายุค่าเฉลี่ยมากกว่า ๑๐ ซี่/คน อาจกล่าวได้ว่าผู้สูงอายุเกือบทุกคนมีปัญหาการ บดเคี้ยวอาหาร การไม่มีฟันทั้งปาก เป็นดัชนีที่บ่งบอกถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งพบถึงร้อยละ ๑๐.๕ และจากข้อมูล ปี ๒๕๕๖ อัตราผู้ป่วย ๑๐ อันดับแรก ของประชาชนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ พบว่าอัตราการป่วยจากโรคฟันผุเป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับ ๓ ร้อยละ ๘๒.๗๘ อัตราต่อแสนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดุซงญอ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ภายใต้ข้อจำกัดด้านบุคลากรทันตสุขภาพ ๑ คนต้องดูแลประชากรทั้งตำบล จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมทันตกรรม “ฟันดี ชีวีมีสุข ทุกกลุ่มวัย” เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ในการดูแลสุขภาพช่องปากของคนในชุมชน โดยภาคีเครือข่าย ส่วนต่างๆ ร่วมในการพัฒนาศักยภาพประชาชน ชุมชนและ ระบบบริการ ให้ประชาชมีพฤติกรรมทันตสุขภาพที่ดี และสามารถเข้าถึงบริการทันตกรรมเพิ่มขึ้น ร่วมช่วยกันจัดการปัญหาสุขภาพช่องปากของชุมชน
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/10/2018
กำหนดเสร็จ 30/09/2019
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
รวมทั้งสิ้น ๕๕,๑๕๐ บาท(ห้าหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยห้าสิบบาท)
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?๑.หญิงตั้งครรภ์ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปาก สามารถดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองได้ดีและปรับลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปาก
๒.ผู้ปกครองเด็ก ๐-๓ปี มีความรู้ความเข้าใจ มีทัศนคติที่ดีและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและบุตร สามารถตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้นของตนเองและบุตรได้
๓.ผู้ปกครองเด็กอายุ ๓-๕ ปีและครูผู้ดูแลเด็กสามารถดูแลสุขภาพช่องปากเด็กได้ถูกต้องเหมาะสม และเด็ก ได้รับบริการทางทันตกรรมป้องกันและรักษาตามความจำเป็น
๔.ผู้สูงอายุมีความรู้เบื้องต้นในการปฏิบัติตัวในการป้องกันการเกิดโรคในช่องปากมีสุขภาพฟันดี ไม่ป่วยด้วยโรคในช่องปากและได้รับบริการทันตกรรมป้องกัน
๕.แกนนำอสม.และแม่อาสา มีความรู้ความเข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง บุตรของตนเองและคนในชุมชนได้