แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาทอน
1.นางสุกัลยา สอเหลบ
2.นางนิตยา หีมปอง
3.นางสาวสุไลยา ชายเกตุ
4.นางนัยนา มานะกล้า
5.นางสาวศิวัชญา จิโส๊ะ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาทอน หมู่ที่ 1 ต.นาทอนอ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
เด็กเล็กหรือเด็กปฐมวัยเป็นทรัพยากรหนึ่งที่มีค่า ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าในอนาคต ตามนานาอารยประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรมและสิ่งที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพตามคุณลักษณะพึงประสงค์ได้นั้นก็คือ “การศึกษา” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมความพร้อม และการส่งเสริมมนุษย์ให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพ จากสถานการณ์ปัจจุบัน สังคมไทยที่กำลังเผชิญกับปัญหาหลายๆด้าน มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อสร้างเด็กเยาวชนรุ่นใหม่ที่เป็นพลเมืองเด็กและเยาวชนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะ สังคมในยุคสื่อหลอมรวม แม้จะมีช่องทางการสื่อสารเพิ่มขึ้น แต่สื่อที่เหมาะสมกับเด็กกลับเข้าถึงเด็กและเยาวชนในปัจจุบันได้น้อยมากโดยมีปริมาณการเข้าถึงสื่อรวมกันไม่ถึงร้อยละ 10 โดยเด็กใช้เวลาไปกับการใช้สื่อสูงถึง 8 – 9 ชั่วโมงใน 1วัน เกิดพฤติกรรมอันนำไปสู่ทุกขภาวะ เช่น พฤติกรรมเด็กติดเกม การเสพติดสื่อออนไลน์ การติดหน้าจอ การบริโภคขนมขบเคี้ยว และพฤติกรรมเนือยนิ่ง ขาดการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เกิดโรคอ้วน โรคสมาธิสั้น โรคทางสายตา อารมณ์แปรปรวนและรุนแรง และความเสื่อมถอยทางทักษะการสื่อสารพื้นฐานของมนุษย์ รวมถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่พึงจะมีในด้านสุขภาวะทางกายของเด็ก ภาวะโภชนาการเกินและภาวะขาดสารอาหารในเด็กไทยเป็นปัญหาสำคัญที่ควรให้ความสำคัญและทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ข้อมูลจากการแถลงข่าวใน ปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภาวะโภชนาการในเด็กเล็กจากผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2558-2559 (MICS 5) พบว่าภาวะโภชนาการเมื่อเทียบกับปี 2555 (MICS 4) ดีขึ้นในทุกตัวชี้วัด แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ร้อยละ 6.7 มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 5.4 มีภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลัน (ผอม) ร้อยละ 10.5 มีภาวะทุพโภชนาการเรื้อรัง (เตี้ย) และร้อยละ 8.2 มีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (อ้วน) เพราะพฤติกรรมทางโภชนาการและสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ การกินอาหารไม่ครบ3 มื้อ กินผัก ผลไม้น้อยลง การบริโภคขนมกรุบกรอบและน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น และกิจกรรมทางกายและการออกกำลังกายน้อยลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการพฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary Behavior) เด็กจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำให้คาดการณ์ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีเด็กไทยถึง 1 ใน 5 ที่อยู่ในภาวะอ้วน และนอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาล่าช้าไม่เต็มตามศักยภาพที่ควรจะเป็น ก็ยังมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก โดยเฉพาะ โรคฟันผุ โดยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ถูกต้อง การทำความสะอาดไม่ถูกวิธี และพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนมอย่างรุนแรง รวมทั้งปัญหาที่เด็กป่วยจากการติดเชื้อโรคติดต่อ ซึ่งโรคติดต่อที่พบบ่อยๆเช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคมือ เท้า ปาก โรคอุจจาระร่วง โรคตาแดงโรคผิวหนัง โรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น คางทูม อีสุกอีใส และหัด เป็นต้น ซึ่งปัจจัยและปัญหาเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการเด็ก ทำให้เด็กไทยมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการทั้งขาดและเกิน ผลกระทบของการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ การเจ็บป่วยบ่อยๆทำให้เด็กไทยมีระดับเชาวน์ปัญญาที่ลดลงเรื่อยๆ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงเป็นสถานที่ที่เด็กๆ จะได้รับการพัฒนาในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ สมอง การเรียนรู้ บุคลิกภาพ รวมทั้งการปลูกฝังการเป็นพลเมืองที่ดี มีทักษะชีวิตที่สอดคล้องกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาวะดีครบทุกด้านและเป็นพลเมืองดีของสังคมและจากการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาทอน ซึ่งมีเด็กทั้งหมด จำนวน 100 คน ได้มีการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก พบว่าเด็กร้อยละ17 ที่จะต้องเฝ้าระวังด้านภาวะโภชนาการ เด็กร้อยละ 51 ที่เป็นโรคฟันผุ และเด็กร้อยละ48ป่วยด้วยโรคติดต่อต่างๆที่จะต้องมีมาตรการในการเฝ้าระวังการป้องกันและควบคุมโรค เช่น โรคมือ เท้า โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคหวัดบ่อยๆและเด็กร้อยละ48 ที่จะต้องส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัย
ดังนั้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาทอน จึงได้มีความตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการดูแลและส่งเสริมให้เด็กเล็กมีการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ สุขภาพอนามัยที่ดีและมีพัฒนาการอย่างสมดุลทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา จึงได้จัดทำโครงการ “เด็กเล็กสุขภาพอนามัยดี มีพัฒนาการสมวัย”ขึ้น เพื่อให้ผู้ปกครองเด็ก ครู/ผู้ดูแลเด็ก และผู้ประกอบอาหาร มีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลและส่งเสริมสุขภาพอนามัย การเฝ้าระวังภาวะโภชนาการการส่งเสริมพัฒนาการ เพื่อให้ผู้ปกครองเด็ก และครู/ผู้ดูแลเด็ก ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และเพื่อให้เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้มีทักษะการดูแลตนเอง โดยความร่วมมือของโรงพยาบาลอำเภอทุ่งหว้า ส่งเสริมสุขภาพตำบลนาทอน องค์บริหารส่วนตำบลนาทอน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาทอน
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/04/2019
กำหนดเสร็จ 30/09/2019
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ทำให้เด็กมีสุขภาพอนามัยที่ดีมีพัฒนาการด้านร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาเหมาะสมตามวัยและผู้ปกครองและครูผู้ดูแลเด็ก มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการเฝ้าระวัง ดูแลสุขภาพอนามัยและการส่งเสริม กระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัย
2.ทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากที่ดี มีฟันผุลดลงและผู้ปกครองครูผู้ดูแลเด็ก มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากในเด็กปฐมวัย
3.ความรู้ผู้ปกครองครู ผู้ดูแลเด็ก ในเรื่องอาหารและโภชนาการสำหรับเด็กปฐมวัยและเด็กมีเจตคติที่ดีในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีภาวะโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย