แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
กลุ่มผู้พิการ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
1. นายไสวเวทมาหะ
2. นายสมปองนุ่มประดิษฐ์
3. นายทวีวัฒน์เสาวิไล
4. นางสาวพิมใจแซ่ติ้ว
5. นางสาวสุวรรณีกูนิง
ศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุและผู้พิการแบบบูรณาการ เทศบาลฯ
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันตำบลสุไหงโก-ลก มีผู้พิการทุกประเภทที่ขอรับเบี้ยยังชีพผู้พิการจำนวน 690 คน คิดเป็นร้อยละ 1.45 ของประชากรทั้งหมด การให้ความรู้อบรมพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้พิการให้กับผู้พิการและผู้ดูแลผู้พิการเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูสมรรถภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ แต่มีผู้พิการบางส่วนที่มีความยากลำบากในการออกมาร่วมกิจกรรมทางสังคม เนื่องจากปัญหาทางกายภาพ มีภาวะโภชนาการที่ไม่ดี มีสุขลักษณะที่ไม่เหมาะสม ขาดการดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อให้ผู้พิการได้รับบริการด้านสาธารณสุขอย่างเหมาะสมทั่วถึงและต่อเนื่อง การให้บริการส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/02/2020
กำหนดเสร็จ 30/06/2020
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้พิการได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสุขภาพเชิงรุก เช่น วัดความดันโลหิต ให้คำปรึกษาแนะนำการดูแลสุขภาพ ฯลฯ
2. ผู้พิการมีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดี เสริมศักยภาพในการประกอบกิจวัตรประจำวันที่สำคัญในการดำรงชีวิตของคนพิการ
3. ผู้พิการ ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง และแสดงศักยภาพที่ตนมีออกมาได้อย่างเต็มที่