แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บาโงยซิแน
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการรู้เร็ว ดูแลทัน ถูกต้อง ส่งเสริมการตรวจคัดกรองความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2563ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บาโงยซิแน
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลบาโงยซิแน
1.นางนิเด๊าะ อิแตแล
2.อับดุลฮาเร็ม ซีระแม
3.นางอาซะ อาลี
4.นายแวมามุ ตาเฮ
5.นายนิเภายี หะยีอาลี
ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ)
จากสถานการณ์ด้านสุขภาพหน่วยบริการสาธารณสุขของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน ตลอดจนในพื้นที่อำเภอยะหา พบว่ามีการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง ใน 5 ปี ย้อนหลัง พบสูงขึ้น และบางส่วนได้รับการประเมินผลไม่ทัน และสภาวะเหตุการณ์ด้านสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในด้านการจัดการส่งเสริมป้องกันอย่างทันท่วงที การดูแลส่งต่อรักษา การประเมินการเปลี่ยนแปลงของโรคเรื้อรัง ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสนใจ เพื่อใช้ลดความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานโดยมุ่งไปที่การป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากมีผลการศึกษาพบว่า การควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวสามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้ องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนวทางป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้ได้ผลโดยการแก้ไขปัญหาด้านปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายปัจจัยเสี่ยงไปพร้อมๆกัน และเน้นหนักในการป้องกันระดับปฐมภูมิ อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว
จากผลงานการตรวจคัดกรองสุขภาพของตำบลบาโงยซิแนระหว่าง 01/10/2561ถึง 30/09/2562 ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวาน (ไม่รวมกลุ่มป่วย) ร้อยละ 91.08 พบกลุ่มปกติที่มีภาวะน้ำตาลจากสถานการณ์ด้านสุขภาพหน่วยบริการสาธารณสุขของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน ตลอดจนในพื้นที่อำเภอยะหา พบ มีการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง ใน 5 ปี ย้อนหลัง พบสูงขึ้น และบางสวนได้รับการประเมินผลไม่ทัน และสภาวะเหตุการณ์ด้านสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในด้านการจัดการส่งเสริมป้องกันอย่างทันทวงที การดูแลส่งต่อรักษา ที่การประเมินการเปลี่ยนแปลงของโรคเรื้อรัง ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสนใจ เพื่อใช้ลดความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานโดยมุ่งไปที่การป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงเนื่องจากมีผลการศึกษาพบว่าการควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวสามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนวทางป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้ได้ผลโดยการแก้ไขปัญหาด้านปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายปัจจัยเสี่ยงไปพร้อมๆกัน และเน้นหนักในการป้องกันระดับปฐมภูมิ อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว
จากผลงานการตรวจคัดกรองสุขภาพของตำบลบาโงยซิแนระหว่าง 01/10/2561ถึง 30/09/2562 ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวาน(ไม่รวมกลุ่มป่วย)ร้อยละ 91.08 พบกลุ่มปกติที่มีภาวะน้ำตาล น้อยกว่า100 mg/dl จำนวน 1,393 คน คิดเป็นร้อยละ 74.14 เสี่ยงสูงต่อเบาหวานค่าระดับน้ำตาล 100-125mg/dl จำนวน 408 คนคิดเป็นร้อยละ 21.71 คนสงสัยเป็นโรคค่าระดับน้ำตาล มากกว่าเท่ากับ 126 mg./dlจำนวน 78 คนคิดเป็นร้อยละ 4.15 ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี มีค่า HbA1c น้อยกว่า 7% จำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 35.10 และได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง 1,575 คน(ไม่รวมกลุ่มป่วย) คิดเป็นร้อยละ 90.62 กลุ่มปกติ (SBPน้อยกว่า120 DBPน้อยอกว่า80) จำนวน 694 คนคิดเป็นร้อยละ 44.06 เสี่ยงสูงต่อโรคความดันโลหิตสูง (SBP 120-139/DBP 80-89)จำนวน 656 คน คิดเป็นร้อยละ 41.65 สงสัยเป็นโรค (SBP มากกว่าเท่ากับ 140/DBPมากกว่าเท่ากับ 90)จำนวน 224 คน คิดเป็นร้อยละ 14.22 ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ น้อยกว่า 140/90 มม.ปรอท จำนวน 323 คน คิดเป็นร้อยละ 54.93 และข้อมูลประชาคมพบว่ามีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดสมอง ตา ไต เพิ่มขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงความรู้ ความเข้าใจในสวนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีการปรับปรุงพัฒนาเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องการรับประทานอาหารหรืออาหารที่มีโภชนาการที่ไม่เหมาะสม และการออกกำลังกาย เพราะบริบทวัฒนธรรมของชุมชน เช่น ซุปเครื่องใน แกงกะทิอาหารทอดอาหารที่มีรสเค็มเช่นน้ำบูดู,ปลาเค็มเป็นต้น (ข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัดยะลา และ HDC จังหวัดยะลา) และเพื่อทันต่อการประเมินสภาวะของโรคที่เปลี่ยนไป จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพโดยเฉพาะการตรวจคัดกรองความดันโลหิตสูง และเบาหวาน รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ ตรวจสอบเครื่องมือให้มีมาตรฐานในการประเมิณภาวะสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทราบความเสี่ยงของตัวเอง และลดการปฏิบัติที่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคและภาวะแทรกซ้อน ของโรคเหล่านี้
ดังนั้น การได้รู้ข้อมูลสุขภาพของตนเอง จึงสามารถที่จะทำให้ประชาชนตระหนัก ในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งจะให้ได้ผล และเกิดความยั่งยืนได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยพลังของประชาชนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการดูแลสุขภาพในชุมชนเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ตระหนักถึงภาวะสุขภาพของประชาชนในกลุ่มดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการรู้เร็ว ดูแลทัน ส่งเสริมการตรวจคัดกรองความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2563
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/03/2020
กำหนดเสร็จ : 30/09/2020
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองภาวะสุขภาพเฝ้าระวังโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ หากพบกลุ่มเสี่ยงจะได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อคงสภาวะของสุขภาพที่ดี และในกลุ่มที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้คงสภาวะของสุขภาพที่ดีจะได้รับการส่งต่อรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชุมชน และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเอง
2. ประชาชนกลุ่มป่วยโรคเบาหวานสามารถ ทราบผลการคัดกรองภาวะสุขภาพและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
3. ประชาชนกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถ ทราบผลการคัดกรองภาวะสุขภาพและควบคุมความดันโลหิตได้ดี
4. ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยมีพฤติกรรมพึงประสงค์ต่อสุขภาพที่ถูกต้อง