แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักการและเหตุผล
เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่มีความรุนแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมอย่างกว้างขวาง แม้ว่าที่ผ่านมา รพ.สต.บ้านปากคลอง จะมีการดำเนินการคัดกรองและเฝ้าระวังปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2563 ก็พบว่ามีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ จำนวน 2 รายหรือคิดเป็น 62.50 ต่อแสนประชากร จากการวิเคราะห์ข้อมูลและผลการปฏิบัติงานในปี 2563 พบว่าอัตราการเข้าถึงบริการโรคซึมเศร้าของประชาชนในเขตรับผิดชอบยังต่ำกว่าเกณฑ์ กล่าวคือ จากประมาณการความชุกของโรคซึมเศร้า (Depressive disorders) ที่ใช้คำนวณเพื่อประมาณการจำนวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในพื้นที่ภาคใต้ ตามรายงานการสำรวจระบาดวิทยาของโรคซึมเศร้า ของกรมสุขภาพจิต คือ ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับประชากรในเขตรับผิดชอบแล้ว รพ.สต.บ้านปากคลองควรจะมีประมาณการผู้ป่วยโรคซึมเศร้าประมาณ 490 คน แต่ในปี 2563 การเข้าถึงบริการของประชาชน มีผู้ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าและได้รับการดแลรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์เพียง 179 คน คิดเป็นร้อยละ 36.53รวมทั้งอัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยโรคจิตเภท(schizophrenia) ก็ยังต่ำกว่าประมาณการความชุกของผู้ป่วยจิต ที่ประมาณการไว้ร้อยละ 0.8 (คิดเฉพาะ F 20)คือ 165 คน โดยมีผลงาน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 39.40
จากข้อมูลการปฏิบัติงานใน ปี 2563 พบว่า ผู้ป่วยที่เข้าถึงบริการส่วนใหญ่คือผู้ป่วยโรคจิตจากสารเสพติดที่สูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเองก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตนเอง ชุมชน สังคม เป็นผู้ป่วยที่เข้าถึงบริการเมื่อมีอาการรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่ได้พบจากการคัดกรอง ในส่วนผู้ที่ฆ่าตัวตายทั้งสองรายจากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าทั้งสองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ใช้แอลกอฮอล์เป็นประจำและที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการคัดกรอง 2Q,9Q และ 8Q มาก่อน เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือและไม่เคยมีประวัติการคัดกรองโรคซึมเศร้าในการมารับบริการสุขภาพในหน่วยปฐมภูมิเลย ส่วนผู้ป่วยโรคซึมเศร้า พบว่าผู้ป่วยหรือญาติจะมารับยาในช่วงที่มีอาการ เมื่อมีอาการดีขึ้นก็จะไม่มาตามนัด ขาดการรักษาต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ป่วยขาดยาและผู้ป่วยโรคจิตเวชมีอาการทางจิตกำเริบซ้ำ
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจึงพบว่า การดูแลเฝ้าระวังป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายในกลุ่มเสี่ยง ของ รพ.สต.บ้านปากคลอง มีความครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายต่ำทำให้การเข้าถึงบริการต่ำไปด้วย ผู้รับผิดชอลงานสุขภาพจิตร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขซึ่งจากการศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จนั้น พบว่ามีผลการศึกษาทางวิชาการรายงานไว้ว่า “การป้องกันโรคซึมเศร้าที่ได้ผลคือ Early detection และให้การช่วยเหลือทันทีตั้งแต่เริ่มมีอาการโดยมีเครื่องมือประเมินที่ง่ายและมีความไวในการประเมิน ใช้ง่ายเหมาะสมสำหรับใช้ในชุมชนโดยอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) แกนนำชุมชนหรือประชาชนทั่วไปก็สามารถนำมาใช้ในการประเมินตนเองได้ด้วยตนเอง” เครื่องมือที่กล่าวถึงเรียกว่า แบบคัดกรองภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายหรือ DS8 ที่พัฒนาโดย ทวี ตั้งเสรีและคณะ (2561)
รูปแบบของแบบคัดกรองภาวะซึมเศร้านี้มี 2 องค์ประกอบ คือ Mood and cognitive behavior component และ somatic component โดยมีความความไว ร้อยละ 98.9 ความจำเพาะ ร้อยละ 71.9 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายจะเหลือเพียงองค์ประกอบเดียว คือ Suicidal intention มีคำถาม 2 ข้อ มีค่าความไว ร้อยละ 89.1 ความจำเพาะ ร้อยละ 89.4 แบบคัดกรองจึงแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 ใช้คัดกรองผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า (ข้อ 1-6 ) และส่วนที่ 2 ใช้คัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย (ข้อที่ 7-8) โดยมีข้อดีคือ เป็นแบบคัดกรองที่ง่ายและสะดวกต่อการนำไปใช้ในชุมชน ถ้าผลประเมินพบว่า ถ้าตอบว่ามีตั้งแต่ 3 ข้อขึ้นไป หรือ 3 คะแนนขึ้นไป ในคำถามข้อที่ 1-6 ซึ่งเป็นคำถามของแบบคัดกรองภาวะซึมเศร้า ก็จะหมายถึงมีภาวะซึมเศร้า ต้องได้รับการให้บริการปรึกษาหรือพบแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา และถ้าตอบว่า “มี” ตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป หรือ 1 คะแนนขึ้นไป ในคำถามข้อที่ 7 – 8 ซึ่งเป็นคำถามของแบบคัดกรองความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย จะหมายถึง “มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย” จำเป็นต้องให้การดูแลเบื้องต้นทันที ก่อนจะดำเนินการพิจารณาวางแผนให้การช่วยเหลืออย่างอื่น
ดังนั้น เพื่อการป้องกันและแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปากคลอง จึงได้จัดทำโครงการพัฒนารูปแบบการดูแลเฝ้าระวังป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายในกลุ่มเสี่ยง ปีงบประมาณ 2564 ขึ้น โดยใช้แบบคัดกรองภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย หรือ Ds 8 เป็นเครื่องมือในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโดยอาศัยความร่วมมือจากชุมชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ผลักดันให้เกิดการดำเนินงานตามแนวคิด “หัวใจมีหู ของกรมสุขภาพจิต” ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจต่อสัญญาณเตือนภัยฆ่าตัวตาย 10 ประการและเห็นความสำคัญของ “การฟังได้หัวใจ” ใช้หัวใจฟังให้ได้ยินในวันที่เขายังมีลมหายใจอยู่ เพื่อช่วยหยุดยั้งและฉุดคนจากการคิดฆ่าตัวตายและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสามารถออกแบบการป้องกันการฆ่าตัวตายที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ตนเองได้
-
1. เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในประชากรที่รับผิดชอบตัวชี้วัด : อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในเขตรับผิดชอบ ไม่เกิน 6.30 ต่อแสนประชากรขนาดปัญหา 62.50 เป้าหมาย 6.30
-
2. เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า(Depressive disorders)ตัวชี้วัด : ประชากรในเขตรับผิดชอบเข้าถึงบริการโรคซึมเศร้า(Depressive disorders) ไม่น้อยว่า ร้อยละ 50 ของประมาณการความชุกของโรคซึมเศร้า (Depressive disorders) ที่ใช้คำนวณเพื่อประมาณการจำนวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในพื้นที่ภาคใต้ ตามรายงานการสำรวจระบาดวิทยาของโรคซึมเศร้า ของกรมสุขภาพจิตขนาดปัญหา 36.53 เป้าหมาย 50.00
- 1. วางแผนการดำเนินงาน เขียนโครงการ เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณรายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท - 2. อบรมพัฒนาศักยภาพ อสม. จำนวน 61 คนให้เป็น “อสม.เชี่ยวชาญสุขภาพจิต” สามารถดำเนินงานตามคู่มือสุขภาพจิตชุมชนสำหรับ อสม.ของกรมสุขภาพจิต มีความรู้เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและเข้าใจในเรื่อง 10 สัญญาณเตือนภัยในการฆ่าตัวตาย การให้คำปรึกษาเบื้องต้นและหรายละเอียด
1.ค่าอาหารกลางวัน สำหรับ อสม.ผู้เข้ารับการอบรม วิทยากรและ จนท.ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 70 คน คนละ 1 มื้อๆละ 50 บาทต่อคน เป็นเงิน 3,500 บาท
2.ค่าอาหารว่าง สำหรับ อสม.ผู้เข้ารับการอบรม วิทยากรและ จนท.ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 70 คน คนละ 2 มื้อๆละ 25 บาทต่อคน เป็นเงิน 3,500 บาท
3.ค่าวิทยากรหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพ “อสม.เชียวชาญสุขภาพจิต” ชั่วโมงละ600 บาท จำนวน 6 ชม. เป็นเงิน 3,600 บาท
4.ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1.2 x 3 เมตร ราคาตารางเมตรละ 180 บาท จำนวน 1 ป้าย เป็นเงิน 648 บาท
5.ค่าจัดสถานที่จัดอบรม จำนวน 1,000 บาท
6.ค่าถ่ายเอกสาร ค่าวัสดุและบริหารจัดการอบรม เหมาจ่าย 2,000 บาท
รวมเป็นเงิน 14,248 บาท
งบประมาณ 14,248.00 บาท - 3. สร้างรูปแบบและแนวทางในการป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายสำหรับใช้ในสถานบริการและพื้นที่รายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท - 4. คัดกรองภาวะตัวซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ใน (depress and Suicide Screening test : DS8) กลุ่มเป้าหมายโดยคัดกรองโรคซึมเศร้าแล้วตัวเองฆ่าตัวตาย คำถาม 2Q,9Q และ 8Q โดยเจ้าหน้าที่และ อสม. เชียวชาญสุขภาพจิตรายละเอียด
-ค่าถ่ายเอกสารแบบคัดกรองโรคซึมเศร้าและประเมินการฆ่าตัวตาย
1.คำถาม 2Q จำนวน 2,133 แผ่น แผ่นละ 1 บาท เป็นเงิน2,133 บาท2.คำถาม 9Q จำนวน 490 แผ่น แผ่นละ 1 บาท เป็นเงิน 490 บาท
3.คำถาม 8Qจำนวน 490 แผ่น แผ่นละ 1 บาท เป็นเงิน 490 บาท
รวมเป็นเงิน 3,113 บาท
หมายเหตุ จำนวนแบบคำถาม 9Q และ 8Q ประมาณการจาก “ประมาณการจำนวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในพื้นที่ภาคใต้ ตามรายงานการสำรวจระบาดวิทยาของโรคซึมเศร้า ของกรมสุขภาพจิต
งบประมาณ 3,113.00 บาท - 5. คัดกรองและประเมินสุขภาพจิตของผู้รับบริการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายด้วยคำถาม 2Q,9Q และ 8Q ตามรูปแบบและแนวทางในการป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายในสถานบริการรายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท - 6. ติดตาม เยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคจิตและป่วยโรคซึมเศร้าที่อยู่ในระบบการรักษาโดยเจ้าหน้าที่/ทีมสหวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องรายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท - 7. เยี่ยมบ้านในเขตรับผิดชอบ จำนวน 706 หลัง โดย จนท.และ“อสม.เชี่ยวชาญสุขภาพจิต” ให้ความรู้เรื่อง 10 สัญญาณเตือนภัยฆ่าตัวตาย ประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าวและจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ “10 สัญญาณเตือนภัยฆ่าตัวตาย ฟังด้วยหัวใจให้ได้ยิน ในวันที่เขายังมีลมหายใจอยู่” ตรายละเอียด
1.ค่าจัดทำป้าย "10 สัญญาณเตือนภัยในการฆ่าตัวตาย ฟังด้วยหัวใจให้ได้ยิน ในวันที่เขายังมีลมหายใจอยู่”ขนาด 1.5 x 3 ม. ราคา ตร.ม.ละ 180 บาท จำนวน 5 ป้าย ราคาป้ายละ 810 บาท รวมเป็นเงิน 4,050 บาท
2.ค่าถ่ายเอกสาร"10 สัญญาณเตือนภัยในการฆ่าตัวตาย ฟังด้วยหัวใจให้ได้ยิน ในวันที่เขายังมีลมหายใจอยู่”ขนาด A4 จำนวน 706 แผ่นละ 1 บาท เป็นจำนวนเงิน706 บาท
รวมเป็นเงิน 4,756 บาท
งบประมาณ 4,756.00 บาท - 8. สรุปผลการดำเนินโครงการ รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ ที่ได้จากการประเมิน 2Q,9Q และ 8Q ประชุมทีมสหสาขาวิชาชีพงานสุขภาพจิตเพื่อจัดทำแนวปฏิบัติเพื่อใช้ในการดูแลผู้ที่ภาวะซึมเศร้าและผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท - 9. สรุปและรายงานผลโครงการให้กองทุกหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลบ้านสวนทราบรายละเอียด
ไม่ใช้งบประมาณ
งบประมาณ 0.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ถึง 31 สิงหาคม 2564
หมู่ที่ 1 นอกเขต ม.2,3,5 หมู่ที่ 7 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
รวมงบประมาณโครงการ 22,117.00 บาท
หมายเหตุ : งบประมาณสามารถถัวเฉลี่ยกันได้
1.ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลเฝ้าระวังสุขภาพจิตเพื่อป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จของคนในครอบครัว/ชุมชนของตัวเอง
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................