โครงการลดเกลือ ลดความดัน
ชื่อโครงการ | โครงการลดเกลือ ลดความดัน |
รหัสโครงการ | 64-L1478-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองยวน |
วันที่อนุมัติ | 1 กุมภาพันธ์ 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 10 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 32,180.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายธนายุทธ ทองสม |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวลัยภรณ์ เยาดำ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.597,99.753place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายเรื้อรัง หัวใจล้มเหลวและสมองเสื่อม นอกจากนี้ ระดับความดันโลหิตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วยังเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดหลอดเลือดสมองแตก เลือดออกในสมอง (Hemorrhagic stroke) หลอดเลือดหัวใจตีบตันเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันหรือหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด โรคความดันโลหิตสูงจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วย จากการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ประชาชนในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองยวน ตำบลละมอ อายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 1,226 คน พบว่า มีกลุ่มเสี่ยง 55 คน คิดเป็นร้อยละ 4.49กลุ่มสงสัยป่วย 6 คน คิดเป็นร้อยละ 0.49 กลุ่มป่วย 324 คน คิดเป็นร้อยละ 26.43 ผลจากการคัดกรองจะเห็นได้ว่าประชากร มีแนวโน้มในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงมีจำนวนเพิ่มขึ้น และจากการสำรวจยังพบอีกว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง มีทั้งสาเหตุที่ควบคุมได้และสาเหตุที่ควบคุมไม่ได้ สาเหตุที่ควบคุมได้ คือ การที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญที่สนับสนุนให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น คือ การกินเค็ม (เกลือ/โซเดียม) ซึ่งพบว่า คนไทยบริโภคเกลือเฉลี่ย 10.8 กรัมต่อวัน (โซเดียม 5,000 มิลลิกรัม) ซึ่งสูงกว่าความต้องการที่ร่างกายควรได้รับถึง 1 เท่า คือ ควรบริโภคเกลือไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน (โซเดียม 2,400 มิลลิกรัม) การให้ความรู้อย่างเข้มข้นโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกับการซักถามการบริโภคอาหารย้อนหลังและแนะนำการลดบริโภคอาหารเค็ม (โซเดียม) อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอทุก 2 สัปดาห์ ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงนั้น ส่งผลให้ความดันโลหิตตัวบนลดลงได้ 10 มิลลิเมตรปรอท และตัวล่างลดลงถึง 5 มิลลิเมตรปรอท โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองยวน จึงจัดทำโครงการลดเค็ม ลดความดัน เพื่อสนับสนุนการปรับพฤติกรรมการกิน โดยคาดหวังว่าจะช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงหรือกลุ่มเสี่ยง จนควบคุมความดันโลหิตได้หรือเป็นปกติ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อควบคุมความดันโลหิตในกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยง
|
1.00 | |
2 | เพื่อควบคุมความดันโลหิตในกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 480 | 32,180.00 | 0 | 0.00 | |
5 เม.ย. 64 | - อบรมให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 2 | 30 | 2,550.00 | - | ||
5 - 9 เม.ย. 64 | ก่อนเข้าร่วมอบรมวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอวและถามประวัติ การดื่มสุรา-สูบบุหรี่แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง | 120 | 7,500.00 | - | ||
5 - 9 เม.ย. 64 | ประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยงเข้าร่วมโครงการลดเค็ม ลดความดัน | 120 | 480.00 | - | ||
5 - 9 เม.ย. 64 | ก่อนเข้าร่วมอบรมวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอวและถามประวัติ การดื่มสุรา-สูบบุหรี่แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 120 คน | 120 | 14,000.00 | - | ||
7 เม.ย. 64 | - อบรมให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 6 | 30 | 2,550.00 | - | ||
8 เม.ย. 64 | -อบรมให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 5 | 30 | 2,550.00 | - | ||
9 เม.ย. 64 | - อบรมให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 7 | 30 | 2,550.00 | - |
2.1 ประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยงเข้าร่วมโครงการลดเค็ม ลดความดัน ก่อนเริ่มโครงการวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอวและถามประวัติ การดื่มสุรา-สูบบุหรี่
2.2 นัดผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง จำนวน 120 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆละ 30 คน ไปพบกันที่ รพ.สต.เพื่อให้ความรู้แบบเข้มข้นเพื่อลดการบริโภคโซเดียม มีเนื้อหาดังนี้
• โซเดียมและความเค็มคืออะไร • โซเดียมส่งผลต่อร่างกายอย่างไร • คนไทยได้รับโซเดียมจากทางใดได้บ้างและมากน้อยเพียงใด • อาหารประเภทใดที่ควรและไม่ควรบริโภค • การปฏิบัติตัวเพื่อลดการบริโภคโซเดียม หลังเสร็จสิ้นการอบรมจะเปิดโอกาสให้ซักถาม และประเมินความรู้ที่ได้รับ โดยการพูดคุยถึงอาหารที่กลุ่มเป้าหมายรับประทานจริงในชีวิตประจำวัน ว่ามีปริมาณโซเดียมมากน้อยเพียงใด จากนั้นจึงให้คำแนะนำในการลดบริโภคโซเดียม เป็นข้อ ๆ ดังนี้ • ควรสังเกตฉลากโภชนาการอาหารก่อนบริโภค • ลดการใช้เครื่องปรุงรส ให้ชิมก่อนปรุง • ใช้เครื่องปรุงรสอื่นๆ ได้แก่ พืชสมุนไพร (ขิง ข่า ตะไคร้) แทน • ลดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยว 2.3 ทีมอสม.เป็นพี่เลี้ยงในการติดตาม ชั่งน้ำหนัก วัดความดันรายวัน เพื่อประเมินผลการลดโซเดียมในอาหารและเครื่องดื่มรายวัน อย่างน้อย 7 วันติดต่อกัน 2.4 นัดกลุ่มเป้าหมายมารับการตรวจ ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต ที่รพ.สต.ทุก 2 สัปดาห์ จำนวน 4 ครั้ง พร้อมแนะนำการบริโภคอาหารในทุกๆครั้ง 2.5 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการพร้อมแบบรายงานหรือบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้าร่วมโครงการ และผลการลดเค็ม (ตามภาคผนวก)
ร้อยละของกลุ่มผู้ป่วยที่สามารถลดความดันโลหิตได้มากกว่า 4 mmHg. และ ค่าเฉลี่ยของความดันฯ กลุ่มผู้ป่วยทุกคน ก่อน และ หลังการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโซเดียม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 14:41 น.