ควบคุมและป้องกันโรคไข้มาลาเรีย เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร์ซือเร๊ะ ปี 2564
ชื่อโครงการ | ควบคุมและป้องกันโรคไข้มาลาเรีย เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร์ซือเร๊ะ ปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L2475-1-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร์ซือเร๊ะ |
วันที่อนุมัติ | 11 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 กรกฎาคม 2564 - 13 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 22,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูรไซดะห์ สามะอาลี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | หมู่ที่ 3 5 6 7 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.997,101.573place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 0.00 | |||||
รวมงบประมาณ | 0.00 |
คำเตือน : รวมงบประมาณของทุกงวด (0.00 บาท) ไม่เท่ากับ งบประมาณโครงการ (22,600.00 บาท)
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 3000 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ระหว่างปี 2559-2573 โครงการมาลาเรียโลก (Global Malaria Program) มีเป้าหมายมุ่งสู่การกำจัด โรคไข้มาลาเรียและผลักดันให้ประเทศที่มีอัตราป่วยด้วยโรคไข้มาลาเรียน้อยกว่า 1 ต่อพันประชากร ยกระดับนโยบายจากการควบคุมโรค (Malaria Control) เป็นนโยบายการกำจัดโรค (Malaria Elimination) และประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกได้สนับสนุนนโยบายดังกล่าวระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 66 ในปี 2556 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประเทศไทยร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ร่วมลงนามข้อตกลงในการผลักดัน นโยบายและสนับสนุนงบประมาณการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย ในที่ประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 9 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ปี2557 นอกจากนี้การกำจัดโรคไข้มาลาเรียยังเป็นเป้าหมายหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ(United Nation)และ ประเทศไทยได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวด้วย กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้พัฒนาแผนยุทธศาสตร์กำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560-2569 โดยการมีส่วนร่วมและได้รับข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มาลาเรียโลก (Global Technical Strategy 2016-2030) และยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรีย สำหรับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง (Strategy for Malaria Elimination in Greater Mekong Sub- region2015- 2030) ตลอดจนสอดคล้องกับกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ 20 ปี กระทรวงสาธารณสุขรวมถึงพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 การควบคุมโรคไข้มาลาเรียทั่วโลกในทศวรรษที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2559แนวโน้มของโรคไข้มาลาเรียลดลงอย่างต่อเนื่องมากกว่าร้อยละ 75 ใน 55 ประเทศทั่วโลก และจำนวน ผู้ป่วยมาลาเรียทั่วโลกลดลงประมาณร้อยละ 47 สำหรับประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการควบคุมโรคไข้มาลาเรีย อย่างมีนัยสำคัญจำนวนผู้ป่วยลดลงจาก 150,000 ราย ในปี 2543 เหลือ 14,667ราย ในปี 2560หรือลดลง ประมาณร้อยละ 90 ผู้ป่วยส่วนใหญ่พบตามแนวชายแดนที่มีการเคลื่อนย้ายของประชากรข้ามพรมแดน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อต่อยารักษา ซึ่งเป็นปัญหาของประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงสำหรับ
จังหวัดนราธิวาสเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีปัญหาโรคไข้มาลาเรียมาต่อเนื่องและมีการระบาดทุกปี และพบว่าสถานการณ์โรคไข้มาลาเรียมีผู้ป่วยลดลงและบางพ้นที่ไม่พบผู้ป่วย แต่ส่วนใหญ่ประชาชนประกอบอาชีพหรือปฏิบัติหน้าที่ในป่า สวน ไร่ ในเวลากลางคืนมากกว่าร้อยละ 70 ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะ พบมาก 2 ช่วง ระหว่างเดือนตุลาคมถึงมกราคม และพฤษภาคมถึงสิงหาคม ที่ผ่านมาอำเภอจะแนะมีพื้นที่ตำบลช้างเผือกมักพบมีผู้ป่วยมาลาเรียทุกปี ผลจากการควบคุมป้องกันโรคไข้มาลามีหลายองค์เข้ามาดำเนินงานกิจกรรมกำจัดโรค เช่น ตั้งหน่วยมาลาเรียคลินิกในชุมชน พ่นสารเคมีตกค้างในบ้านอาศัยเมื่อพบผู้ป่วย และค้นหาผู้ป่วยเพิ่ม พบว่า กิจกรรมดังกล่าวสามารถควบคุมโรคไข้มาลาเรียในพื้นที่ตำบลช้างเผือกได้ จากการที่วิถีชีวิตของประชาชนตำบลช้างเผือกทำงานเลี้ยงชีพโดยการทำสวนในป่าและมีที่ตั้งบ้านเรือนส่วนใหญ่ล้อมด้วยป่าเขา อาจทำให้มียุงพาหะของโรคไข้มาลาเรียมากัดได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันโรคจึงต้องมีกิจกรรมกำจัดยุงตามพื้นที่รอบๆที่ตั้งบ้านเรือน โดยการพ่นหมอกควันในเวลาพลบค่ำกำจัดยุงก้นปล่องพาหะโรคมาลาเรียทุกปี
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1 เพื่อชี้แจงการดำเนินงานและวิธีการพ่นยุงพาหะโรคไข้มาลาเรีย อัตราผู้พ่นรู้วิธีการพ่นยุงพาหะโรคไข้มาลาเรีย |
100.00 | |
2 | ข้อที่ 2 เพื่อพ่นหมอกควันครอบคลุมกลุ่มบ้านเสี่ยงโรคไข้มาลาเรีย อัตราพ่นหมอกควันครอบคลุมกลุ่มบ้านเสี่ยงโรคไข้มาลาเรีย |
100.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 3003 | 22,600.00 | 0 | 0.00 | |
1 ก.ค. 64 | ประชุมชี้แจงวิธีการพ่นยุงพาหะโรคไข้มาลาเรีย | 3 | 2,900.00 | - | ||
2 - 5 ส.ค. 64 | พ่นสารเคมีกำจัดยุง | 3,000 | 19,700.00 | - |
1) ชี้แจง ผู้ทำการพ่นหมอกวันกำจัดยุงพาหะโรคไข้มาลาเรีย 2) ปฏิบัติการพ่นสารเคมีกำจัดยุงเวลาพลบค่ำ รอบๆบ้านที่เสี่ยง
ผลจาการดำเนินงานทำให้อัตราป่วยโรคไข้มาลาเรียลดลง และประชาชนได้รับการป้องกันโรคไข้มาลาเรีย ในพื้นที่และประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญต่อการป้องกันโรคไข้มาลาเรีย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 15:30 น.