โครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค
ชื่อโครงการ | โครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค |
รหัสโครงการ | 64-L2488-2-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.ตำบลบาเจาะ |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2564 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ตุลาคม 2565 |
งบประมาณ | 61,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอาลีย๊ะ วาและ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.514,101.636place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง มะเร็ง ฯลฯเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน พิการและตายก่อนวัยอันควร องค์การอนามัยโลก(WHO) เล็งเห็นว่ากลุ่มโรค NCDs นั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติผู้เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2552 พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลกทั้งหมด มีถึง 63% ที่เกิดจากกลุ่มโรค NCDs สำหรับประเทศไทยเอง สถิติล่าสุดพบว่ามีถึง 14 ล้านคนที่เป็นโรคในกลุ่มโรค NCDs และที่สำคัญยังถือเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตของ ประชากรทั้งประเทศ โดยจากสถิติปี พ.ศ. 2552 พบว่า มีประชากรเสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs มากกว่า 300,000 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ73 ของการเสียชีวิตของประชากรไทยทั้งหมดในปี 2552 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งสถิติการเสียชีวิตดังกล่าวยังแสดงว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
โรคเบาหวานเป็นปัญหา 1 ใน 5 ของปัญหาสาธารณสุขในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2561 – 2563 ข้อมูลจากการคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวานในกลุ่มวัยทำงาน (ระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จ.นราธิวาส ) อำเภอบาเจาะมีประชากรเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ร้อยละ 8.78 , 19.78 ,18.40 ผู้ป่วยรายใหม่จากกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ร้อยละ1.59 , 0.84 และ 0.90 ผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ร้อยละ11.68 , 12.78 และ 14.78 และผลจากการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมตามหลัก 3อ2ส ของกลุ่มวัยทำงาน อายุ 15 – 59 ปี จำนวน 100 คน ในปี 2562 พบว่า ความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพอยู่ในระดับถูกต้องบ้าง คือรู้และเข้าใจใน 3อ2ส ถูกต้องเป็นส่วนน้อย ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดี การเข้าถึงข้อมูลอยู่ในระดับพอใช้ คือสามารถแสวงหาข้อมูลและบริการสุขภาพได้บ้างแต่ยังไม่สามารถนำมาใช้ตัดสินใจให้ถูกต้องแม่นยำได้ การสื่อสารสุขภาพอยู่ในระดับที่ไม่ดี ยังมีปัญหาในการฟัง การอ่าน และโน้มน้าวให้ผู้อื่นเข้าใจได้ การจัดการตนเองอยู่ในระดับพอใช้ คือมีความสามารถในการจัดการเงื่อนไขด้านอารมณ์ได้บ้าง การตัดสินใจและเลือกปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก คือสามารถตัดสินใจที่ถูกต้องภายใต้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตาม 3อ2ส ที่เกิดผลดีต่อสุขภาพตนเองและผู้อื่นอย่างเคร่งครัด โดยสรุประดับความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับ พอใช้ และระดับพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ2ส อยู่ในระดับดี คือมีพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการดุแลสุขภาพตนเองตาม 3อ2ส ได้อย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุแห่งพฤติกรรม พบว่าปัจจัยนำมาจากการขาดความรู้ หรือไม่เข้าใจในเรื่องของโรคเบาหวาน ความรุนแรงของโรค การเลือกบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ การไม่ออกกำลังกาย หรือไม่รู้วิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเอง และการไม่รู้ว่าตนเองมีภาวะหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ปัจจัยเอื้อ เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการบริโภคที่มากขึ้น ร้านอาหาร ร้านขายข้าวแกง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายเครื่องดื่ม น้ำชากาแฟที่มีเพิ่มขึ้น หาซื้อง่ายและมีราคาถูก จึงไม่ต้องเสียเวลามาประกอบอาหารรับประทานเอง และการไม่มีสถานที่ที่เอื้อต่อการออกกำลังกาย ปัจจัยเสริม งานเลี้ยง งานมาแกปูโละ งานบุญต่างๆ การโฆษณาจากสื่อต่างๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนได้ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อให้คนในชุมชนมีพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ2ส ที่ดีขึ้น โดยประชาชนจะต้องดูแลตนเองด้วยการมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง รับประทานอาหาร ออกกำลังกายที่เหมาะสม และตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ประชาชนในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปควรได้รับการค้นหาความเสี่ยงทุกปี เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เสริมพลังความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานและลดภาวะแทรกซ้อน ความพิการในกลุ่มป่วยโรคเบาหวาน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ร้อยละ 60 ของประชาชนอายุ 35 – 59 ปี ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวาน / ความดันโลหิต
ร้อยละ 50 ของผู้เข้ารับการปรับเปลี่ยนมีพฤติกรรมสุขภาพ 3อ2ส ที่ดีขึ้น |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีแกนนำเข้าร่วมทุกกระบวนการ |
0.00 | |
3 | 3.เพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หมู่บ้านผ่านเกณฑ์ประเมินหมู่บ้านแห่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระดับดี |
0.00 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | เม.ย. 64 | พ.ค. 64 | มิ.ย. 64 | ก.ค. 64 | ส.ค. 64 | ก.ย. 64 | ต.ค. 64 | พ.ย. 64 | ธ.ค. 64 | ม.ค. 65 | ก.พ. 65 | มี.ค. 65 | เม.ย. 65 | พ.ค. 65 | มิ.ย. 65 | ก.ค. 65 | ส.ค. 65 | ก.ย. 65 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ตามโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม(1 เม.ย. 2565-30 ก.ย. 2565) | 61,000.00 | ||||||||||||||||||
รวม | 61,000.00 |
1 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ตามโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 30 | 61,000.00 | 1 | 60,000.00 | |
1 เม.ย. 65 - 30 ก.ย. 65 | จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ตามโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม | 30 | 61,000.00 | ✔ | 60,000.00 | |
1.คัดเลือก อสม.เพื่อเป็นแกนนำในการดำเนินงาน / กิจกรมและการบูรณาการข้อมูล/กิจกรรม
2.สำรวจข้อมูลผู้ที่มีอายุ 35 – 59 ปีในชุมชน
3.คัดกรองโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 35 – 59 ปี
4.คัดเลือกพื้นที่เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องในการวางแผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
5.จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนตามโปรแกรมการปรับเปลี่ยน จำนวน 5 ครั้ง
6.เฝ้าระวังและประเมินภาวะสุขภาพ
7.สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมกับการคืนข้อมูลลงสู่ชุมชน
8.ติดตาม สรุปและประเมินผลโครงการ
1.ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการบริการทางสุขภาพอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยง มีความรู้ และทัศนคติที่เหมาะสมในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
3.กลุ่มเป้าหมายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ดีขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 12:59 น.