โครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน NCD ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ประจำปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน NCD ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ประจำปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L3070-1-7 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาบี |
วันที่อนุมัติ | 17 ธันวาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 29 ตุลาคม 2564 |
งบประมาณ | 63,250.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวเเมรี เเวฮามะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายมะรอกี เวาะเลง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.782,101.246place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
1.1 กลุ่มโรคเรื้อรัง ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลก ทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม โดยประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่ำสุดเมื่อเทียบในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก (SEARO) จากข้อมูลปีพ.ศ.2559 โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประชาชนไทยทั้งในแง่ภาระโรคและอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (30-69 ปี) จากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สำคัญ ประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 - 2559 หลังจากนั้น มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยและคงที่ในปี พ.ศ. 2561 โดยโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงที่สุดเท่ากับ 44.3 รายต่อประชากรแสนคน และอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้ชายสูงกว่าเพศหญิง 1.2 สภาพปัญหา : อุบัติการณ์การเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานรายใหม่มีแนวโน้มลดลง โดยมีปัจจัยเชิงบวกด้านพฤติกรรม ในประชากรที่ดีขึ้นทั้งในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ และวัยรุ่น คือ ความชุกของการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงเชิงลบที่คุกคามสุขภาพคือการบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล และการมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ อาจกล่าวได้ว่าการลดลงของอุบัติการณ์เบาหวาน และภาวะความดันโลหิตสูง เป็นผลจากมาตรการการควบคุม ป้องกันโรค และปัจจัยเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในบางช่วงเวลาความชุกของ ปัจจัยเสี่ยง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ทว่ายังคงเป็นการเปลี่ยนแปลงในอัตราที่ไม่มาก นอกจากนั้นอาจสะท้อนว่าควรเพิ่มมาตรการ และ ความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการเพื่อปรับแนวโน้มให้เปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการด้านการควบคุมการบริโภค อาหารหวาน มัน และเค็ม นอกจากนั้นควรมีการสำรวจข้อมูลสถานการณ์การบริโภคอาหารและปริมาณโซเดียมที่บริโภคต่อวันอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของกลุ่มวัยทำงานตำบลยาบี ปี 2561-2563 พบว่า ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 98.49 ,97.01 , 96.06 ตามลำดับ แนวโน้มการคัดกรองลดลง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงตั้งไว้ (ร้อยละ 90) จากการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปี 2561-2563 ได้แยกผลการคัดกรองประเภทกลุ่มปกติ ร้อยละ 58.99 ,60.67 ,81.06 ตามลำดับ กลุ่มปกติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยแยกเป็นรายหมู่อยู่ในกลุ่มปกติที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 6 (86.02%) , หมู่ 3 (83.98%) ,หมู่ 4 (83.39%) ,หมู่ 2 (80.68%) , หมู่ 1 (77.12%) และหมู่ 5 (71.35%) ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 32.31 ,30.59 ,10.47 ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยงมีแนวโน้มลดลง โดยแยกเป็นรายหมู่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 1 (16.10%) , หมู่ 5 (15.20%) ,หมู่ 3 (10.68%) , หมู่ 4 (9.00%) , หมู่ 2 (7.95%) และหมู่ 6 (6.99%) ตามลำดับ กลุ่มสงสัยป่วย ร้อยละ 8.35 ,8.23 ,8.03 ตามลำดับ กลุ่มสงสัยป่วยมีแนวโน้มลดลง โดยแยกเป็นรายหมู่ที่อยู่ในกลุ่มสงสัยป่วยที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 5 (12.87%) , หมู่ 2 (11.36%) ,หมู่ 4 (6.92%) , หมู่ 6 (6.45%) , หมู่ 1 (5.93%) และหมู่ 3 (5.34%) ตามลำดับ ในส่วนของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานตั้งแต่ ปี 2561-2563 พบว่า ร้อยละ 98.46 ,94.53 , 93.98 ตามลำดับ แนวโน้มการคัดกรองลดลงแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงตั้งไว้ (ร้อยละ90) จากการคัดกรองโรคเบาหวาน ปี 2561-2563 ได้แยกผลการคัดกรองประเภทกลุ่มปกติ ร้อยละ 85.05 ,81.59 ,86.29 ตามลำดับ กลุ่มปกติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยแยกเป็นรายหมู่อยู่ในกลุ่มปกติที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 3 (90.28%) , หมู่ 6 (89.76%) ,หมู่ 2 (87.23%) , หมู่ 4 (86.89%) , หมู่ 1 (83.87%) และหมู่ 5 (77.95%) ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 13.62 ,17.12 ,13.46 ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยงมีแนวโน้มลดลง โดยแยกเป็นรายหมู่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 5 (22.05%) , หมู่ 1 (15.32%) ,หมู่ 4 (12.79%) , หมู่ 2 (12.77%) , หมู่ 6 (9.76%) และหมู่ 3 (9.72%) ตามลำดับ กลุ่มสงสัยป่วย ร้อยละ 1.17 ,1.29 ,0.08 ตามลำดับ กลุ่มสงสัยป่วยมีแนวโน้มลดลง โดยแยกเป็นรายหมู่ที่อยู่ในกลุ่มสงสัยป่วยที่มากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้ หมู่ 6 (0.49%) , หมู่ 1 (0.00%) ,หมู่ 2 (0.00%) , หมู่ 3 (0.00%) , หมู่ 4 (0.00%) และหมู่ 5 (0.00%) ตามลำดับ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือยังไม่สามารถจัดการกับปัจจัยเสี่ยงได้ 1.3 ความเร่งด่วน / ผลที่คาดหวัง : จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหา เฝ้าระวัง ติดตามกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ป้องกันไม่ให้ป่วย และกลุ่มป่วยสามารถควบคุมโรคได้ เกิดเครือข่ายในการดูแลสุขภาพที่เข้มแข็งโดยเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ การพึ่งพาตนเอง รพ.สต.ยาบี จึงได้จัดทำโครงการ 1 ตำบลยาบี 1 หมู่บ้าน NCD โดยใช้กลไกการดำเนินงานของเครือข่ายสุขภาพในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ไม่ให้ป่วย และกลุ่มป่วยสามารถควบคุมโรคได้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายเกิดความตระหนักทางสุขภาพแล้ว จะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดภาวะการเป็นโรค ชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อน ชุมชนเข้มแข็งด้านสุขภาพ สามารถดูแลสุขภาพกันเองในชุมชนได้ ตำบลยาบี (จากทะเบียนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาบี) ปี 2560 พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการคัดกรองความเสี่ยงประชากร 35 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 92.14 (พบกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน 95 คน ร้อยละ 8.09 สงสัยป่วย 7 ร้อยละ 0.60 และมีอัตราป่วยด้วยเบาหวานรายใหม่ จำนวน 8 คน ร้อยละ 0.74 พบกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง 372 คน ร้อยละ 34.48 กลุ่มสงสัยป่วย 115 คน ร้อยละ 10.66 อัตราป่วยด้วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จำนวน 31 คน ร้อยละ 2.9ตำบลยาบี (จากทะเบียนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาบี) ปี 2561พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการคัดกรองความเสี่ยงประชากร 35 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 98.40 (พบกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน 174 คน ร้อยละ 13.62 สงสัยป่วย 15 ร้อยละ 1.17 และมีอัตราป่วยด้วยเบาหวานรายใหม่ จำนวน 6 คน ร้อยละ 0.55 พบกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง 379 คน ร้อยละ 32.31 กลุ่มสงสัยป่วย 98คน ร้อยละ 8.35 อัตราป่วยด้วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จำนวน 16 คน ร้อยละ 1.36 ตำบลยาบี (จากทะเบียนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาบี) ปี 2562พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการคัดกรองความเสี่ยงประชากร 35 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 97.01 (พบกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน 213 คน ร้อยละ 17.12 สงสัยป่วย 16 ร้อยละ 1.29 และมีอัตราป่วยด้วยเบาหวานรายใหม่ จำนวน 9 คน ร้อยละ 0.72 พบกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง 357 คน ร้อยละ 30.59กลุ่มสงสัยป่วย 96คน ร้อยละ 8.23 อัตราป่วยด้วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จำนวน 23 คน ร้อยละ 1.98 จากข้อมูลดังกล่าวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาบี จึงได้เห็นถึงความสำคัญในการการดูแลเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านสุขภาพการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสมและสามารถลดโรคลดเสี่ยงโรคเรื้อรังเบาหวาน ความดัน จึงได้จัดทำโครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน NCD ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ปี 2564 ขึ้น โดยเน้นในกลุ่มที่เสี่ยงและเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการเกิดโรคเรื้อรังได้ในอนาคตได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อเฝ้าระวังและค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ 1.ผู้ป่วยรายใหม่โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานลดลงร้อยละ 5 |
100.00 | |
2 | 2.เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงได้รับแนวทางการปรับเปลี่ยนตามแนวทางปิงปองจราจรชีวิต 7 สี และหลักการ 3 อ 2 ส 2.จำนวนกลุ่มเสี่ยงสูงที่เข้าร่วมโครงการได้เข้าระบบการเฝ้าระวังตนเองตามแนวทางปิงปองจราจร 7 สีและปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยงของตนเอง โดยยึดหลัก 3อ 2ส ร้อยละ 80 |
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 210 | 63,250.00 | 5 | 63,250.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมอบรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงสูงโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวาน | 100 | 16,400.00 | ✔ | 16,400.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ 2 ตรวจสุขภาพและคัดกรองเบื้องต้น | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ 3 คืนข้อมูลสถานะทางสุขภาพของคนในชุมชน และให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง | 60 | 6,000.00 | ✔ | 6,000.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ 4 อสม.ติดตามเยี่ยมบ้านเพื่อประเมินระดับน้ำตาลในเลือดและประเมินระดับค่าความดันโลหิตสูง (ติดตาม 3 เดือนครั้ง จำนวน 2 ครั้ง) | 38 | 37,100.00 | ✔ | 37,100.00 | |
1 ม.ค. 64 - 30 ก.ย. 64 | กิจกรรมที่ 5 คัดเลือก อสม.ต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ | 12 | 3,750.00 | ✔ | 3,750.00 |
ขั้นเตรียมการ
1.ประชุมทีมทำงานเจ้าหน้าที่และ อสม.เพื่อค้นหาปัญหาการคัดกรองที่ผ่านมาสรุปแนวทางการแก้ไข จัดทำโครงการ ขั้นดำเนินการ
2.วางแผนการคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย ที่มีภาวะเสี่ยงสูงประชาชนอายุ 35 ปี ขึ้นไป ร่วมกับเจ้าหน้าที่ และ อสม. โดยการสร้างกระแสร่วมกันระหว่าง จนท. และ อสม
3.จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่กลุ่มเสี่ยงและเสี่ยงสูงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 100 คน บรรยายเกี่ยวกับการดูแลตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3อ.2ส. ทำอย่างไรให้ห่างไกลจากโรค
4.กิจกรรมติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วย
5.รายงานผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมประจำเดือน สรุปผลการดำเนินงานและวางแผนการพัฒนาต่อ
1.กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง มีทักษะในการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงได้ไม่กลายเป็นผู้ป่วยรายใหม่
2.จำนวนกลุ่มเสี่ยงสูงที่เข้าร่วมโครงการได้เข้าระบบการเฝ้าระวังตนเองตามแนวทางปิงปองจราจร 7 สี และปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยงของตนเอง โดยยึดหลัก 3 อ 2 ส ร้อยละ 80
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 16:25 น.