โครงการจัดตั้งระบบกักตัวผู้ต้องสงสัยโควิด-19 ระดับพื้นที่(LQ) อบต.ตาลีอายร์ ประจำปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการจัดตั้งระบบกักตัวผู้ต้องสงสัยโควิด-19 ระดับพื้นที่(LQ) อบต.ตาลีอายร์ ประจำปี 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L3043-01-0004 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.ตำบลตาลีอายร์ |
วันที่อนุมัติ | 22 เมษายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 22 เมษายน 2564 - 30 มิถุนายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 82,605.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ชมรม อสม.ตำบลตาลีอายร์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตาลีอายร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.789,101.389place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 15 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสาม ช่วงเดือนเมษายนจวบจนถึงปัจจุบัน มีอัตราการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและขยายในวงกว้าง ส่งผลให้ประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่าวันละ 100 คน ทำให้การจะรับรักษาพยาบาลคนไข้เหล่านี้ในโรงพยาบาลคงไม่สามารถดำ | 0.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 13 กันยายน 2561 ข้อ 6 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ โดยให้มีกองทุนหลักประกันสุขภาพที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ สถานบริการ หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานอื่น องค์กร หรือกลุ่มประชาชน เพื่อให้บุคคลสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสมและความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น และตามข้อ 10 เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติดังต่อไปนี้ (5) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ ในการป้องกั้นและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขได้ตามความจำเป็น เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ได้ ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและสอดคล้องกับสถานการณ์การเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่
ประกอบกับตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ข้อ10/1 กำหนดว่า “เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีเกิดการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และคณะกรรมการกองทุนไม่อาจอนุมัติค่าใช้จ่ายตามข้อ 10 ได้ทันต่อสถานการณ์ ให้ประธานกรรมการตามข้อ 12 มีอำนาจอนุมัติโครงการหรือกิจกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขกรณีเกิดการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อได้ตามความจำเป็น ได้ไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อโครงการ โดยให้ถือว่าเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติตามประกาศนี้ด้วย แล้วรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการกองทุนทราบ” อีกทั้ง
ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสาม ช่วงเดือนเมษายนจวบจนถึงปัจจุบัน มีอัตราการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและขยายในวงกว้าง ส่งผลให้ประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่าวันละ 100 คน ทำให้การจะรับรักษาพยาบาลคนไข้เหล่านี้ในโรงพยาบาลคงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนอาการป่วยโควิดก็มีระดับความรุนแรงในระดับน้อยถึงมาก โรงพยาบาลคงต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วยอาการหนักเท่านั้นและมีความจำเป็น นอกจากนี้สถานการณ์ของบุคคลที่ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน มีแนวโน้มว่าจะต้องถูกผลักดันให้กลับประเทศ ซึ่งบุคคลเหล่านี้หลายคนอาจป่วยด้วยโควิดสายพันธุ์แอฟริกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่
- 2 –
ค่อนข้างดื้อวัคซีนที่กำลังจะฉีด ทางจังหวัดปัตตานีได้มีการประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นสถานกักตัวแบบพื้นที่หรือ Local Quarantine : LQ เพื่อใช้ในการกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงและเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงเพื่อรองรับผู้ที่จะถูกกักตัวที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นตามที่สาธารณสุขกำหนด ขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ดังกล่าว จึงเป็นหน้าที่ของกลุ่ม อสม.ประจำตำบลตาลีอายร์ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด (ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ) เป็นกลุ่มที่ต้องดูแลผู้ที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งต้องถูกกักตัวเองในสถานที่ที่หน่วยงานกลางกำหนด (สำหรับของอำเภอยะหริ่ง ได้กำหนดสถานที่กลางในการกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย คือ ศูนย์พัฒนาชีวิตใหม่ตำบลปิยามุมัง ตามมติที่ประชุมอำเภอยะหริ่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564) จึงได้จัดทำโครงการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ตำบลตาลีอายร์ ขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงทีต่อไปหากเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติขึ้นจริงในพื้นที่ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงของโรคและระงับยับยั้งการระบาดของโรคต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อจัดบริการกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงใน LQ 2. เพื่อคัดกรองบุคคลที่เดินทางจากนอกพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้าน
|
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : 1. เพื่อจัดบริการกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงใน LQ 2. เพื่อคัดกรองบุคคลที่เดินทางจากนอกพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้าน |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
ไม่ระบุวัตถุประสงค์ |
||||||
22 เม.ย. 64 - 30 มิ.ย. 64 | จัดตั้งระบบกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง | 15.00 | 68,025.00 | - | ||
22 เม.ย. 64 - 30 มิ.ย. 64 | การคัดกรองและเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน | 15.00 | 14,580.00 | - |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
กิจกรรมที่ 1 จัดตั้งระบบกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
จัดตั้งระบบกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยใช้อาคารของศูนย์
พัฒนาชีวิตใหม่ ตำบลปิยามุมัง เพื่อการกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
โดยกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมนี้ ดังนี้
1. ค่าจัดบริการกักตัวบุคคลที่สงสัยเดินทางจากพื้นที่มีความเสี่ยง (ค่าอาหารสำหรับผู้ที่ถูกกักตัว วันละ 3
มื้อ ๆ ละ 50 บาท) จำนวน 15 คน คนละ 150 บาท เป็นระยะเวลา 14 วัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 31,500 บาท
2. ค่าอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการกักตัวของบุคคลเสี่ยง จำนวน 15 ชุด ๆละ 2,325 บาท คิดเป็นเงิน
34,875 บาท (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายโครงการ : ผนวก ก.)
3. ค่าเจลล้างมือแอลกอฮอล์ (แบบขวดกดขนาด 400 ml) จำนวน 10 ขวด ๆ ละ 165 บาท เป็นเงิน
1,650
รวมงบประมาณสำหรับกิจกรรมที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 68,025 บาท (เงินหกหมื่นแปดพันยี่สิบห้าบาทถ้วน)
กิจกรรมที่ 2 การคัดกรองและเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน
- ประสาน อสม.ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน
โดยกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมนี้ ดังนี้
1. ค่าตอบแทน อสม. หรือ (เบี้ยเลี้ยงตามระเบียบการจ่ายของหน่วยงานขอรับทุน) จำนวน 42 คน x 240 บาท เป็นเงิน 10,080 บาท
** หมายเหตุ สำหรับรายการนี้ จะเบิกเฉพาะวันที่มีเคสเข้ามาเท่านั้น โดยต้องแนบแบบรายงานการปฏิบัติงานของ อสม.ประกอบการเบิกจ่ายรายการนี้ด้วยทุกครั้ง
2. ค่าอุปกรณ์ เครื่องวัดอุณหภูมิแบบยิงหน้าผาก จำนวน 3 เครื่อง x 1500 บาท เป็นเงิน 4,500 บาท
รวมงบประมาณสำหรับกิจกรรมที่ 2 เป็นเงินทั้งสิ้น 14,580 บาท (เงินหนึ่งหมื่นสี่พันห้าร้อยแปดสิบบาทถ้วน)
รวมงบประมาณสำหรับโครงการนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 82,605 บาท (เงินแปดหมื่นสองพันหกร้อยห้าบาทถ้วน)
- เกิดระบบการกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
- ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้รับการกักตัว 100% 3.สามารถป้องการระบาดของโรค. covid-19 ในพื้นที่ได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2564 12:52 น.