โครงการเฝ้าระวังเพื่อสังเกตการจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีประชาชนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังเพื่อสังเกตการจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีประชาชนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง |
รหัสโครงการ | 64-L5261-1-4 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | เทศบาลตำบลท่าพระยา |
วันที่อนุมัติ | 26 เมษายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 99,200.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | กองช่าง เทศบาลตำบลท่าพระยา โดย นางสาวสุรพร โต๊ะสมัน ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 26 เม.ย. 2564 | 31 ส.ค. 2564 | 99,200.00 | |||
รวมงบประมาณ | 99,200.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรค COVID-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ของประเทศไทย โดยเกิดจากเชื้อไวรัสนี้มีชื่อเฉพาะว่า 2019-nCoV ในสมาชิกลำดับที่ 7 ในตระกูล coronaviruses lineage B, จีนัส betacoronavirus , เชื้อมีลำดับยีนมากกว่าร้อยละ 85 ที่เหมือนกับยีโนมของเชื้อ SARS-like CoV ในค้างคาว (bat-SL-CoVZC45, MG772933.1) การก่อโรคในมนุษย์จากเชื้อโรคในค้างคาวถือว่าเป็น zoonotic disease ด้วยรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศจีน โดยเริ่มจากการพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่ไม่รู้สาเหตุในเมืองอู่ฮั่นเพิ่มขึ้น และต่อมาได้ทราบว่ามีสาเหตุจากเชื้อไวรัส COVID-19 ที่แพร่จากคนสู่คน วันที่ 11 มกราคม 2563 ผลการตรวจเชื้อไวรัสในระดับรหัสสารพันธุกรรม ระบุว่าเป็น เชื้อไวรัส COVID-19 แม้จะยังไม่มีรายงานสรุปอย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับสัตว์ 2 ชนิด คือ งูเห่า และค้างคาวชนิดหนึ่ง” โดยมีจุดเริ่มต้นของผู้ติดเชื้อ เกิดจากคนงานและลูกค้าของตลาดขายส่งอาหารทะเล และเนื้อสัตว์แปลกๆ หายาก ที่ถูกจับมาขายในตลาดสดในสภาพที่ยังเป็นๆ สัตว์เหล่านี้มีเชื้อไวรัสถูกขังเกิดความเครียดล้มป่วย และมีการติดเชื้อข้ามไปยังสัตว์อีกสายพันธุ์ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อนำไปบริโภคและติดเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย อาการคล้ายเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกไหล ไอจาม ธรรมดา แต่แตกต่างตรงที่เมื่อถึงระยะหนึ่งปอดจะเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง ยาลดไข้ทั่วไปไม่สามารถรักษาได้ทันเวลา หากไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ ก็จะกลายเป็นพาหะแพร่ระบาดไปสู่คนอื่นๆ โดยการไอจามรดกัน สัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย น้ำตา ฯลฯ จนทำให้เกิดการป่วยและอาจเสียชีวิตได้ (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, 2563), (Chee Kin, 2020)
ตามที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีการแพร่ระบาดในประเทศไทยระลอก 3อ้างถึงข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผู้ติดเชื้อ โควิด ณ วันที่ 18 เมษายน 2564 พบยอดผู้ป่วยที่ติดเชื้อสะสมทั้งหมดจำนวน 42,352 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 28,683 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 13,568 ราย เสียชีวิตสะสม 101 ราย โดยแหล่งแพร่ระบาดมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงย่านทองหล่อ และมีแนวโน้มที่โรคจะแพร่กระจายมากขึ้น และจังหวัดสงขลาถือเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่มีการติดเชื้อสูงสุด นั้น
ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลท่าพระยา ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ถึงแม้ยังไม่มีรายงานว่าผู้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่กลับจากพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเพื่อสังเกตการจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง 18 เมษายน 2564 จำนวน 285 ราย และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแนวทางมาตรการการควบคุมป้องกันการระบาดในพื้นที่จึงต้องดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ควบคุมและสังเกตอาการ ( Local Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน
ดังนั้น เทศบาลตำบลท่าพระยา จึงเห็นความสำคัญของปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ จึงขอดำเนินโครงการเฝ้าระวังเพื่อสังเกตการจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีประชาชนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง โดยดำเนินกิจกรรมร่วมกันเพื่อสร้างความตระหนักในการป้องกันสุขภาพของประชาชน อาศัยการดำเนินงานส่วนร่วมของหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชน ตลอดจนเครือข่ายสุขภาพให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อดูแลและควบคุมผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในข่ายต้องกักกันเพื่อสังเกตการเริ่มป่วย
|
0.00 | |
2 | เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยมีหลักการในการแยกประเภทเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย และแนะนำการกักกัน/แยกกัก
|
0.00 | |
3 | เพื่อลดความหวาดวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของโรค
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 99,200.00 | 0 | 0.00 | |
3 พ.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ค่าใช้จ่ายในการกักกันตัว | 0 | 96,800.00 | - | ||
3 พ.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ค่าใช้จ่ายระหว่างรอผลตรวจ เพื่อแยกกลุ่มปกติออกจากกลุ่มป่วย | 0 | 2,400.00 | - |
1 วางแผน กำหนดวัตถุประสงค์ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหาและรูปแบบวิธีการดำเนินงานโครงการ
2 ประชาชนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงลงทะเบียนการเข้าพัก ณ จุดประสานงาน
3 ประชาชนที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงเข้าที่พักใช้ชีวิตตามระเบียบปฏิบัติ ตรวจวัดไข้ อาการป่วยรายวัน
ประชาชนที่เข้าข่ายส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ถ้าไม่เข้าข่ายให้เฝ้าระวังอาการรายวันครบ 14 วัน
4 ประชาชนเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังครบ 14 ลงทะเบียนออก เดินทางกลับบ้าน (ทั้งด่านปกติ และช่องทางธรรมชาติ)
5 สรุปผลการดำเนินงาน และรายงานให้คณะกรรมการกองทุนฯ ทราบเมื่อสิ้นสุดโครงการ
1 สามารถดูแลและควบคุมผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการ ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในข่ายต้องกักกันเพื่อสังเกตการเริ่มป่วย 2 สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยมีหลักการในการแยกประเภทเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย และแนะนำการกักกัน/แยกกัก 3 ลดความหวาดวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของโรค
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2564 08:51 น.