โครงการสตรีไทยใส่ใจป้องกันภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกประจำปีงบประมาณ 2564
ชื่อโครงการ | โครงการสตรีไทยใส่ใจป้องกันภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกประจำปีงบประมาณ 2564 |
รหัสโครงการ | L7886/2564/1/10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง |
วันที่อนุมัติ | 7 พฤษภาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ก.ค. 2564 | 31 ก.ค. 2564 | 15,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 15,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 186 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของสตรีอายุ 30-60ปีได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น | 90.00 | ||
2 | ร้อยละของสตรีอายุ 30-70 ปี สามารถตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองได้ถูกต้อง | 96.00 | ||
3 | ร้อยละของอัตราการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะลุกลามลดลง | 186.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากรายงานข้อมูลข่าวสารสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ การเสียชีวิตของคนไทยนั้น เกิดจากโรคมะเร็งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้ชายไทยเป็นมะเร็งตับมากที่สุด ส่วนผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด รองลงมาคือมะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด ตามลำดับ สาเหตุที่ทำให้สตรีเป็นโรคมะเร็งมีหลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะเป็น กรรมพันธุ์ วิถีชีวิต การบริโภค ผู้ป่วยที่มารับการรักษาพยาบาลส่วนใหญ่มักจะมาเมื่ออยู่ในระยะที่เป็นมากแล้ว ทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งวิธีการป้องกันที่สำคัญที่สุด คือการค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อรับการรักษาก่อนจะลุกลาม โดยให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ถ้าได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง การฝึกทักษะในการสังเกต และการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เพื่อค้นหาความผิดปกติ ทำให้สามารถได้รับการดูแล รักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ในขณะเดียวกัน กลุ่มสตรีสามารถดูแล และป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ทุก ๆ 5 ปี กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของการลดปัญหาสุขภาพ ได้แก่ สตรีอายุ 30-60 ปี ได้รับการตรวจสุขภาพหามะเร็งปากมดลูกไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ซึ่งการดำเนินงานโครงการมะเร็งปากมดลูกดังกล่าว ยังไม่บรรลุเป้าหมายเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่ทั่วถึง กลุ่มเป้าหมายยังไม่ตระหนักถึงภัยของโรคมะเร็งปากมดลูก และยังไม่เห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเท่าที่ควร
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับสตรี จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อรณรงค์เร่งรัดให้สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้มีความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านม จัดให้มีการอบรมและสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และติดตามกลุ่มเป้าหมายเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | สตรีอายุ 30-60ปีได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น สตรีอายุ 30-60 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร้อย 80 (ในระยะเวลา 5 ปี) |
96.00 | 1.00 |
2 | สตรีอายุ 30-70 ปี สามารถตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองได้ถูกต้อง สตรีอายุ 30-70 ปีได้รับการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ร้อยละ 80 |
90.00 | 1.00 |
3 | เพื่อลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะลุกลาม สตรีอายุ 30-70 ปี ได้รับการตรวจโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะลุกลาม |
186.00 | 1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,000.00 | 3 | 15,000.00 | |
1 ก.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ประชาสัมพันธ์ และรณรงค์โครงการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งปากมดลูก | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 ก.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | อบรมให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก สาเหตุและการป้องกันโรค | 0 | 12,600.00 | ✔ | 12,600.00 | |
1 ก.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ให้ความรู้สตรีอายุ30-60ปี เรื่องมะเร็งปากมดลูกแบบใหม่ (HPV DNA TEST ) และให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง | 0 | 2,400.00 | ✔ | 2,400.00 |
1.จัดทำโครงการตามแผน เพื่อเสนอพิจารณาเห็นชอบ/อนุมัติโครงการ
2.ประชุมเจ้าหน้าที่และ อสม.หมู่2 เพื่อชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงาน
3.ประสานทีมงานและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
4 สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก
4.ประสานอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่ 2 ในการติดตามกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นดำเนินการ
1.อสม.ปฏิบัติการเชิงรุกโดยการลงพื้นที่ติดตามพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
2.รณรงค์ให้ความรู้เรื่องการตรวจมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในหมู่บ้าน
3.อบรมให้เรื่องการตรวจมะเร็งเต้านมและการตรวจมะเร็งปากมดลูก
4.ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง
5.ติดตามประเมินผลระหว่างดำเนินโครงการ หลังดำเนินโครงการ และสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ
จากรายงานข้อมูลข่าวสารสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ การเสียชีวิตของคนไทยนั้น เกิดจากโรคมะเร็งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้ชายไทยเป็นมะเร็งตับมากที่สุดส่วนผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด รองลงมาคือมะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด ตามลำดับ สาเหตุที่ทำให้สตรีเป็นโรคมะเร็งมีหลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะเป็น กรรมพันธุ์ วิถีชีวิต การบริโภค ผู้ป่วยที่มารับการรักษาพยาบาลส่วนใหญ่มักจะมาเมื่ออยู่ในระยะที่เป็นมากแล้ว ทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งวิธีการป้องกันที่สำคัญที่สุด คือการค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อรับการรักษาก่อนจะลุกลาม โดยให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ถ้าได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง การฝึกทักษะในการสังเกต และการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เพื่อค้นหาความผิดปกติ ทำให้สามารถได้รับการดูแล รักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ในขณะเดียวกัน กลุ่มสตรีสามารถดูแล และป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ทุก ๆ 5 ปี กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของการลดปัญหาสุขภาพ ได้แก่ สตรีอายุ 30-60 ปี ได้รับการตรวจสุขภาพหามะเร็งปากมดลูกไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80ซึ่งการดำเนินงานโครงการมะเร็งปากมดลูกดังกล่าว ยังไม่บรรลุเป้าหมายเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่ทั่วถึง กลุ่มเป้าหมายยังไม่ตระหนักถึงภัยของโรคมะเร็งปากมดลูก และยังไม่เห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเท่าที่ควร
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับสตรี จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อรณรงค์เร่งรัดให้สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้มีความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งเต้านม จัดให้มีการอบรมและสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และติดตามกลุ่มเป้าหมายเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจ๊ะบิลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2564 00:00 น.