โครงการเพื่อนช่วยเพื่อนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการเพื่อนช่วยเพื่อนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลปากช่องนานา (คลินิกหมอครอบครัวหนองกะจะ) |
วันที่อนุมัติ | 1 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 56,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | พื้นที่ในเขตคลินิกหมอครอบครัวหนองกะจะ ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 210 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 80.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและถือว่าเป็น“ ภัยเงียบ” เพราะเป็นโรคที่ไม่ปรากฏอาการและเป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อนในอวัยวะสำคัญหลาระบบของร่างกายเช่นตาไตเท้าและหลอดเลือดในประเทศไทยนั้นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงใน แต่ละปีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมากเนื่องจากโรคเรื้อรังเป็นโรคที่จำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและยาวนานมีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสูงมากการดูแลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังนั้นไม่ได้ จำกัด อยู่เฉพาะโดยแพทย์เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยและการตรวจป้องกันภาวะแทรกซ้อนนอกจากนี้ยังควรมีการติดตามเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านเพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาของการดูแลตนเองและร่วมหารือและแนะนำการแก้ไขปัญหาสุขภาพกับผู้ป่วยแต่ละรายซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยที่มารับบริการดูแลรักษาโรคเรื้อรังดังกล่าวมีเป็นจำนวนมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกเขตพื้นที่จากการเปลี่ยนแปลงตามภาวะกระแสโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมืองเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้พฤติกรรมการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปเช่นพฤติกรรมการบริโภคมักนิยมบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงโปรตีนสูงกากใยน้อยขาดการออกกำลังกายมีความเครียดสูงส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเช่นโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขเป็นกลุ่มโรคที่มีปัจจัยสาเหตุการนำสู่โรคจากปัจจัยเสี่ยงร่วมและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรซึ่งโรคนี้เป็นภัยเงียบที่รักษาไม่หายและยังทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมายเช่นโรคหัวใจโรคหลอดเลือดสมองสำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวมักเกิดจากกรรมพันธุ์และพฤติกรรม” เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ผู้ป่วยและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับความรู้เรื่องโรครวมไปถึงความรู้เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้องพร้อมทั้งได้รับการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมต่างๆซึ่งถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ระยะต้นก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นคนปกติโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนดังนั้นคลินิกหมอครอบครัวหนองกะจะได้ตระหนักถึงภาวะสุขภาพของประชาชนในกลุ่มดังกล่าวและได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมป้องกันและควบคุมโรคโดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนในผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพื่อสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ที่ดีขึ้นจึงได้จัดทำโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ทักษะในการจัดการตนเองและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพลดการเกิดโรคเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถปฏิบัติตนในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างปกติสุข ผู้ป่วยเบาหวานผู้ป่วยความดันโลหิตสูงผู้ป่วยโรคไตมีความรู้ความเข้าใจและเกิดความตระหนักในเรื่องโภชนาการอาหารและการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคร้อยละ 100 |
60.00 | 100.00 |
2 | 2. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคุมน้ำตาลนเลือดของผู้ป่วย ผู้ป่วยโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงสามารถคุมระดับน้ำตาลได้อยู่ในเกณฑ์ปกติร้อยละ 80 |
50.00 | 80.00 |
3 | 3. เพื่อมีการแลกเปลี่ยนความรู้แก่เครือข่ายเพื่อนช่วนเพื่อนในการไปช่วยดูแลกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานความดันโลหิตสูง
|
60.00 | 90.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
1 ม.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | อบรมให้ความรู้ | 130 | 38,500.00 | - | ||
1 ม.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | ติดตามกลุ่มที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ | 40 | 9,200.00 | - | ||
1 ม.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | เพื่อนช่วยเพื่อนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน | 40 | 9,200.00 | - | ||
รวม | 210 | 56,900.00 | 0 | 0.00 |
กิจกรรมที่ 1 อบรมให้ความรู้
1.1 อบรมให้ความรู้รายกลุ่มเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงและการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย
1.2 ให้ความรู้ในผู้ป่วยที่มีค่าระดับการทำงานของไตลดลง GFR น้อยกว่า ๖๐
1.3 ค้นหาผู้ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือความดันโลหิตสูงได้อย่างต่อเนื่องโดยมีค่าสูงเกินเกณฑ์ติดต่อกันอย่างน้อยตครั้งเพื่อเข้ากลุ่มติดตามการปรับพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดหรือควบคุมให้ระดับเบาหวานและความดันโลหิตสูงอยู่ในเกณฑ์ปกติ
กิจกรรมที่ 2
2.1 ติดตามกลุ่มที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้
2.2 ให้ความรู้ในรายบุคคลที่ไม่สามารถ Uncontrol ระดับน้ำตาลได้
2.3 จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
2.4 จับคู่บัดดี้เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันเป็นที่ปรึกษาให้แก่กัน
2.5 นัด F / U ติดตามผล DTX ต่อเนื่องทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลา 1 เดือนเพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องและวางแผนดำเนินการช่วยเหลือแก้ไข
กิจกรรมที่ 3
3.1 ติดตามกลุ่มที่ไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตสูงและมีค่าระดับความดันสูงต่อเนื่อง
3.2 กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
3.3 นัด F / U ติดตาม BP ต่อเนื่องทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลา 1 เดือนเพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ค่าระดับความดันโลหิตสูงต่อเนื่องและวางแผนดำเนินการช่วยเหลือแก้ไข
- ผู้ป่วยเบาหวานผู้ป่วยความดันโลหิตสูงผู้ป่วยโรคไตมีความรู้ความเข้าใจและเกิดความตระหนักในเรื่องโภชนาการอาหารและการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคร้อยละ 100
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงสามารถคุมระดับน้ำตาลได้อยู่ในเกณฑ์ปกติร้อยละ 80
- เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานความดันโลหิตสูงและโรคไตมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องร้อยละ 100
- มีกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2564 20:23 น.