โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการฝึกสมาธิบำบัด SKT ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการฝึกสมาธิบำบัด SKT ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ |
รหัสโครงการ | L5249-2565-1-014 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ |
วันที่อนุมัติ | 7 กันยายน 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2564 - 25 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 25 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 55,030.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.74,100.241place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease) เป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตัน ซึ่งกรณีที่การตีบตันมีมากกว่าร้อยละ 70 จะส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หากได้รับ การประเมินและรักษาล่าช้าจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้หรือหากมีชีวิตรอดอาจทาให้อยู่ในภาวะพึ่งพา จำเป็นต้องอาศัยผู้ดูแล (สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย, 2557) ซึ่งในประเทศไทยพบว่า ภาวะหัวใจขาดเลือดเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สาคัญ ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 4 ของประชากรในประเทศ รองจากมะเร็ง หลอดเลือดสมองและปอดติดเชื้อ โดยอัตราการตายด้วยภาวะหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึง 2561 เป็น 29.9 32.3 32 และ 39.4 รายต่อประชากรแสนคนตามลาดับ (กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข, 2560) ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ พบว่า มากกว่า ร้อยละ 60 มาจากกลุ่มผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงและไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ และเบาหวาน (World Health Organization, Country Office for Thailand, 2019) และพบในเพศชาย สูงกว่าเพศหญิง 2 – 3 เท่า นอกจากนี้ สาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อื่น ๆ ได้แก่ ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โรคไต การสูบบุหรี่ ความอ้วน และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น (Laothavorn et al., 2010; Tankumpuan et al., 2019) อย่างไรก็ตามโรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถป้องกันได้ โดยการลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ระดับน้าตาลในเลือด ปรับพฤติกรรมการบริโภค ควบคุมน้าหนัก การงดสูบบุหรี่ ออกกาลังกาย ลดความเครียด และพักผ่อนอย่างเพียงพอ (สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย, 2557)
จากการทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์ พบว่าวิธีการลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม เช่น การควบคุมน้ำหนัก การลดบริโภคเกลือหรือไขมัน การออกกำลังกาย หรือการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น ควบคุมภาวะความดันโลหิต ระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดและเลิกสูบบุหรี่ (ภรปภา และทัศนา, 2561; Benjamin et al., 2019) นอกจากนี้ การฝึกสมาธิบำบัด SKT เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้ในปัจจุบัน และพบว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับความดันโลหิตสูง (พงษศักดิ์, 2561) ลดระดับไขมัน และควบคุมระดับน้าตาลในเลือด (ณัฏฐ์ธัญศา, 2563; อรอุมา, สุธินา, และสุขุมาภรณ์, 2560) ดังนั้น งานศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการฝึกสมาธิบำบัด SKT ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ปี 2565 โดยการอบรม ให้ความรู้เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับการฝึกสมาธิบาบัด SKT จะสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
ขั้นที่ ๑ เตรียมการ
๑ จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์
ขั้นที่ ๒ ขั้นดำเนินงานตามโครงการ
๑. ประชุมทีมคณะกรรมการดำเนินงานตามโครงการ
๒. พัฒนาชุดโปรแกรม ให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร่วมกับชุดโปรแกรมการฝึกสมาธิบำบัด SKT ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
๓. ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ทุก 3 เดือน จำนวน 2 ครั้ง ดังต่อไปนี้
- ประเมินภาวะสุขภาพ/คัดกรองความเสี่ยงทางสุขภาพ ก่อนเข้าร่วมโครงการและอบรม ได้แก่ ตรวจค่าความดันโลหิต ค่าระดับน้ำตาลในเลือด ค่า Total cholesterol ค่า LDL และค่า HDL
- อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
- เชิงปฏิบัติการการฝึกสมาธิบำบัด SKT ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่
- ให้กลุ่มเป้าหมายปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการฝึกปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งเป็นเวลา 6 เดือน
- ติดตามความดันโลหิตและน้ำหนักกลุ่มเป้าหมายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ผ่านทาง Application/Line
๔. ติดตาม กำกับ ค้นหาปัญหาหรืออุปสรรค และร่วมแก้ไขปัญหา รวมทั้งให้แรงเสริมต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการฝึกปฏิบัติสมาธิบำบัด SKT อย่างต่อเนื่อง ทุก 3 เดือน
5. ประเมินภาวะสุขภาพ หลังเข้าร่วมโครงการ
6. ประเมินผลลัพธ์ตามตัวชี้วัดที่กำหนด และสรุปผลการดำเนินงาน
ขั้นที่ ๓ สรุปวิเคราะห์และประเมินผล
๑. สรุปผลและประเมินผลการดำเนินงาน
อัตราการเกิดโรคเรื้อรัง ได้แก่ หลอดเลือดหัวใจลดลง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ลดลง
อัตราการการเข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยสาเหตุจากโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดลดลง
มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2564 09:46 น.