กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


โครงการ
“ โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา ”
จังหวัดสตูล



หัวหน้าโครงการ
นายสิรวุฒิ ยุนุ้ย




ชื่อโครงการ โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา

ที่อยู่ จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 2565-L8010-2-01 เลขที่ข้อตกลง 08/2565

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2565

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา " ดำเนินการในพื้นที่ จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 2565-L8010-2-01 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มกราคม 2565 - 30 กันยายน 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 136,150.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 และตามมิติคณะรัฐมนตรีได้ขยาย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปถึง 30 กันยายน 2564 และในปี 2564 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแผ่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 11/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ พ.ศ.2548 ประกาศระบุว่า ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ความคุมสูงสุดและเข้มงวดถึง 29 จังหวัด เนื่องจากมีการติดเชื้อแบบกลุ่มใหม่ๆในการระบาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระบบสาธารณสุขที่ให้บริการรักษาเข้าสู่ภาวะวิกฤตในการให้การดูแลผู้ป่วย ทั้งขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็นบุคลากรและสถานที่ที่ให้การรักษามีอัตราครองเตียงสูงมากยิ่งขึ้น มีผลกระทบขยายวงกว้างไปยังทุกจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งจังหวัดสตูลอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดด้วย อีกทั้งยังมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเพื่อเป็นการร่วมมือหยุดการแพร่ระบาด เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาเชิงรุกและการป้องกันไม่ให้เกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งมาจากการปฏิบัติตนไม่ถูกต้องของบุคคลทั่วไปและผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ โดยมีภาวะโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูงใน 7 กลุ่มโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง และโรคทางเดินหายใจ กลุ่มผู้สูงอายุเด็ก และหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดเสี่ยงสูง หรือผู้สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ตามนิยามผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องกำหนดมาตรการควบคุมป้องกัน ตามหลัก New Normal และ DMHTT อย่างเข้มงวดเพียงพอต่อการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ในการนี้ มีนโยบายให้โรงเรียนเปิดเรียนแบบ on-site โดยต้องทำเป็นพื้นที่ปลอดโควิด หรือ Covid free setting มีกิจกรรมให้ครู และนักเรียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วน มีการสุ่มตรวจนักเรียนที่มาเรียน on site ด้วยชุด ATK เพื่อเป็นการดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (Covid-19) ให้ทันต่อสถานการณ์เปิดเรียนแบบ on-site โรงเรียนกำแพงวิทยา มีนักเรียนจำนวน 1,750 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 112 คน พบนักเรียนติดเชื้อจำนวน 73 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.17 จำเป็นจะต้องมีการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองนักเรียนอย่างต่อเนื่อง จงได้จัดทำโครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา ขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อเพิ่มความครอบคลุมในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียน

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. การเฝ้าระวัง คัดกรอง ผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัส เกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019
  2. การส่งตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา
  3. การกักกันตัวผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ
  4. การกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา
  5. การประเมินผลโครงการและรายงานผล

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 1,750
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ครู/บุคลากรทางการศึกษา 112

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

นักเรียนและครูได้รับการเฝ้าระวัง คัดกรองเบื้องต้นด้วย ATK ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ได้รับความรู้ด้านระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อไม่ให้เป็นพาหะนําโรคระบาดในโรงเรียน


ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. การเฝ้าระวัง คัดกรอง ผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัส เกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019

วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

1.1 กิจกรรมสร้างแกนนำนักเรียนผู้พิทักษ์อนามัยในห้องเรียน
  1 คัดเลือกแกนนำนักเรียนผู้พิทักษ์อนามัย ห้องเรียนละ 2 คน
  2 แกนนำนักเรียนผู้พิทักษ์อนามัยเป็นผู้ประสานและรายงานผลการเฝ้าระวังให้ครูประจำชั้นทราบ
1.2 กิจกรรมให้ความรู้ผู้คัดกรองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยการจัดอบรมให้ครูฝึกใช้ชุดตรวจ ATK (ประสานบุคลากรสาธารณสุขมาให้ความรู้ เทอมละ 1 ครั้ง) (ไม่ขอใช้งบประมาณ)
1.3 กิจกรรมคัดกรอง ผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัส เป้าหมายนักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 1,862 คน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

1.1 กิจกรรมสร้างแกนนำนักเรียนผู้พิทักษ์อนามัยในห้องเรียน โดยดำเนินการคักเลือกแกนนำนักเรียนห้องเรียนละ 2 คน ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าระวังและประสานงานกรณีพบกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคไวรัสโคโรน่า 2019 แล้วรายงานผลการเฝ้าระวังให้ครูประจำชั้นทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
1.2 กิจกรรมให้ความรู้ผู้คัดกรองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการตรวจคัดกรองนักเรียน/บุคลากรทางการศึกษา ได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโรงพยาบาลละงูมาให้ความรู้พร้อมทั้งคำแนะนำ แนวทางการปฏิบัติตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 และขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรคไวรัสโคโรน่า 2019
1.3 กิจกรรมคัดกรองผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 โรงเรียนกำแพงวิทยามีนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 2,021 คน ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ด้วยชุด ATK จากการเฝ้าระวังและการตรวจคัดกรองผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 จากการรายงานการเฝ้าระวังของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 1,115 คน โดยจากการคัดกรองไม่พบนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

 

0 0

2. การส่งตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา

วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

1 กิจกรรมรับ-ส่งผู้ติดเชื้อเข้าไปตรวจยืนยัน แบบ RT-PCR จากสถานพยาบาล (ไม่ขอใช้งบประมาณ ประสานรถรับ-ส่ง จาก อบต.กำแพง) 2 กิจกรรมรับ-ส่งผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาล (ไม่ขอใช้งบประมาณ ประสานรถรับ-ส่ง จาก อบต.กำแพง)

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

เนื่องจากโรงเรียนกำแพงวิทยไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019  จึงไม่ได้ดำเนินกิจกรรมดังกล่าว

 

0 0

3. การกักกันตัวผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ

วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

1 กรณีผู้สัมผัสมีจำนวนไม่เกิน 10 ราย เข้ารับการกักกันตัวใน Local Quarantine ของท้องถิ่น
(ไม่ขอใช้งบประมาณในโครงการ ใช้งบ อบต.กำแพง) 2 กรณีผู้สัมผัสมีจำนวนมากกว่า 10 รายให้จัดทำ Local Quarantine ในโรงเรียน (ไม่ขอใช้งบประมาณในโครงการ ใช้งบ อบต.กำแพง)

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

เนื่องจากโรงเรียนกำแพงวิทยาไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จึงไม่ได้ดำเนินกิจกรรมดังกล่าว

 

0 0

4. การกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา

วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

1 กิจกรรมประชุมคณะกรรมการโรงเรียน (ไม่ขอใช้งบประมาณในโรงเรียน) 2 กิจกรรมประชุมผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง (ไม่ขอใช้งบประมาณในโรงเรียน)

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ได้ดำเนินการประชุมคณะกรรมการโรงเรียนและประชุมผู้ปกครองและได้ร่วมกันเสนอให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ที่แพร่ระยาดในปัจจุบัน  พร้อมทั้งกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา ดังนี้
1. ให้นักเรียน ครู บุคลากร และผู้เข้ามาติดต่อในสถานศึกษาต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย 100% ตลอดเวลาที่อยู่ในสถานศึกษา
2. ให้ลดการทำกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก หรือ พื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรค
3. ให้นักเรียน ครู และบุคลากร รับผิดชอบดูแลตนเอง มีวินัย ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และไม่ปิดบังข้อมูลกรณีสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยง
4. ให้นักเรียน ครู บุคลากร กินอาหารด้วยการใช้ช้อนส่วนตัวทุกครั้ง และงดกินอาหารร่วมกัน
5. ให้นักเรียนกินอาหารปรุงสุกใหม่ร้อน ถูกหลักสุขาภิบาลและหลักโภชนาการ
6. ให้นักเรียน ครู บุคลากรที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
7. ให้นักเรียน ครู บุคลากร รู้จักและหมั่นสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคโควิด-19 เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ คอแห้ง อ่อนเพลีย หายใจลำบาก หายใจเร็ว เจ็บแน่นหน้าอก เสียการดมกลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง มีผื่น ท้องเสีย เป็นต้น หากมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที
8. ให้นักเรียน ครู และบุคลากร ประเมินความเสี่ยงของตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) อย่างต่อเนื่อง
9. โรงเรียนมีมาตรการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit (ATK)
10. สนับสนุนให้ครู บุคลากร และฝ่ายสนับสนุน (Support Staff) เข้าถึงการฉีดวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85
11. ให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี กลุ่มเสี่ยงที่มีน้ำหนักมาก มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค หรือกลุ่มเป้าหมาย เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
12. มีมาตรการคัดกรองวัดอุณหภูมิ ตรวจ ATK เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน และจัดสภาพแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ และมีตารางเวรทำความสะอาดทุกวัน
13. มีมาตรการวัดอุณหภูมิ ตรวจ ATK ทำความสะอาดสถานที่และจัดสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับบทบัญญัติการปฏิบัติด้านศาสนกิจ และมีตารางเวรทำความสะอาดทุกวัน
14. ให้นักเรียน ครู และบุคลากรปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล 6 มาตรการหลัก ( DMHTRC ) 5 มาตรการเสริม ( SSET-CQ ) และ 7 มาตรการเข้มงวด
15. มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองความเสี่ยงและสร้างภูมคุ้มกันด้วย ( TSC Plus,Thai Save Thai, ATK ,Vaccine)
16. ควบคุมดูแลการเดินทางไป-กลับ ของนักเรียนให้มีความปลอดภัย ( Seal Route )
17. มีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา สอดคล้องตามบริบทพื้นที่และมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน ครู บุคลากร และผู้ปกครอง รับทราบอย่างทั่วถึง

 

0 0

5. การประเมินผลโครงการและรายงานผล

วันที่ 1 กันยายน 2565 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

จัดทำรูปเล่มรายงานผล

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

รายงานผลการดำเนินกิจกรรมและรายงานการจัดซื้อ/จัดจ้าง แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพ

 

0 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

กิจกรรมที่ 1 การเฝ้าระวังคัดกรองผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019
1.1 กิจกรรมสร้างแกนนำนักเรียนผู้พิทักษ์อนามัยในห้องเรียน โดยดำเนินการคักเลือกแกนนำนักเรียนห้องเรียนละ 2 คน ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าระวังและประสานงานกรณีพบกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคไวรัสโคโรน่า 2019 แล้วรายงานผลการเฝ้าระวังให้ครูประจำชั้นทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
1.2 กิจกรรมให้ความรู้ผู้คัดกรองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการตรวจคัดกรองนักเรียน/บุคลากรทางการศึกษา ได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโรงพยาบาลละงูมาให้ความรู้พร้อมทั้งคำแนะนำ แนวทางการปฏิบัติตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 และขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรคไวรัสโคโรน่า 2019
1.3 กิจกรรมคัดกรองผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 โรงเรียนกำแพงวิทยามีนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 2,021 คน ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ด้วยชุด ATK จากการเฝ้าระวังและการตรวจคัดกรองผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 จากการรายงานการเฝ้าระวังของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 1,115 คน โดยจากการคัดกรองไม่พบนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
กิจกรรมที่ 2 การส่งตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา
เนื่องจากโรงเรียนกำแพงวิทยไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จึงไม่ได้ดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
กิจกรรมที่ 3 การกักกันตัวผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัสเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019
เนื่องจากโรงเรียนกำแพงวิทยาไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จึงไม่ได้ดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
กิจกรรมที่ 4 การกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา
ได้ดำเนินการประชุมคณะกรรมการโรงเรียนและประชุมผู้ปกครองและได้ร่วมกันเสนอให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ที่แพร่ระยาดในปัจจุบัน พร้อมทั้งกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา ดังนี้
1. ให้นักเรียน ครู บุคลากร และผู้เข้ามาติดต่อในสถานศึกษาต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย 100% ตลอดเวลาที่อยู่ในสถานศึกษา
2. ให้ลดการทำกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก หรือ พื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรค
3. ให้นักเรียน ครู และบุคลากร รับผิดชอบดูแลตนเอง มีวินัย ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และไม่ปิดบังข้อมูลกรณีสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยง
4. ให้นักเรียน ครู บุคลากร กินอาหารด้วยการใช้ช้อนส่วนตัวทุกครั้ง และงดกินอาหารร่วมกัน
5. ให้นักเรียนกินอาหารปรุงสุกใหม่ร้อน ถูกหลักสุขาภิบาลและหลักโภชนาการ
6. ให้นักเรียน ครู บุคลากรที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
7. ให้นักเรียน ครู บุคลากร รู้จักและหมั่นสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคโควิด-19 เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ คอแห้ง อ่อนเพลีย หายใจลำบาก หายใจเร็ว เจ็บแน่นหน้าอก เสียการดมกลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง มีผื่น ท้องเสีย เป็นต้น หากมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที
8. ให้นักเรียน ครู และบุคลากร ประเมินความเสี่ยงของตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) อย่างต่อเนื่อง
9. โรงเรียนมีมาตรการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit (ATK)
10. สนับสนุนให้ครู บุคลากร และฝ่ายสนับสนุน (Support Staff) เข้าถึงการฉีดวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85
11. ให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี กลุ่มเสี่ยงที่มีน้ำหนักมาก มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค หรือกลุ่มเป้าหมาย เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
12. มีมาตรการคัดกรองวัดอุณหภูมิ ตรวจ ATK เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน และจัดสภาพแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ และมีตารางเวรทำความสะอาดทุกวัน
13. มีมาตรการวัดอุณหภูมิ ตรวจ ATK ทำความสะอาดสถานที่และจัดสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับบทบัญญัติการปฏิบัติด้านศาสนกิจ และมีตารางเวรทำความสะอาดทุกวัน
14. ให้นักเรียน ครู และบุคลากรปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล 6 มาตรการหลัก ( DMHTRC ) 5 มาตรการเสริม ( SSET-CQ ) และ 7 มาตรการเข้มงวด
15. มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองความเสี่ยงและสร้างภูมคุ้มกันด้วย ( TSC Plus,Thai Save Thai, ATK ,Vaccine)
16. ควบคุมดูแลการเดินทางไป-กลับ ของนักเรียนให้มีความปลอดภัย ( Seal Route )
17. มีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา สอดคล้องตามบริบทพื้นที่และมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน ครู บุคลากร และผู้ปกครอง รับทราบอย่างทั่วถึง
กิจกรรมที่ 5 การประเมินผลโครงการและรายงานผล
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมและรายงานการจัดซื้อ/จัดจ้าง แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพ

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อเพิ่มความครอบคลุมในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียน
ตัวชี้วัด : ร้อยละความครอบคลุมในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียน
42.96 100.00

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 1862
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน 1,750
กลุ่มวัยทำงาน 0
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -
ครู/บุคลากรทางการศึกษา 112

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเพิ่มความครอบคลุมในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียน

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) การเฝ้าระวัง คัดกรอง ผู้เสี่ยง/ผู้สัมผัส เกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (2) การส่งตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา (3) การกักกันตัวผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ (4) การกำหนดมาตรการการบังคับใช้ในสถานศึกษา (5) การประเมินผลโครงการและรายงานผล

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


โครงการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โรงเรียนกำแพงวิทยา จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 2565-L8010-2-01

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( นายสิรวุฒิ ยุนุ้ย )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด