โครงการชาวหนองแรตร่วมใจรงณรงค์คัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ปี 2565
ชื่อโครงการ | โครงการชาวหนองแรตร่วมใจรงณรงค์คัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ปี 2565 |
รหัสโครงการ | 65-L3050-01-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรต |
วันที่อนุมัติ | 19 กรกฎาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2564 - 30 ธันวาคม 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ธันวาคม 2565 |
งบประมาณ | 62,825.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายกอดะ เจาะมะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 1082 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 30.00 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 40.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
กลุ่มโรค NCDs (Noncommunicable diseases หรือโรคไม่ติดต่อ) ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลกทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม โดยประเทศไทย มีอัตราการเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อต่ำสุดเมื่อเทียบในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก (SEARO) จากข้อมูลปีพ.ศ.2559
โรคไม่ติดต่อยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประชาชนไทยทั้งในแง่ภาระโรคและอัตราการเสียชีวิตอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (30-69 ปี) จากโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ ประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคเบาหวาน,ภาวะความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 ถึงปีพ.ศ. 2559 หลังจากนั้นมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยและคงที่ในปีพ.ศ. 2561 โดยโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงที่สุดเท่ากับ 44.3 รายต่อประชากรแสนคน และอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้ชายสูงกว่าเพศหญิง
จากการดำเนินงานโรคคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแรต ในกลุ่ม 35 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ป่วยโรคทั้งสองโรค ใน 3 ปี ย้อนหลังตั้งแต่ปีพ.ศ.2562- ปีพ.ศ.2564 พบว่าในปีงบประมาณ 2562 จำนวนประชากร 3,465 ราย พบจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ 10 รายคิดเป็น 288.60 และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ 25 รายคิดเป็น 721.50 ต่ออัตราป่วยรายใหม่ต่อแสนประชากร ในปีงบประมาณ 2563 จำนวนประชากร 3,546 ราย พบจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ 2 รายคิดเป็น 56.40 และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ 18 รายคิดเป็น 507.61 ต่ออัตราป่วยรายใหม่ต่อแสนประชากร
ในปีงบประมาณ 2564 จำนวนประชากร 3,620 ราย พบจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ 3 รายคิดเป็น 82.87 และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ 27 รายคิดเป็น 745.86
ต่ออัตราป่วยรายใหม่ต่อแสนประชากร จากสถานการณ์ข้างต้น จึงเห็นได้ว่า แนวโน้มของประชากรที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และสงสัยป่วยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นตำบลหนองแรต อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี มีจำนวนประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ทั้งหมด1,082 คน ดังนั้น ชมรมสร้างเสริมสุขภาพตำบลหนองแรตร่วมกับอาสาสมัครประจำหมู่บ้านตำบลหนองแรต อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานีจึงต้องดำเนินงานเน้นนโยบายเชิงรุกป้องกัน ลดโรคโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง จึงได้จัดทำโครงการชาวหนองแรตร่วมใจรงณรงค์คัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ปี 2565
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อให้ประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิต 1.ร้อยละประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิต |
82.00 | 90.00 |
2 | 2.ประชากรกลุ่มเสี่ยงของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงได้รับการติดตามตรวจซ้ำ 2.ร้อยละประชากรกลุ่มเสี่ยงของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงได้รับการติดตามตรวจซ้ำ |
56.40 | 90.00 |
3 | 3 ประชากรกลุ่มที่สงสัยป่วยรายใหม่ของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการส่งต่อเพื่อรับรับวินิจฉัยจากแพทย์ 3 ร้อยละประชากรกลุ่มที่สงสัยป่วยรายใหม่ของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการส่งต่อเพื่อรับรับวินิจฉัยจากแพทย์ |
50.00 | 90.00 |
4 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ลดลง |
30.00 | |
5 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ลดลง |
40.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 1252 | 62,825.00 | 4 | 62,825.00 | |
3 ม.ค. 65 - 31 มี.ค. 65 | 3.จัดประชุมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยให้ความรู้เรื่อง การดูแลสุขภาพและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. | 60 | 6,120.00 | ✔ | 6,120.00 | |
1 เม.ย. 65 - 30 ก.ย. 65 | 4. ติดตามกลุ่มเสี่ยงหลังจากเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการโดยอาสาสมัครประจำหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ประจำโรงพาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นจำนวน 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดรอบเอวและประเ | 60 | 4,500.00 | ✔ | 4,500.00 | |
1 - 31 ต.ค. 65 | 1จัดประชุมชี้แจงโครงการโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรพ.สต. แก่อาสาสมัครชุมชน แจ้งรายชื่อกลุ่มเป้าหมายพร้อมจัดทำแผนการออกปฏิบัติงานเชิงรุกในการดำเนินการตรวจคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตในเขตรับผิดชอบ | 50 | 1,250.00 | ✔ | 1,250.00 | |
1 ต.ค. 65 - 30 ธ.ค. 65 | 2.ดำเนินงานตรวจคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิต จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด.....1,082.........คน | 1,082 | 50,955.00 | ✔ | 50,955.00 |
7.1 ประชากร 35 ปีขึ้นไปในตำบลหนองแรตได้รับการคัดกรองเฝ้าระวังและการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 7.2 ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ มีความรู้ มีทัศคติ และมีพฤติกรรมที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 7.3 ประชากรกลุ่มสงสัยป่วยรายใหม่ได้รับการส่งต่อ เพื่อการรักษาตามแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน และคความดันโลหิตสูง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 10:16 น.