กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการเคาะประตูชวนแม่น้องหนูไปฝากครรภ์ปีที่ ๒ (ปี 2561)
รหัสโครงการ
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลปัตตานี
วันที่อนุมัติ 10 พฤศจิกายน 2560
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ธันวาคม 2560 - 18 กันยายน 2561
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 270,230.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางนงนุช ช่อพันธ์กุล
พี่เลี้ยงโครงการ นางกัลยาเอี่ยวสกุล
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลสะบารังและอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานอนามัยแม่และเด็ก
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 605 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด :

สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] 100 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

การอนามัยแม่และเด็ก เป็นรากฐานของการพัฒนางานสาธารณสุขของประเทศและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะมารดาซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดบุตรการที่จะให้เด็กเกิดมามีชีวิตรอดปลอดภัย มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นพลเมืองดีและเยาวชนที่ดีของชาติย่อมขึ้นอยู่กับมารดาที่ต้องวางรากฐานให้เด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์และเป็นแม่ที่ดีมีคุณภาพ จากการดำเนินงานอนามัยแม่และเด็กในตำบลสะบารังและอาเนาะรู จังหวัดปัตตานีวิเคราะห์ข้อมูลความครอบคลุมของการอนามัยแม่และเด็กในปีที่ผ่านมา255๘๒๕๕๙และ๒๕๖๐ พบว่าฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ร้อยละ ๖๓.96 ๖4.96 และ๗๓.๓๕ ได้รับการดูแลก่อนคลอด 5 ครั้งตามเกณฑ์ร้อยละ๕8.1060.49 และ๖๓.๖๕ ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อยกว่า2,500 กรัม ร้อยละ 9.198.15และ 5.๐๕ ตั้งครรภ์วัยรุ่น (อายุ15-19 ปี) ร้อยละ7.808.64 และ6.20 ภาวะซีดหลังคลอดร้อยละ 9.869.24 และ 5.84 วิเคราะห์ข้อมูลในปี2560 จากหญิงหลังคลอดในเขตรับผิดชอบ272 รายเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นภาวะครรภ์เป็นพิษร้อยละ3.57เบาหวานขณะตั้งครรภ์ร้อยละ 2.17 ตกเลือดหลังคลอดร้อยละ 0.36ไทรอยด์ร้อยละ0.72 คลอดก่อนกำหนดร้อยละ 2.89 ภาวะขาดออกซิเจนของทารกแรกเกิดร้อยละ 1.44 ทำให้งานอนามัยแม่และเด็กยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ซึงปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเกิดกับมารดาที่มาฝากครรภ์ล่าช้าทำให้ไม่ทราบการปฏิบัติตัวที่สามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ ทั้งนี้เนื่องจากมารดามีพฤติกรรมแบบเดิมๆและอายที่จะมาฝากครรภ์ไม่ตระหนกและเห็นความสำคัญ โดยเฉพาะในมารดาที่เป็นวัยรุ่นประกอบกับมารดาขาดความรู้ความเข้าใจ และขาดประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ทันเวลาการดูแลตนเองในระยะตั้งครรภ์ และหลังคลอดรวมถึงการเลี้ยงดูทารกที่มีคุณภาพจึงจำเป็นต้องเร่งรัดพัฒนากลยุทธการอนามัยแม่และเด็ก เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดที่ปลอดภัย

กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลปัตตานีได้จัดทำโครงการเคาะประตูชวนแม่น้องหนูไปฝากครรภ์ ในปี 2560 ทำให้มีการพัฒนางานแม่และเด็กมีผลงานที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนทำให้มีการคลอดที่ปลอดภัยแต่ยังมีหญิงตั้งครรภ์/หญิงหลังคลอดจำนวนไม่น้อยที่ต้องได้รับกระตุ้นและให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวการดูแลตัวเองระหว่างการตั้งครรภ์และหลังคลอดเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆอันจะส่งผลให้เด็กที่คลอดออกมามีคุณภาพจึงได้จัดทำโครงการเคาะประตูชวนแม่น้องหนูไปฝากครรภ์ปีที่ 2 ประจำปีงบประมาณ ปี๒๕๖๑เพื่อนำไปสู่การพัฒนางานอนามัยแม่และเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 1.เพื่อให้มีการค้นหาหญิงตั้งครรภ์ในชุมชนกระตุ้นให้มาฝากครรภ์ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างถูกต้องลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดเช่นภาวะพิษแห่งครรภ์ในระหว่างการตั้งครรภ์ ลดอัตราตายของมารดาและทารก

หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์มากกว่าร้อยละ ๗๐

0.00
2 2.เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ให้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องและให้ความสำคัญต่อการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ , ฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง คลอดที่โรงพยาบาล และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน

หญิงตั้งครรภ์ ฝากครรภ์ครบ5ครั้งตามเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 60

0.00
3 3.เพื่อลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น(อายุ15-19 ปี)

อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น(อายุ15-19 ปี)< 50/พันคน

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 0 220,560.00 0 0.00
จัดประชุม คืนข้อมูลงานนามัยแม่และเด็ก วิเคราะห์และร่วมกันวางแผนพัฒนา 0 5,200.00 -
1 ธ.ค. 60 - 14 ก.ย. 61 จัดทำเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน ฟื้นฟูความรู้ในเรื่องการอนามัยแม่และเด็ก แก่ แกนนำชุมชน 0 5,200.00 -
1 ธ.ค. 60 - 14 ก.ย. 61 สำรวจ ค้นหาหญิงวัยเจริญพันธ์(15-44 ปี) คู่สมรสใหม่และหญิงตั้งครรภ์สร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2 ครั้ง/ปี ไตรมาสที่1และ3 นำเสนอผลงานการอนามัยแม่และเด็ก และทำ work shopตรวจการตั้งครรภ์ในชุมชน 0 64,510.00 -
1 ธ.ค. 60 - 14 ก.ย. 61 จัดทีมเยี่ยมบ้านให้ความรู้หญิงตั้งครรภ์ซีดและหลังคลอดถึงการปฏิบัติตัวและการเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ 0 92,850.00 -
27 เม.ย. 61 4 :รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เคาะประตู แจกใบปลิว การฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และฝากครรภ์ครบ 5 ครั้งตามเกณฑ์ทุก ๓ เดือนบริการตรวจการตั้งครรภ์โดยใช้ urine preg test และนำส่งหญิงตั้งครรภ์ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ 0 45,000.00 -
27 เม.ย. 61 จัดประกวดชุมชนนำส่งหญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ดีเด่น พิจารณาตามเกณฑ์ 0 0.00 -
27 เม.ย. 61 ประเมินผลงานอนามัยแม่และเด็กตามตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข และจัดทำข้อเสนอแนะ สำหรับ การวางแผนงานและพัฒนางานอนามัยแม่และเด็กต่อไป 0 7,800.00 -

วิธีดำเนินการ กลวิธี่ที่ 1.จัดประชุมทีมคณะทำงานประกอบด้วยผู้รับผิดชอบงานบุคลากรทางสาธารณสุขพี่เลี้ยงทุกชุมชน ประธานอสม.ทุกชุมชนคืนข้อมูลงานอนามัยแม่และเด็ก วิเคราะห์และร่วมกันวางแผนพัฒนา กิจกรรม : จัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง คืนข้อมูลงานอนามัยแม่และเด็ก วิเคราะห์และร่วมกันวางแผนพัฒนา กลวิธี่ที่ 2. จัดทำเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน ฟื้นฟูความรู้ในเรื่องการอนามัยแม่และเด็ก แก่ แกนนำชุมชน กิจกรรม : ฟื้นฟูความรู้ /จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่ แกนนำ(อสม. / อาสาสมัคร / ผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนา)และสมาชิกชมรมนมแม่ ในเรื่อง: - ความหมายสาเหตุอาการของการตั้งครรภ์ -ประโยชน์และความสำคัญของการมาฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ -วิธีการดูแลหญิงตั้งครรภ์ตามไตรมาสต่างๆ -ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดในระหว่างการตั้งครรภ์และวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยง -การป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่น
-การเตรียมตัวสำหรับการคลอดและประโยชน์ของการคลอดที่โรงพยาบาล -การดูแลตนเองและทารกหลังคลอด -การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ -การคุมกำเนิด -ดูวีดิทัศน์เรื่องการอนามัยแม่และเด็ก กลวิธีที่ ๓. เพิ่มบทบาทขององค์กรชุมชน กิจกรรม :
-มีการสำรวจค้นหา หญิงวัยเจริญพันธ์/คู่สมรสใหม่/หญิงตั้งครรภ์รายใหม่และหญิงหลังคลอดโดยอสม. / อาสาสมัคร / ผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนา ประสานวิทยากรสู่ชุมชนสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ประโยชน์ของการฝากครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์(ก่อนอายุ 12 สัปดาห์) การเตรียมตัวมาฝากครรภ์ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดในระหว่างการตั้งครรภ์และวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยง การปฏิบัติตัวและการดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์/หลังคลอดการดูแลทารก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่(ชมรมนมแม่สายใยรักแห่งครอบครัว) การคุมกำเนิดและการป้องกันการท้องซ้ำในวัยรุ่น -มีการนำเสนอข้อมูลผลงานการอนามัยแม่และเด็กในปีที่ผ่านมา ในเวทีประชาคมของชุมชนโดยอสม. / อาสาสมัคร / ผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนา ในเขตรับผิดชอบของตนเอง มีการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อจัดทำแผนงาน/โครงการ แก้ปัญหาการอนามัยแม่และเด็กในชุมชน
กลวิธีที่ ๔. กำหนดกิจกรรมการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การฝากครรภ์ทันทีที่ทราบว่า ตั้งครรภ์และติดตามเยี่ยมหญิงตั้งครรภ์รวมทั้งสร้างแรงจูงใจในการมาฝากครรภ์ให้ครบตามเกณฑ์ กิจกรรม: -รณรงค์ประชาสัมพันธ์เฝ้าระวังกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธ์และคู่สมรสใหม่ ขอความร่วมมือผู้นำศาสนาในการออกเสียงตามสายสามีที่สงสัยภรรยาตั้งครรภ์ให้มารับอุปกรณ์ตรวจ urine preg test และนำส่งฝากครรภ์ทันทีที่พบหญิงตั้งครรภ์ และติดตามเยี่ยมหญิงตั้งครรภ์ในเขตรับผิดชอบให้มาฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง และคลอดที่โรงพยาบาล โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่าน อสม. / อาสาสมัคร / ผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนาหอกระจายข่าว ป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์ที่ติดไว้ตามสถานที่ต่างๆในชุมชนและลงเยี่ยมบ้านพร้อมเจ้าหน้าที่แจกใบปลิวเชิญชวนฝากครรภ์ก่อน12สัปดาห์พร้อมบริการซักประวัติการฝากครรภ์เพื่อลดระยะเวลารอคอย และสร้างความศรัทธาในการรับบริการ ส่งต่อแผนกฝากครรภ์โรงพยาบาลปัตตานีกลวิธีที่ ๕.จัดทีมเยี่ยมบ้านให้ความรู้หญิงตั้งครรภ์ซีดและหลังคลอดถึงการปฏิบัติตัวและการเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่

กิจกรรม: -จัดทีมที่เกี่ยวข้องเช่นผู้รับผิดชอบงาน ผู้รับผิดชอบชุมชน อสม.และทีมชมรมนมแม่มีการแจ้งกลุ่มเป้าหมาย ประสานงานทีมก่อนการออกเยี่ยมทุกครั้งพร้อมแจกของเยี่ยมภายใต้เงื่อนไขคือ ฝากครรภ์ก่อน ๑๒ สัปดาห์ ฝากครรภ์ครบ ๕ ครั้งตามเกณฑ์ น้ำหนักเด็กต้องไม่น้อยกว่า ๒๕๐๐ กรัม (ยกเว้นแฝดและคลอดก่อนกำหนด) คลอดที่โรงพยาบาล และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ -บริการตรวจภาวะซีด (cuvettes) ที่บ้านและชุมชนในรายซีดและติดตามประเมินทุกเดือนหลังจากได้รับคำแนะนำและการรักษาแล้ว กลวิธีที่ ๖.ประเมินผลการดำเนินโครงการ กิจกรรม: -จัดประกวดชุมชนนำร่องส่งหญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อน 12สัปดาห์ดีเด่น -ประเมินผลงานอนามัยแม่และเด็กตามตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข และจัดทำข้อเสนอแนะ สำหรับการวางแผนงานและพัฒนางานอนามัยแม่และเด็กต่อไป

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 70
    1. หญิงตั้งครรภ์มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพปฏิบัติตัวได้ถูกต้องและให้ความสำคัญต่อการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ , ฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้งมากกว่าร้อยละ 65 ๓.ทารกน.น. < ๒๕๐๐ กรัมน้อยกว่าร้อยละ๗ ๔.มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนมากกว่าร้อยละ ๕๐ ๕.อัตราส่วนการตายของมารดาไม่เกิน20 ต่อเกิดมีชีพแสนคน ๖.อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น(อายุ15-19 ปี)< 50/พันคน
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2560 11:04 น.