โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1)
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) ”
ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
หัวหน้าโครงการ
นายชิต ชูรักษ์
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคูหาใต้
กันยายน 2566
ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1)
ที่อยู่ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ เลขที่ข้อตกลง 5/2566
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคูหาใต้ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1)
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มกราคม 2566 - 30 กันยายน 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 32,232.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคูหาใต้ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศไทย ทำให้ประชากรในวัยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีผลให้ลักษณะครอบครัวไทยเปลี่ยนจากครอบครัวขยายไปสู่ครอบครัวเดี่ยว ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวลดลง จำนวนผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวลดลง มีเวลาให้ผู้สูงอายุลดลง ขาดการให้ความรักและความอบอุ่น ผู้สูงอายุจึงถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว ดำเนินชีวิตเพียงลำพังจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน ทั้งในด้านความคิด ความเข้าใจ และค่านิยมต่างๆ ซึ่งก่อให้ผู้สูงอายุเกิดความน้อยใจ ความเครียด ความคับข้องใจ แยกตัวออกจากสังคม ขาดสัมพันธภาพกับสมาชิกในครอบครัว ท้อแท้และน่าเบื่อหน่ายในชีวิต ประกอบกับวัยสูงอายุเป็นวัยที่ต้องเผชิญกับรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบใหม่ ต้องออกจากงาน มีรายได้ลดลง ภาวะสุขภาพเสื่อมลง มีโรคทางกายเพิ่มมากขึ้น มีสารชีวเคมีและฮอร์โมนลดลง การสูญเสียสิ่งสำคัญของชีวิต เช่น การสูญเสียคู่ชีวิตเพราะตายจาก การสูญเสียบุตรเพราะแยกไปมีครอบครัว คุณค่าในตนเองลดลงจนเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง แยกตัวออกจากสังคม เป็นผลให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
เทศบาลตำบลคูหาใต้ มีประชากรทั้งหมด จำนวน 12,123 คน เป็นผู้สูงอายุ จำนวน 2,785 คน คิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรทั้งหมด จำนวนประชากรผู้สูงอายุเกินร้อยละ 20 ซึ่งถือว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์
ชมรมผู้สูงอายุมะขามหวาน และกองสวัสดิการสังคมเทศบาลตำบลคูหาใต้ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุได้ออกจากบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน ได้พบปะเพื่อนผู้สูงอายุในวัยเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้เรียนรู้ทักษะการมีชีวิต ทักษะการฝึกอาชีพ ทักษะการส่งเสริมสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีคุณค่า และมีศักดิ์ศรี สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในช่องทางที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว มีโอกาสได้เรียนรู้ตามอัธยาศัย ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ส่งผลให้ผู้สูงอายุคงความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ และเพื่อป้องกันผู้สูงอายุติดบ้าน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ผู้สูงอายุติดเตียงได้นั้น จึงได้ทำโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวาน)
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ
- เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ
- เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน
- เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
40
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
2.ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ
3.ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน
4.ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 คัดกรองสุขภาพเบื้องต้น มีดังนี้ วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก และวัดรอบเอว เพื่อประมาณสุขภาพของผู้สูงอายุโรงเรียนมะขามหวาน ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการแนะนำตนเองเพื่อได้รู้จักกันมากขึ้นในการเปิดเรียนครั้งแรก และทำกิจกรรมรำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย เรียนรู้เคล็ดลับสูงวัยทำอย่างไรไม่ให้ร่างกายนำหน้ากว่าอายุจริงของเรา
มีทั้งหมด 10 เคล็ดลับ เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ ดังนี้
- หมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง
- เข้าสังคม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เลิกสูบบุหรี่
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ใส่ใจสุขภาพช่องปาก
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพทางเพศ
วิทยากรโดย นายนิยม รัตนบุรี
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย ง่าย ได้เรียนรู้การออกกำลังกายแบบง่ายๆ การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ มีดังนี้
1. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (แอโรบิค)
2. เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ เป็นการออกกำลังกายฝืนแรงต้าน
3. เหยียดยืดข้อต่อส่วนต่าง ๆ ป้องกันอาการข้อยืดติด
4. ฝึกการทรงตัว
ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการร้อง เล่น เต้น รำ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 2 มีนาคม 2566 ได้เรียนรู้การใช้ยาให้ถูกวิธีและปลอดภัยแม้ยาสามารถใช้รักษาทำให้ผู้ป่วยหายป่วยและร่างกายรู้สึกดีขึ้นได้แต่สิ่งสำคัญคือ ยาทุกชนิดไม่ว่าจะได้มาจากการจ่ายยาของแพทย์ หรือยาที่หาซื้อเองตามร้านขายยาล้วนแล้วแต่มีอันตราย เช่นเดียวกับที่มีคุณประโยชน์
หลักการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย
1) ก่อนใช้ยาทุกครั้งต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจ อ่านให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2) ใช้ยาให้ตรงกับโรค โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ เพราะจะทำให้ไม่เป็นอันตราย
3) ใช้ยาให้ถูกวิธี เช่น ไม่แกะผงยาที่อยู่ในแคปซูลมาโรยแผล ยาชนิดที่ใช้ทาห้ามนำมารับประทาน เป็นต้น
4) ใช้ยาให้ถูกกับบุคคล ควรใช้ยาให้ถูกกับสภาพของบุคคลเพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ยาที่ให้เด็กกินต้องมีปริมาณไม่เท่ากับผู้ใหญ่ ยาบางชนิดไม่ควรให้หญิงมีครรภ์กินเพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้
5) ใช้ยาให้ถูกขนาด ควรใช้ยาตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรกำหนดไว้ เพราะถ้าใช้เกินขนาดอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือถ้าใช้น้อยไปอาจจะทำให้การรักษาโรคไม่ได้ผลดี
6) ใช้ยาให้ถูกเวลา ยาแต่ละชนิดจะกำหนดระยะเวลาที่ใช้ไว้
หลักสำคัญที่สุดเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยก็คือ ไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร และแพทย์ก็จะเป็นผู้สั่งยาที่เหมาะสมสำหรับโรคนั้น ๆ ให้ใช้ต่อไป โดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 8 มีนาคม 2566 ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยการรำไม้พลอง การบริหารร่างกายโดยการรำไม้พลอง เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อลำตัว หลังและต้นขา เป็นส่วนใหญ่ ช่วยป้องกันและลดอาการปวดหลัง ส่งเสริมคุณภาพชีวิต การบริหารร่างกายอย่างต่อเนื่องประมาณ 20-30 นาที มีทั้งหมด 12 ท่า ดังนี้ เขย่าเข่า, เหวี่ยงข้าง, พายเรือ, หมุนกาย/หมุนเอว, ตาชั่ง, ว่ายน้ำวัดวา, กรรเชียงถอยหลัง, ดาวดึงส์, นกบิน, ทศกัณฑ์/โยกตัว, ยกน้ำหนัก/จับไม้ข้ามหัวและนวดตัว โดย นางสาวภาณิกา ฤทธิ์หนู
วันที่ 23 มีนาคม 2566 เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำสมุนไพรหลายชนิดมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้วนำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอแตก ใช้สดหรือทำให้แห้ง นำมาห่อหรือบรรจุรวมกันในผ้าให้ได้รูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงกลม หมอนสำหรับใช้นาบหรือกดประคบส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ถ้าเป็นลูกประคบสมุนไพรแห้งแห้ง ก่อนใช้ต้องนำมาพรมน้ำแล้วทำให้ร้อนโดยนึ่ง
อุปกรณ์การทำลูกประคบสมุนไพร
1. ผ้าสำหรับห่อลูกประคบ ต้องเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่มีเนื้อผ้าแน่นพอที่จะป้องกันไม่ให้สมุนไพรร่วง ออกมาได้
2. สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบต้องหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ สด/แห้ง ต้องไม่มีราปรากฏให้เห็นเด่นชัดและ ต้องมี พืชสมุนไพรหลักที่มีน้ำมันหอมระเหยอย่างน้อย 3 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ และผิวหรือใบมะกรูด/ กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และกลุ่มสารที่มี
กลิ่นหอม จะระเหยออกมาเมื่อถูกความร้อน เช่น การบูร พิมเสน และเกลือ ช่วยดูดความร้อน
3. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบและจานรองลูกประคบ
4. เชือกสำหรับมัดผ้าห่อลูกประคบ
วิธีทำลูกประคบ
1. นำหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทำความสะอาด นำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอ หยาบ ๆ
2. นำใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกับสมุนไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบูร คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อ เดียวกัน แต่อย่าให้แฉะเป็นน้ำ
3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อเป็นลูกประคบมัด ด้วยเชือกให้แน่น
4. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที
วิธีการใช้ลูกประคบสมุนไพร
นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งประมาร 15-20 นาที เมื่อลูกประคบร้อนได้ที่แล้ว ก่อนนำมาใช้ประคบควรมี การทดสอบความร้อนโดยแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือก่อน และในช่วงแรกที่ลูกประคบยังร้อนอยู่ ต้อง ประคบด้วยความเร็ว ไม่วางลูกประคบไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพียงแตะลูกประคบแล้วยกขึ้น แต่เมื่อลูก ประคบคลายความร้อนลงสามารถวางลูกประคบได้นานขึ้นพร้อมกับกดคลึงจนกว่าลูกประคบคลาย ความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนลูกประคบไปใช้ลูกใหม่แทน (ใช้แล้วนำไปนึ่งแทน) โดย นางสาววิภารัตน์ แทนบุญ
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ได้เรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะผู้สูงวัยซึ่งเป็นวัยที่ต้องการพลังงานและสารอาหารแตกต่างจากวัยทำงาน หรือผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติ เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานที่
ลดลงของระบบต่างๆ ดังนั้น จึงต้องมีความเข้าใจเรื่องอาหารและโภชนาการเป็นอย่างดี ซึ่งความต้องการพลังงานและสารอาหารในผู้สูงอายุแต่ละรายก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง และการใช้พลังงานในแต่ละวัน
โภชนบัญญัติ 9 ประการสำหรับผู้สูงอายุ
1. กินอาหารให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
2. กินข้าวเป็นหลัก เน้นข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย
3. กินพืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลให้มากเป็นประจำ
4. กินปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเป็นประจำ
5. ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นประจำ
6. หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด
7. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน
8. กินอาหารสะอาด ปลอดภัย
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
และได้เรียนรู้การทำอาหารเพื่อสุขภาพ การทำสลัดโรล เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานสลัดให้รับประทานง่ายขึ้น โดยที่ยังคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่า จะเป็น ผัก เนื้อปูอัด แผ่นแป้งปอเปี้ยะ น้ำสลัด และอื่น ๆ ทำให้การกินสลัดนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่ ใช้ส้อมจิ้มและตักเข้าปากเท่านั้น ก็อร่อยแล้ว ในส่วนของการเลือกน้ำจิ้ม จะเป็นแบบไหนก็ได้ ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือวาซาบิก็ได้ หรือ ใครที่ไม่ชอบน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มโยเกิร์ตเบาๆ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 20 เมษายน 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย ง่าย ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุโดยการเต้นบาสโลบ สำหรับการเต้น “บาสโลบ" ผู้สูงอายุ วัยรุ่น วัยทำงาน สามารถเต้นได้หมด แต่ถ้าเต้นแอโรบิค ผู้สูงอายุจะเต้นไม่ได้ แข้งขา ไม่อำนวย ก็เลยได้นำเอาการเต้น “บาสโลบ" มาแทนการเต้นแอโรบิค ซึ่งเคยเต้นมาก่อนหน้านี้ โดยผู้สูงอายุ แต่ละคนก็จะมีความมุ่งมั่น มีความกล้าแสดงออก และไม่เหงา อยู่ที่บ้าน ด้วย วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 27 เมษายน 2566 เรียนรู้การส่งเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ ในทางจิตวิทยา วัยสูงอายุเป็นวัยแห่งความเคารพนับถือที่ลูกหลานยกย่องให้เกียรติ เป็นวัยแห่งความสุขที่จะได้เห็นลูกหลานที่เลี้ยงมาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ภาระรับผิดชอบต่าง ๆ ลดลง มีเวลาว่างที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามความชอบหรือความสนใจอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน วัยสูงอายุก็เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่จะเปลี่ยนจากวัยกลางคนเข้าสู่วัยชราอย่างเต็มตัว ทำให้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมายทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุได้ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจ
70.00
70.00
ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจ
2
เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ
80.00
80.00
ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ
3
เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม
90.00
90.00
ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม
4
เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต
100.00
100.00
ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
40
40
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
40
40
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ (2) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ (3) เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน (4) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายชิต ชูรักษ์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) ”
ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
หัวหน้าโครงการ
นายชิต ชูรักษ์
กันยายน 2566
ที่อยู่ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ เลขที่ข้อตกลง 5/2566
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคูหาใต้ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1)
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มกราคม 2566 - 30 กันยายน 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 32,232.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคูหาใต้ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศไทย ทำให้ประชากรในวัยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีผลให้ลักษณะครอบครัวไทยเปลี่ยนจากครอบครัวขยายไปสู่ครอบครัวเดี่ยว ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวลดลง จำนวนผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวลดลง มีเวลาให้ผู้สูงอายุลดลง ขาดการให้ความรักและความอบอุ่น ผู้สูงอายุจึงถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว ดำเนินชีวิตเพียงลำพังจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน ทั้งในด้านความคิด ความเข้าใจ และค่านิยมต่างๆ ซึ่งก่อให้ผู้สูงอายุเกิดความน้อยใจ ความเครียด ความคับข้องใจ แยกตัวออกจากสังคม ขาดสัมพันธภาพกับสมาชิกในครอบครัว ท้อแท้และน่าเบื่อหน่ายในชีวิต ประกอบกับวัยสูงอายุเป็นวัยที่ต้องเผชิญกับรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบใหม่ ต้องออกจากงาน มีรายได้ลดลง ภาวะสุขภาพเสื่อมลง มีโรคทางกายเพิ่มมากขึ้น มีสารชีวเคมีและฮอร์โมนลดลง การสูญเสียสิ่งสำคัญของชีวิต เช่น การสูญเสียคู่ชีวิตเพราะตายจาก การสูญเสียบุตรเพราะแยกไปมีครอบครัว คุณค่าในตนเองลดลงจนเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง แยกตัวออกจากสังคม เป็นผลให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ เทศบาลตำบลคูหาใต้ มีประชากรทั้งหมด จำนวน 12,123 คน เป็นผู้สูงอายุ จำนวน 2,785 คน คิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรทั้งหมด จำนวนประชากรผู้สูงอายุเกินร้อยละ 20 ซึ่งถือว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ ชมรมผู้สูงอายุมะขามหวาน และกองสวัสดิการสังคมเทศบาลตำบลคูหาใต้ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุได้ออกจากบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน ได้พบปะเพื่อนผู้สูงอายุในวัยเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้เรียนรู้ทักษะการมีชีวิต ทักษะการฝึกอาชีพ ทักษะการส่งเสริมสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีคุณค่า และมีศักดิ์ศรี สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในช่องทางที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว มีโอกาสได้เรียนรู้ตามอัธยาศัย ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ส่งผลให้ผู้สูงอายุคงความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ และเพื่อป้องกันผู้สูงอายุติดบ้าน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ผู้สูงอายุติดเตียงได้นั้น จึงได้ทำโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวาน)
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ
- เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ
- เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน
- เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 40 | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ 2.ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ 3.ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน 4.ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 คัดกรองสุขภาพเบื้องต้น มีดังนี้ วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก และวัดรอบเอว เพื่อประมาณสุขภาพของผู้สูงอายุโรงเรียนมะขามหวาน ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการแนะนำตนเองเพื่อได้รู้จักกันมากขึ้นในการเปิดเรียนครั้งแรก และทำกิจกรรมรำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย เรียนรู้เคล็ดลับสูงวัยทำอย่างไรไม่ให้ร่างกายนำหน้ากว่าอายุจริงของเรา
มีทั้งหมด 10 เคล็ดลับ เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ ดังนี้
- หมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง
- เข้าสังคม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เลิกสูบบุหรี่
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ใส่ใจสุขภาพช่องปาก
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพทางเพศ
วิทยากรโดย นายนิยม รัตนบุรี
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย ง่าย ได้เรียนรู้การออกกำลังกายแบบง่ายๆ การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ มีดังนี้
1. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (แอโรบิค)
2. เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ เป็นการออกกำลังกายฝืนแรงต้าน
3. เหยียดยืดข้อต่อส่วนต่าง ๆ ป้องกันอาการข้อยืดติด
4. ฝึกการทรงตัว
ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการร้อง เล่น เต้น รำ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 2 มีนาคม 2566 ได้เรียนรู้การใช้ยาให้ถูกวิธีและปลอดภัยแม้ยาสามารถใช้รักษาทำให้ผู้ป่วยหายป่วยและร่างกายรู้สึกดีขึ้นได้แต่สิ่งสำคัญคือ ยาทุกชนิดไม่ว่าจะได้มาจากการจ่ายยาของแพทย์ หรือยาที่หาซื้อเองตามร้านขายยาล้วนแล้วแต่มีอันตราย เช่นเดียวกับที่มีคุณประโยชน์
หลักการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย
1) ก่อนใช้ยาทุกครั้งต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจ อ่านให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2) ใช้ยาให้ตรงกับโรค โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ เพราะจะทำให้ไม่เป็นอันตราย
3) ใช้ยาให้ถูกวิธี เช่น ไม่แกะผงยาที่อยู่ในแคปซูลมาโรยแผล ยาชนิดที่ใช้ทาห้ามนำมารับประทาน เป็นต้น
4) ใช้ยาให้ถูกกับบุคคล ควรใช้ยาให้ถูกกับสภาพของบุคคลเพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ยาที่ให้เด็กกินต้องมีปริมาณไม่เท่ากับผู้ใหญ่ ยาบางชนิดไม่ควรให้หญิงมีครรภ์กินเพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้
5) ใช้ยาให้ถูกขนาด ควรใช้ยาตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรกำหนดไว้ เพราะถ้าใช้เกินขนาดอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือถ้าใช้น้อยไปอาจจะทำให้การรักษาโรคไม่ได้ผลดี
6) ใช้ยาให้ถูกเวลา ยาแต่ละชนิดจะกำหนดระยะเวลาที่ใช้ไว้
หลักสำคัญที่สุดเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยก็คือ ไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร และแพทย์ก็จะเป็นผู้สั่งยาที่เหมาะสมสำหรับโรคนั้น ๆ ให้ใช้ต่อไป โดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 8 มีนาคม 2566 ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยการรำไม้พลอง การบริหารร่างกายโดยการรำไม้พลอง เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อลำตัว หลังและต้นขา เป็นส่วนใหญ่ ช่วยป้องกันและลดอาการปวดหลัง ส่งเสริมคุณภาพชีวิต การบริหารร่างกายอย่างต่อเนื่องประมาณ 20-30 นาที มีทั้งหมด 12 ท่า ดังนี้ เขย่าเข่า, เหวี่ยงข้าง, พายเรือ, หมุนกาย/หมุนเอว, ตาชั่ง, ว่ายน้ำวัดวา, กรรเชียงถอยหลัง, ดาวดึงส์, นกบิน, ทศกัณฑ์/โยกตัว, ยกน้ำหนัก/จับไม้ข้ามหัวและนวดตัว โดย นางสาวภาณิกา ฤทธิ์หนู
วันที่ 23 มีนาคม 2566 เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำสมุนไพรหลายชนิดมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้วนำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอแตก ใช้สดหรือทำให้แห้ง นำมาห่อหรือบรรจุรวมกันในผ้าให้ได้รูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงกลม หมอนสำหรับใช้นาบหรือกดประคบส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ถ้าเป็นลูกประคบสมุนไพรแห้งแห้ง ก่อนใช้ต้องนำมาพรมน้ำแล้วทำให้ร้อนโดยนึ่ง
อุปกรณ์การทำลูกประคบสมุนไพร
1. ผ้าสำหรับห่อลูกประคบ ต้องเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่มีเนื้อผ้าแน่นพอที่จะป้องกันไม่ให้สมุนไพรร่วง ออกมาได้
2. สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบต้องหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ สด/แห้ง ต้องไม่มีราปรากฏให้เห็นเด่นชัดและ ต้องมี พืชสมุนไพรหลักที่มีน้ำมันหอมระเหยอย่างน้อย 3 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ และผิวหรือใบมะกรูด/ กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และกลุ่มสารที่มี
กลิ่นหอม จะระเหยออกมาเมื่อถูกความร้อน เช่น การบูร พิมเสน และเกลือ ช่วยดูดความร้อน
3. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบและจานรองลูกประคบ
4. เชือกสำหรับมัดผ้าห่อลูกประคบ
วิธีทำลูกประคบ
1. นำหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทำความสะอาด นำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอ หยาบ ๆ
2. นำใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกับสมุนไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบูร คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อ เดียวกัน แต่อย่าให้แฉะเป็นน้ำ
3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อเป็นลูกประคบมัด ด้วยเชือกให้แน่น
4. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที
วิธีการใช้ลูกประคบสมุนไพร
นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งประมาร 15-20 นาที เมื่อลูกประคบร้อนได้ที่แล้ว ก่อนนำมาใช้ประคบควรมี การทดสอบความร้อนโดยแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือก่อน และในช่วงแรกที่ลูกประคบยังร้อนอยู่ ต้อง ประคบด้วยความเร็ว ไม่วางลูกประคบไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพียงแตะลูกประคบแล้วยกขึ้น แต่เมื่อลูก ประคบคลายความร้อนลงสามารถวางลูกประคบได้นานขึ้นพร้อมกับกดคลึงจนกว่าลูกประคบคลาย ความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนลูกประคบไปใช้ลูกใหม่แทน (ใช้แล้วนำไปนึ่งแทน) โดย นางสาววิภารัตน์ แทนบุญ
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ได้เรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะผู้สูงวัยซึ่งเป็นวัยที่ต้องการพลังงานและสารอาหารแตกต่างจากวัยทำงาน หรือผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติ เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานที่
ลดลงของระบบต่างๆ ดังนั้น จึงต้องมีความเข้าใจเรื่องอาหารและโภชนาการเป็นอย่างดี ซึ่งความต้องการพลังงานและสารอาหารในผู้สูงอายุแต่ละรายก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง และการใช้พลังงานในแต่ละวัน
โภชนบัญญัติ 9 ประการสำหรับผู้สูงอายุ
1. กินอาหารให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
2. กินข้าวเป็นหลัก เน้นข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย
3. กินพืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลให้มากเป็นประจำ
4. กินปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเป็นประจำ
5. ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นประจำ
6. หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด
7. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน
8. กินอาหารสะอาด ปลอดภัย
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
และได้เรียนรู้การทำอาหารเพื่อสุขภาพ การทำสลัดโรล เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานสลัดให้รับประทานง่ายขึ้น โดยที่ยังคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่า จะเป็น ผัก เนื้อปูอัด แผ่นแป้งปอเปี้ยะ น้ำสลัด และอื่น ๆ ทำให้การกินสลัดนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่ ใช้ส้อมจิ้มและตักเข้าปากเท่านั้น ก็อร่อยแล้ว ในส่วนของการเลือกน้ำจิ้ม จะเป็นแบบไหนก็ได้ ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือวาซาบิก็ได้ หรือ ใครที่ไม่ชอบน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มโยเกิร์ตเบาๆ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 20 เมษายน 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย ง่าย ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุโดยการเต้นบาสโลบ สำหรับการเต้น “บาสโลบ" ผู้สูงอายุ วัยรุ่น วัยทำงาน สามารถเต้นได้หมด แต่ถ้าเต้นแอโรบิค ผู้สูงอายุจะเต้นไม่ได้ แข้งขา ไม่อำนวย ก็เลยได้นำเอาการเต้น “บาสโลบ" มาแทนการเต้นแอโรบิค ซึ่งเคยเต้นมาก่อนหน้านี้ โดยผู้สูงอายุ แต่ละคนก็จะมีความมุ่งมั่น มีความกล้าแสดงออก และไม่เหงา อยู่ที่บ้าน ด้วย วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
วันที่ 27 เมษายน 2566 เรียนรู้การส่งเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ ในทางจิตวิทยา วัยสูงอายุเป็นวัยแห่งความเคารพนับถือที่ลูกหลานยกย่องให้เกียรติ เป็นวัยแห่งความสุขที่จะได้เห็นลูกหลานที่เลี้ยงมาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ภาระรับผิดชอบต่าง ๆ ลดลง มีเวลาว่างที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามความชอบหรือความสนใจอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน วัยสูงอายุก็เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่จะเปลี่ยนจากวัยกลางคนเข้าสู่วัยชราอย่างเต็มตัว ทำให้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมายทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุได้ วิทยากรโดย นางพรรณวดี พูลผล
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจ |
70.00 | 70.00 | ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจ |
|
2 | เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ |
80.00 | 80.00 | ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ |
|
3 | เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม |
90.00 | 90.00 | ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม |
|
4 | เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต |
100.00 | 100.00 | ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายของชีวิต |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 40 | 40 | |
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 40 | 40 | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ (2) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผู้สูงอายุ (3) เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน (4) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายชองชีวิต
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุมะขามหวานรุ่นที่ 1) จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายชิต ชูรักษ์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......