สตรีร่วมใจต้านภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก หมู่ที่ 3,5,6 และ 7 ตำบลช้างเผือก ปี 2566
ชื่อโครงการ | สตรีร่วมใจต้านภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก หมู่ที่ 3,5,6 และ 7 ตำบลช้างเผือก ปี 2566 |
รหัสโครงการ | 66-L2475-1-07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านไอร์ซือเร๊ะ |
วันที่อนุมัติ | 8 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2566 - 30 มิถุนายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กรกฎาคม 2566 |
งบประมาณ | 18,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอัสนีซา บินเตะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.997,101.573place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุการตายด้วยโรคมะเร็งของสตรีในประเทศไทย ซึ่งทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านมเป็นมะเงที่พบมากเป็นอันดับหนึ่ง โรคมะเร็งปากมดลูกพบเป็นอันดับสองของมะเร็งในสตรี จะพบมากในกลุ่มอายุประมาณ 30- 50 ปี ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการตรวจ มะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจ Pap Smear ถึงแม้กระบวนการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูก จะง่าย สะดวก และราคาถูก แต่ยังพบว่าสตรีจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญ มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการตรวจ Pap Smear ส่วนโรคมะเร็งเต้านม ผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติในระยะเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องทำการตรวจคันหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น องค์การอนามัยโลกได้ประมาณอัตราการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของปัจจุบัน รายงานสถิติสาธารณสุขของศูนย์ข้อมูลข่าวสารสาธารณสุขอัตราตายด้วยมะเร็งทุกชนิดสูงขึ้นตลอดโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่เป็นอันดับ 1 และมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิง ซึ่งทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ เพราะทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรบุคคลและสิ้นเปลืองค่ใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูกต้องมีการค้นหา โดยการตรวจหาเชลล์มะเร็งให้พบตั้งแต่อยู่ในระยะ เริ่มแรกและในระยะก่อนเป็นมะเร็งซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในระยะลุกลาม และจากการศึกษาขององค์การอนามัยโลกได้พบว่าการคัดกรองด้วยการทำ pap smear ในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 - 60 ปี ทำให้ช่วยลดอัตราการเกิดและอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 - 60 ปี ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร์ชื่อเร้ะ ได้มีกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 669 ราย ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ในปี 2565 จำนวน 225 ราย คิดเป็นร้อยละ 33.63 ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดนราธิวาส สำหรับในปีงบประมาณ 2566 ต้องคัดกรองกลุ่มเป้าหมายเพิ่มให้ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 20 ยังมีกลุ่มที่ยังไม่เข้ารับการตรวจ Pap Smear ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ยากต่อการติดตาม และเข้ารับบริการเนื่องจาก ผู้รับบริการยังขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องมะเร็งปากมดลูก ยังมีทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับการตรวจด้วย pap smear และการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเองในกลุ่มอายุ 30-70 ปี จำนวน 833 ราย ได้รับการคัดกรองจำนวน 753 ราย คิดเป็นร้อยละ 90.40 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและคัดกรองมะเร็งเต้านมทุกๆ ปี โดยการให้ อสม. ติดตามอย่างต่อเนื่อง ต้องให้ความรู้แก่ อสม. และผู้รับบริการเนื่องจากยังขาดความ ความเข้าใจในเรื่องโรคมะเร็งเต้านม ดังนั้นโรงพยาบาลส่งสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร้ชื่อเรีะ จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ปี 2566 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสมพฤติกรรมการป้องกันโรคมะเงปากมดลูกและมะเร็งเต้านมแบบยังยืนต่อไป จังหวัดนราธิวาส จะต้องได้รับตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร้อยละ 20 เพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจะต้องมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและได้รับการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชนประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้มาคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไอร์ชื่อเระ จึงได้บูรณการร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก จัดทำโครงการสตรีร่วมใจต้านภัยมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ในตำบลช้างเผือก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้แก่สตรีกลุ่มเป้าหมายในตำบลช้างเผือกขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว อันจะช่วยทำให้พบผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกได้ตั้งแต่ ระยะแรกได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ลดอัตราการตายจากโรคมะเร็งได้อีกทางหนึ่ง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้สตรีกลุ่มอายุ 30-60 ปีได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและสตรีกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดครองมะเร็งเต้านม
|
||
2 | 2. เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก โดยกลุ่มเป้าหมายต้องได้รับการ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากกว่าร้อยละ 20
|
||
3 | 3. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ตรวจหาความผิดปกติ ของเซลล์มะเร็งปากมดลูกได้รับการตรวจวินิจฉัยยืนยัน การเกิดโรค
|
||
4 | 4. เพื่อให้ได้รับการขึ้นทะเบียนผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก และได้รับการส่งต่อ ตามแผนการรักษาได้ ทันท่วงที
|
||
5 | 5. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับการดูแลติดตามเยี่ยมบ้านตามเกณฑ์
|
||
6 | 6. เพื่อให้สตรีที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่มมีโอกาสรักษาให้หายขาด และเพื่อลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 18,800.00 | 0 | 0.00 | |
5 เม.ย. 66 | โคงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม หมู่ที่ 3,5,6 และ 7 ตำบลข้างเผือก ปี 2566 | 0 | 18,800.00 | - |
- สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ30 -60 ในพื้นที่มีควรามรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงอัตรายของ โรคมะเรงปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
- สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ30 - 60 ปี ที่ได้รับการตรวจคัดรองมะเร็งปากมดลูกและพบภาวะผิดปกติทุกชนิดได้รับการส่งต่อและรักษาทุกราย (ร้อยละ ๑๐๐)
- อสม. มีความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและสามารถถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับให้กลุ่มเป้าหมายและสามารถนำกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างครอบคลุม
- ผู้ป่วยมะเร็วปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก สามารถเข้าถึงการรักษาได้อน่างเร็วและลดอัตราการตายได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 11:12 น.