โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย ปี 2566
ชื่อโครงการ | โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย ปี 2566 |
รหัสโครงการ | 66-L1485-1-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำแคลง |
วันที่อนุมัติ | 15 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2566 - 31 สิงหาคม 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 8 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 15,950.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวเสาวภา แซ่จั่ง ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.288,99.862place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 80 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประชากรไทยมีอาชีพพื้นฐานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบผู้มีรายได้น้อย แต่
ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด ท่าทางการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรังตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิการ และปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู้ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนังที่ไม่สวมถุงมือและรองเท้าบู๊ท ป้องกันขณะทำงานกับสารเคมี การสูดหายใจละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีเพิ่มขึ้นยกตัวอย่างเช่น ใช้ถังภาชนะบรรจุสารเคมีที่รั่วซึม ฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีโดยไม่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซึมเปื้อนทันที เป็นต้น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์ และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และมีปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมาเช่นโรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ เป็นต้น จากข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าเกษตรกรมีระดับความไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทั้งนี้เนื่องจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อย่างไม่ถูกวิธีและขาดความรู้ จึงส่งผลกระทบกับด้านสุขภาพโดยตรง และส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคได้
ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำแคลง ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นตำบลหนึ่งที่ประชาการส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรกรรมมากถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ ทำสวนยางพารา สวนปาล์ม ไร่อ้อย ปลูกพืชผลทางเกษตรกรรม ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำแคลง จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกร จึงได้จัดทำโครงการคัดกรองสารเคมีในเลือดกลุ่มเกษตรขึ้นเพื่อเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงชุมชนบ้านลำแคลง ได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใด เพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษจากสารเคมี เกษตรกลุ่มเสี่ยงได้รับความรู้เรื่องพิษจากสารเคมี และวิธีการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง ร้อยละ 80 |
||
2 | เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพในการใช้สารเคมี เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจเลือดหาสารเคมีตกค้างร้อยละ 80 |
||
3 | เพื่อให้ผู้ที่มีภาวะเสี่ยง ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เกษตรกรที่มีภาวะเสี่ยงสารเคมีสะสมในโลหิต ได้รับการดูแล และรับยาสมุนไพรรางจืดเพื่อกำจัดสารพิษในโลหิต ร้อยละ 100 |
- รวบรวมข้อมูลกำหนดเป้าหมายและกิจกรรม
- เขียนโครงการเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ 3. จัดอบรมให้ความรู้และดำเนินการตรวจหาสารเคมีกำจัดในการประกอบอาชีพ 4. จัดทำเล่มทะเบียนผลการตรวจหาสารเคมีในเกษตรกรประจำปีงบประมาณ 2566 และรายงานผลการดำเนินโครงการ เมื่อโครงการเสร็จสิ้น
- เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพ ได้รับความรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการปลูกและบริโภคผักปลอดสารพิษ ร้อยละ 80
- เกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพได้รับการเจาะเลือดหาสารเคมีตกค้าง ร้อยละ 80 และได้รับการดูแลรักษาด้วยยาสมุนไพรรางจืด เพื่อกำจัดสารพิษในโลหิต ร้อยละ 100
- ได้ทราบถึงสถานการณ์ สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เขตรับผิดชอบของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำแคลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2566 15:57 น.