โครงการ นวดกระตุ้นพัฒนาการลูก สัมผัสแรกรักจากมารดา
ชื่อโครงการ | โครงการ นวดกระตุ้นพัฒนาการลูก สัมผัสแรกรักจากมารดา |
รหัสโครงการ | 66 - L8426 - 1 - 11 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตอหลัง |
วันที่อนุมัติ | 9 มกราคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ตุลาคม 2566 |
งบประมาณ | 6,920.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสันโนรา สามุยามา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.283,101.775place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 19 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) ทารกแรกเกิดเป็นวัยที่สำคัญในการสร้างรากฐานของชีวิต เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตและ พัฒนาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่ในระยะที่เรียกว่าระยะประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว เป็นวัยที่เซลล์สมอง มีการสร้างจุดเชื่อมต่อและเส้นใยประสาทมากที่สุดถ้าสมองไม่ได้รับการกระตุ้นหรือไม่ได้รับการส่งเสริม ในช่วง เวลาที่เหมาะสม โอกาสเรียนรู้ของเด็กก็จะลดน้อยลง การกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญเพื่อให้ เด็กมีความพร้อมในการเรียนรู้และสามารถพัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างสมบูรณ์ (อำนาจ พิมพาต,2552) การเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่คลอดถือเป็นหน้าที่อันสำคัญของมารดาในการเลี้ยงดูทารกให้มีการเจริญเติบโต ตามแบบแผนและวิถีทางแห่งสังคมมนุษย์ มารดาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในทุกช่วงเวลาของการเลี้ยงดู หรืออาจกล่าวได้ว่ามารดานั้นเป็นบุคคลแรกในชีวิตมนุษย์ที่ทำให้เกิดความสุข ความพอใจแก่ทารกได้โดยธรรมชาติแล้วมารดาทุกคนมีความคาดหวังที่จะเลี้ยงดูบุตรของตนเองให้ดีที่สุด โดยปกติทารกจะได้รับการ กระตุ้นประสาทสัมผัสเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ด้วยการฟังเสียงและการรับเสียงการเต้นของหัวใจมารดาและ การเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร มีการทรงตัวจากการเคลื่อนไหวของมารดา การได้รับการสัมผัสที่ ผิวหนังจากน้ำคร่ำ ผนังมดลูก สายสะดือ และส่วนต่างๆ ของทารกเองจะขาดเพียงแต่การกระตุ้นการมองเห็น สิ่ง กระตุ้นที่ได้รับเหล่านี้เมื่ออยู่ในครรภ์มารดาจะทำให้ทารกมีพัฒนาการและผสมผสานการทำงานไปเรื่อยๆ ตามอายุครรภ์(สุรีย์รัตน์ ชลันธร,2545) การรับประสาทสัมผัสของทารกเหล่านี้จะมีการพัฒนาอย่าง เฉพาะเจาะจงตามลำดับ โดยเริ่มจากประสาทสัมผัส การทรงตัว การรับกลิ่น และการรับรส ส่วนการได้ยินและ การมองเห็น จะมีการพัฒนาหลังสุดคือเมื่อทารกใกล้ครบกำหนดแล้ว การขาดการกระตุ้นประสาทสัมผัสต่างๆ รวมทั้งการที่มารดาไม่มีการตอบสนองความต้องการของทารก จะทำให้ทารกเกิดภาวะซึมเศร้า มีความรู้สึกว่า ตนเองถูกทอดทิ้ง ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นในอนาคตและ จากภาวะสังคม จิตใจ เช่นนี้ อาจทำให้ทารกเจริญเติบโตแบบแคระแกรน การนวดสัมผัสเด็กนั้นนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และเพิ่มประสิทธิภาพ ให้แก่ระบบการหมุนเวียนของเหลวต่างๆ ในร่างกายแล้ว การนวดสัมผัสยังเป็นวิธีการตอบสนองความต้องการ การสัมผัสขั้นพื้นฐานของทารกในระยะเดือนแรกๆ หลังจากการคลอดสภาพร่างกายของทารกที่เคยงอคุดคู้อยู่ใน ครรภ์ของมารดาจะเริ่มเหยียดตัวออก กระดูกและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ค่อยๆ เหยียดตรง ยืดขยายออกไป ข้อต่อ ต่างๆ เคลื่อนไหวบิดงอไปมาได้ ในช่วงระยะเวลานี้มารดาจึงควรนวดสัมผัสตัวทารก เพื่อช่วยบังคับและเสริมสร้างกล้ามเนื้อของทารกให้เกิดความแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อ แต่การนวดต้องกระทำตามลำดับขั้นตอนต่างๆ อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ (สุอารี ล้ำตระกูล,2551) การนวดสัมผัสทารกนอกจากจะ ช่วยผ่อนคลายความแข็งตรึงของกล้ามเนื้อแล้ว การนวดสัมผัสทารกยังเสริมสร้างกำลังให้แก่กล้ามเนื้อทำให้ สามารถทานน้ำหนักและประครองร่างกายให้เหยียดตรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ข้อต่อ ร่างกายสามารถบิดงอ เคลื่อนไหวไปมาได้ ก่อให้เกิดความสมดุลในการทรงตัวและการเคลื่อนไหวร่างกาย การนวดสัมผัสตัวทารกยัง ส่งผลไปกระตุ้นระบบหมุนเวียนของของเหลวในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น การขับถ่ายของเสีย การสูบฉีดโลหิต รวมถึงกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสานงานกันทั่วทั้งร่างกาย และยัง สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับทารกให้ลดน้อยลง มารดาที่นวดสัมผัสตัวทารกเป็นประจำ สม่ำเสมอ สามารถค้นพบความเปลี่ยนแปลงหรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเด็กโดยฉับพลัน (รัตนา งามบุณยรักย์, 2553) การนวดสัมผัสจะช่วยให้ร่างกายมีความรู้สึกสบาย มีสุขภาพจิตที่ดี เมื่อนำการนวดสัมผัสมาใช้ใน ทารกโดยการนวดอย่างนิ่มนวลจากมารดา จะช่วยทำให้ทารกมีความสุขสบาย นอนหลับได้ดี และร้องไห้น้อยลง การนวดท้องอาจช่วยบรรเทาอาการทารกที่ร้องจากการปวดท้องได้ ทารกที่ได้รับการนวดจะมีอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิด และสิ่งที่สำคัญคือการนวดจะช่วยสร้างสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกได้ดียิ่งขึ้น (Dieter. J.N., et al, 2003) ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาการนวดสัมผัสทารกโดยมารดาต่อการเจริญเติบโต และความรักความผูกพันระหว่างมารดาและทารก โดยให้มารดาได้สัมผัสบุตรด้วยการนวดสัมผัสซึ่งธรรมชาติ ของทารกจะมีความต้องการสัมผัส การปกป้องจากมารดา การนวดสัมผัสเป็นการติดต่อสื่อสารและการเรียนรู้ เบื้องต้นที่ดีของทารก และทำให้ทารกได้รับการตอบสนองที่สำคัญด้านจิตใจ มีอารมณ์แจ่มใสและช่วยให้ทารก สามารถสร้างความผูกพัน ที่มั่นคงกับผู้อื่น ซึ่งจะทำให้ทารกมีพื้นฐานพัฒนาการที่ดีต่อไปในอนาคต ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านตอหลัง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนวดกระตุ้นพัฒนาการทารก เพื่อให้ทารกได้รับการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสแห่งการเรียนรู้ ทารกมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีการเจริญเติบโตของสมองและร่างกายเหมาะสมตามวัย เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศชาติต่อไป จึงได้จัดทำโครงการนวดกระตุ้นพัฒนาการลูก สัมผัสแรกรักจากมารดา
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้และสามารถนวดกระตุ้นพัฒนาการทารกได้ถูกต้อง ลุ่มเป้าหมายมีความรู้และสามารถนวดกระตุ้นพัฒนาการทารกได้ถูกต้อง ร้อยละ 90 |
17.00 | |
2 | เพื่อให้ทารกได้รับการนวดกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการ ทารกได้รับการนวดกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการ ร้อยละ 100 |
19.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 19 | 6,920.00 | 1 | 6,920.00 | |
27 เม.ย. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการ | 19 | 6,920.00 | ✔ | 6,920.00 |
- มารดามีความรู้ สามารถนวดกระตุ้นพัฒนาการทารกได้ถูกต้อง
- ทารกได้รับการนวดกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม ตามวัย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 14:28 น.