โครงการเฝ้าระวังตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร ปีงบประมาณ 2566
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร ปีงบประมาณ 2566 |
รหัสโครงการ | 66-L2502-1-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กาหนั๊วะ |
วันที่อนุมัติ | 22 กุมภาพันธ์ 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2566 - 29 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 29 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 46,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนิด๊ะห์ ดือเระ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.225,101.661place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 180 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประชากรไทยมีอาชีพพื้นฐานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบผู้มีรายได้น้อย แต่ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด ท่าทางการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งการการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร ถือว่าเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญในภาคการเกษตรของประเทศไทย สาเหตุหลักเกิดจากการปฏิบัติตัวในการป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีที่ไม่ถูกต้อง สารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษ และปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัด ศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนังที่ไม่สวมถุงมือและรองเท้าบู๊ท ป้องกันขณะทำงานกับสารเคมี การสูดหายใจละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีสารเคมี ปนเปื้อน พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีเพิ่มขึ้นยกตัวอย่าง เช่น ใช้ถังภาชนะบรรจุสารเคมีที่รั่วซึม ฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีโดยไม่อาบน้ำและเปลี่ยน เสื้อผ้าที่ซึมเปื้อนทันที เมื่อร่างกายสะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน
สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ คือจะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือด และระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น ประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาหนั๊วะ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ทำสวน ปลูกพืชผัก ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เกษตรกรมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น เนื่องจากรูปแบบการเกษตรเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมรูปแบบการเกษตรทำเพื่อการบริโภค มาเป็นการเกษตรเศรษฐกิจ เกษตรกรต้องการเพิ่มผลผลิต จึงจำเป็นต้องมีการใช้สารเคมีในการกระตุ้นการเจริญเติบโต ประกอบกับมีการระบาดของศัตรูพืช จึงมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในการนำมาใช้นั้นได้มีการใช้อย่างไม่ถูกวิธีและขาดความรู้ จึงทำให้มีผลกระทบกับด้านสุขภาพโดยตรง
จากเหตุผลข้างต้น ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาหนั๊วะ จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกร จึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวังตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร ปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับการตรวจสุขภาพ และเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใด เพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อค้นหาประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ร้อยละของเกษตรกรได้การตรวจสารพิษตกค้างในเลือด ร้อยละ 100 |
||
2 | เพื่อให้เกษตรกรและแรงงานนอกได้รับการตรวจคัดกรองหาสารเคมีในเลือด ร้อยละของเกษตรกรได้การตรวจสารพิษตกค้างในเลือด ร้อยละ 100 |
||
3 | เพื่อให้ได้รับความรู้ ให้ทุกคนตระหนักถึงพิษภัยจากสารเคมีตกค้าง ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีอันตรายในการเกษตรกร และหันมาใช้ปุ๋ยจากวัสดุธรรมชาติ รวมถึงการใช้สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมศัตรูพืช ร้อยละของเกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับการใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง ร้อยละ 90 |
||
4 | เพื่อป้องกันโรคและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากสารเคมีทางการเกษตร เกษตรกรมีผลเลือดระดับปกติและปลอดภัย ร้อยละ 70 |
||
5 | เพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรมีสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดระดับอันตราย เกษตรกรมีพฤติกรรมการป้องกันการใช้สารเคมีได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อค้นหาประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อให้เกษตรกรและแรงงานนอกได้รับการตรวจคัดกรองหาสารเคมีในเลือด |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 : เพื่อให้ได้รับความรู้ ให้ทุกคนตระหนักถึงพิษภัยจากสารเคมีตกค้าง ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีอันตรายในการเกษตรกร และหันมาใช้ปุ๋ยจากวัสดุธรรมชาติ รวมถึงการใช้สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมศัตรูพืช |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 4 : เพื่อป้องกันโรคและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากสารเคมีทางการเกษตร |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 5 : เพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรมีสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดระดับอันตราย |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
กิจกรรมดำเนินงาน
ขั้นเตรียมการ
1.ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงาน
2.จัดทำโครงการเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลกาลิซา
3. ประสานกับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
4. สำรวจกลุ่มเกษตรกรที่ใช้สารเคมีในเขตรับผิดชอบ
5. จัดทำทะเบียนเกษตรกรรายหมู่บ้านและทำการคัดกรองเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง
ขั้นดำเนินการ
1. ดำเนินการคัดกรองเกษตรกรรายหมู่บ้าน
2. เจาะเลือดตรวจหาสารเคมีเกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี
3. บันทึกสุขภาพเกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการเจาะเลือด รักษาโดยใช้สมุนไพรและนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
4. จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีและกลุ่มไม่ปลอดภัย
ขั้นหลังดำเนินการ
1. สรุปผลการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกรและข้อมูลพฤติกรรมปัจจัยเสี่ยง
2. สรุปผลการคัดกรอง และแปรผลการคัดกรองเป็น รายหมู่บ้าน
3. ประเมินผลและสรุปผลการดำเนินงานโครงการ
4. รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลากาลิซา
- ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพที่ได้รับการตรวจหาปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสโลหิต ร้อยละ 80
- เกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพได้มีรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
- เกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพได้รับการเจาะเลือดหาสารเคมีตกค้างและได้รับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการปลูกและบริโภคผักปลอดสารพิษ
- ทราบถึงสถานการณ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในเขตรับผิดชอบ
- กลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงจากการใช้และบริโภคยาฆ่าแมลง
- กลุ่มเสี่ยงได้มีพฤติกรรมที่ถูกต้องในการประกอบอาชีพ การบริโภคอาหาร เกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าแมลง
- กลุ่มเสี่ยงได้รับการส่งต่อกรณีที่มีปัญหาสุขภาพจากการใช้ยาฆ่าแมลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 10:24 น.