โครงการร้านชำปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพชุมชน RDU เขตเทศบาลเมืองปัตตานี (ประเภทที่ 1)
ชื่อโครงการ | โครงการร้านชำปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพชุมชน RDU เขตเทศบาลเมืองปัตตานี (ประเภทที่ 1) |
รหัสโครงการ | 66-L7884-1-13 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | งานคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลปัตตานี |
วันที่อนุมัติ | 17 กรกฎาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 8 สิงหาคม 2566 - 15 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 75,080.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายมูฮัมมัดซากี อูมูดี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | เทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล
ในปีงบฯ 2565 จังหวัดปัตตานีประกาศนโยบายด้าน RDU “ชาวปัตตานีรอบรู้ เครือข่ายร่วมมือ ใช้ยาปลอดภัยสมเหตุผล” เพื่อให้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงาน RDU ผ่านกลไกพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ) การดำเนินงานในระดับอำเภอ ได้ดำเนินงานสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคี ในพื้นที่และจัดการความเสี่ยง เช่น การจำหน่าย การโฆษณา การใช้ยาไม่ถูกต้อง (Community Participation) นอกจากนี้ได้จัดทำแนวทางส่งต่อข้อมูลความไม่ปลอดภัยด้านยาระหว่าง รพ. รพสต. ชุมชน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน RDU ระหว่างตำบล ตลอดจนวางแนวทางการสร้างความรอบรู้ด้านยาและสื่อสารข้อมูลให้กับเครือข่ายและประชาชนพื้นที่ ในช่องทางที่เหมาะสม และประเมินความรอบรู้การใช้ยาอย่างสมเหตุผลในอำเภอ
ปัจจุบันนี้ร้านขายของชำ ในชุมชนถือได้ว่าเป็นแหล่งกระจายสินค้าประเภทต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพให้แก่ผู้บริโภคในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยา ของใช้เคมีในครัวเรือนต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพทั้งสิ้น ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองปัตตานี มีสถานประกอบการต่าง ๆ จำนวนมาก ร้านขายของชำในหมู่บ้าน 128 ร้าน และประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพ ประมง ก่อสร้าง มักมีอาการปวดเมื่อย หายากินเองตามการแนะนำของเพื่อน บอกต่อ ซึ่งอาจจะผิดข้อบ่งใช้ ในปีงบประมาณ 2565 จากการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย โดยการสำรวจและประเมินความรอบรู้การใช้ยาอย่าง สมเหตุผลของประชาชนจังหวัดปัตตานี (RDU Literacy) สิ่งที่พบคือ ประชาชนมีความรอบรู้ทันสื่อ ร้อยละ 11.25 (เกณฑ์ผ่านต้องมากกว่าร้อยละ 80) โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาการเลือกใช้ยาผ่านการโฆษณา ตอบผิด ร้อยละ 67.8 และมีการขายเครื่องสำอาง และพบผลกระทบจากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์ไม่ปลอดภัย 1 รายซึ่งต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แพ้ยาชนิดรุนแรงจากการซื้อยาใน 1 ราย และพบอาการ ปวดท้อง 3 ราย ซื้อยาชุดจากในชุมชน นอกจากนี้ ในการสำรวจร้านชำตามแบบประเมินร้านชำคุณภาพ พบว่า ร้านชำยังตกเกณฑ์ในหัวข้อหมวดผลิตภัณฑ์ อาหาร ในข้ออาหารแปรรูปที่ต้องมีการขอเลขสารบบอาหาร (เลข อย.) และแสดงให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง, ผลิตภัณฑ์อาหารหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ วางจำหน่าย เก็บอาหารได้อย่างไม่เหมาะสม (สะอาด/แสงแดดส่องไม่ถึง/อุณหภูมิเหมาะสม ส่วนในหัวข้อหมวดยา จะตกเกณฑ์ในหัวข้อพบการจำหน่ายยาสามัญประจำบ้านที่หมดอายุหรือยาเสื่อมคุณภาพ และร้านชำบางที่มีจำหน่ายยาอันตราย พบว่ามีการขายยาแก้ปวดเมื่อยจากอินโด-มาเล ขายกาแฟที่มีสารปนเปื้อน ยามีสารปนเปื้อน ยาแผนปัจจุบันซิลดินาฟิล (Sildenafil) ร้านน้ำชา และบ้าน การขายยาสมุนไพรผลิตเอง สมุนไพรหลังคลอด โดยไม่มีเลขทะเบียน ไม่มีฉลาก มาจำหน่ายให้กับประชาชนในชุมชนได้
คณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภค ระดับอำเภอเมืองปัตตานี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของงานคุ้มครองผู้บริโภค จึงขอจัดโครงการร้านชำปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบกิจการร้านขายของชำในด้านการค้าขาย เลือกจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และจำหน่ายยาเฉพาะยาสามัญประจำบ้าน ได้ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคในเขตเทศบาลเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ ผู้ประกอบการ และลดปัญหาจากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยไม่จำเป็นให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี 2.เพื่อสร้างเครือข่ายแกนนำRDU ในสามตำบลเขตเทศบาล 3.เพื่อลดจำนวนร้านขายของชำที่จำหน่ายยาอันตราย 4.เพื่อให้มีจุดเฝ้าระวังทดสอบยาชุดที่ต้องสงสัย ยาอันตราย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ศูนย์เรียนรู้RDU ในเขตเทศบาล ร้อยละ 80 ของผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัย มีเครือข่ายแกนนำ RDU ทุกชุมชนในเขตเทศบาล ไม่มีร้านชำขายยาอันตราย มีจุดเฝ้าระวังตำบลละ 1 ที่ |
- วิธีดำเนินการ
- เขียนโครงการ
- จัดทีมคณะทำงาน
- ประชุมชี้แจงคณะทำงาน
- ดำเนินกิจกรรมตามแผนงานโครงการที่ได้รับอนุมัติ ประกอบด้วย กิจกรรมดังนี้
4.1 อบรมให้ความรู้และประชุมวางแผนคณะทำงานการออกตรวจ การใช้ชุดทดสอบสารอันตรายต่างๆ
4.2 อบรมผู้ประกอบการร้านชำในเขตสามตำบลในเขตเทศบาล ร้านละ 1 ท่าน
4.3 ออกตรวจร้านชำ ที่เข้าร่วมร้านละ 2 ครั้ง
4.4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาจากการดำเนินงาน คณะทำงานจัดตั้งจุดเฝ้าระวังยาชุดและศูนย์RDU แต่ละตำบล - จัดทำรายงานสรุปผลดำเนินงานโครงการส่งหลักฐานเลิกจ่ายเงินในโครงการ และเสนอผลการดำเนินการแก่ผู้บริหาร
- เขียนโครงการ
- ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ประชาชนมีความรู้เรื่องยาการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัย
2. ร้านชำในชุมชนไม่มีการจำหน่ายยาชุด ยาอันตราย ยาปฏิชีวนะ และสมุนไพรที่ปนเปื้อนสเตียรอยด์
- เกิดต้นแบบเครือข่ายชุมชนในการป้องกันภัยจากผลิตภัณฑ์สุขภาพ 4. เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชน ภาคีเครือข่าย ในการแก้ปัญหาการบริโภคผลิตภัณฑ์
- ประชาชนมีความรู้เรื่องยาการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัย
2. ร้านชำในชุมชนไม่มีการจำหน่ายยาชุด ยาอันตราย ยาปฏิชีวนะ และสมุนไพรที่ปนเปื้อนสเตียรอยด์
- เกิดชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนในชุมชนเขตเทศบาล สามารถดูแลตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้
- มีจุดเฝ้าระวังยาแผนโบราณที่ต้องสงสัย ศูนย์เรียนรู้ RDU
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2566 10:35 น.