กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่งสตรีบ้านบน จังหวัดปัตตานี" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปะเสยะวอ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่งสตรีบ้านบน

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่งสตรีบ้านบน " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี รหัสโครงการ 66-L3057-2-3 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2566 - 30 กันยายน 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 25,550.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปะเสยะวอ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาที่สาเหตุการตายของประชาชนเปลี่ยนจากโรคติดเชื้อเฉียบพลันมาเป็นโรคเรื้อรัง ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมอันทำให้บุคคลเคลื่อนไหวร่างกายลดลงและบริโภคอาหารที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้น โรคระบบไหลเวียนเลือดเป็นกลุ่มโรคหนึ่งที่ได้กลายเป็นปัญหาสาธารณสุขที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆของประเทศไทยในปัจจุบัน       โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ และเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือด หัวใจ โรคไตเรื่องรัง หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและควบคุมระดับความดันโลหิต ได้อาจรุนแรงถึงขั้นพิการหรือตายก่อนวัยอันควร องค์การอนามัยโลกรายว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงประมาณหนึ่งพันล้านคน คาดว่าในปี ค.ศ.2025 จะมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิต สูงถึง 1.56 พันล้านคน โดยแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูงประมาณ 8 ล้านคน และโรคที่เป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูงประมาณ 17 ล้านคน สถานการณ์ของประเทศไทยพบว่าโรคความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุการป่วยสูงที่สุด รองลงมาคือโรคเบาหวาน อัตราป่วยโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ที่ป่วยด้วยโรคความดันและเบาหวาน เป็น กลุ่มที่มารับบริการเป็นอันดับ 1 และเป็นกลุ่มที่มีปัญหาในการดูแลต่อเนื่องที่บ้านมากที่สุด จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า ผู้ป่วยโรคความดันและเบาหวานส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการกับความเครียด  การรับประทานยา หรือฉีดยา และการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งถ้าไม้ได้รับการแก้ไขจะทำให้ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้ และมีหลักฐานวิชาการยืนยันชัดเจนถึงผลของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและเสียชีวิต จึงมีความเป็นไปได้ที่จะควบคุมป้องกันหรือชะลอการเกิดหรือการดำเนินของโรคในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้       กลุ่มสตรีบ้านบนตำบลปะเสยะวอได้เห็นความสำคัญของการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่มเสี่ยงจึงได้จัดโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของกลุ่มสตรีบ้านบนตำบลปะเสยะวอขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1.เพื่อส่งเสริมกลุ่มสตรีบ้านบนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้ถูกต้อง
2. 2.เพื่อให้กลุ่มสตรีบ้านบนเข้าใจในการปฏิบัติตนลดเสี่ยงลดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้

กิจกรรม/การดำเนินงาน

1. ขั้นตอนดำเนินการ
2. กิจกรรมช่วงเช้า
3. กิจกรรมช่วงบ่าย
4. 1.1 ไวนิลโครงการ 1.2 วัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินกิจกรรม

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.กลุ่มสตรีบ้านบนตำบลปะเสยะวอเห็นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง 2.กลุ่มสตรีบ้านบนตำบลปะเสยะวอมีความรู้ในเรื่องโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน 3.กลุ่มสตรีบ้านบนตำบลปะเสยะวอลดภาวะเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น