กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการ "แม่ลูกปลอดภัย ฝากท้องไว คลอดโรงพยาบาล" จังหวัดปัตตานี" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านกลาง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการ "แม่ลูกปลอดภัย ฝากท้องไว คลอดโรงพยาบาล"

บทคัดย่อ

-หลักการและเหตุผล
      การฝากครรภ์เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาคุณภาพประชากรเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพื่อการตั้งครรภ์และ การคลอดเป็นไปด้วยความราบรื่น มารดาและทารกปลอดภัย ปราศจากภาวะแทรกซ้อนและมีสุขภาพแข็งแรงครรภ์คุณภาพเป็นเป้าหมายหลักของการให้บริการฝากครรภ์ทุกหน่วยบริการสาธารณสุข ซึ่ง จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการฝากครรภ์คุณภาพคือการที่หญิงตั้งครรภ์มารับบริการฝากครรภ์ครั้งแรกก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถให้การดูแลหญิงตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก ช่วยในการค้นหาหญิง ตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ เกิดความ ปลอดภัยทั้งมารดาและทารกในครรภ์ ทุกวันนี้ ในโลกยังมีผู้หญิงเสียชีวิต จากปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด และมีอีกนับหมื่นๆ คนที่ประสบภาวะแทรกซ้อน สำหรับประเทศไทย โดยเฉลี่ยผู้หญิงเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และการคลอด วันละ 1-2 คนมีแม่และเด็กจำนวนมากเจ็บป่วยรุนแรงถึงพิการ จากสาเหตุส่วนใหญ่ที่สามารถป้องกันได้อันตรายจากการตั้งครรภ์และการคลอดลูกจะลดลงได้ เมื่อผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรง และมีภาวะโภชนาการดีตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ มีการตั้งครรภ์เมื่อพร้อม สถานการณ์งานแม่และเด็กปี 2566 หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ครบ 5 ครั้งตามเกณฑ์ร้อยละ 71.00 หญิงตั้งครรภ์ได้รับยาเสริมไอโอดีนร้อยละ 100 หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 10 ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 2 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือน ร้อยละ 91.23 ร้อยละหญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝากครรภ์ครั้งแรกก่อนหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ เท่ากับ 77.00 ร้อยละของหญิงหลังคลอดได้รับการดูแลครบ 3 ครั้งตามเกณฑ์ เท่ากับร้อยละ 100 จากการดำเนินงานการอนามัยแม่และเด็กยังคงพบว่าการฝากครรภ์ก่อน 12สัปดาห์ การคลอดที่บ้านส่งผลให้พบปัญหาการตกเลือดหลังคลอด การติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำ โครงการอนามัยแม่และเด็ก ลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ มีภาวะโภชนาการดีตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ มีการตั้งครรภ์เมื่อพร้อมตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ไปรับการตรวจสุขภาพเร็วที่สุดตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ รับการตรวจครรภ์เป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ฝากครรภ์อย่างน้อย 8 ครั้ง และได้รับการคลอดในโรงพยาบาลระยะตั้งครรภ์เป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญสำหรับการให้กำเนิดทารก ให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา แม้ว่าการตั้งครรภ์ของสตรีจะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นภาวะที่หญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีความไม่สุขสบายและมีความวิตกกังวล ดังนั้นจึงจำเป็นที่หญิงตั้งครรภ์ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองและทารกในครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดอย่างปลอดภัย รวมทั้งเตรียมรับบทบาทการเป็นมารดาที่ดีมีคุณภาพ สามารถเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาภายหลังคลอดได้อย่างถูกต้อง เมื่อมารดาได้รับความรู้และได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยจะเริ่มตั้งแต่มารดาวางแผนการตั้งครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ ฝากครรภ์ตามนัด 8 ครั้งตามเกณฑ์อย่างมีคุณภาพ เพื่อก้าวเข้าสู่บทบาทของการคลอด ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย     ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดโครงการนี้ขึ้น โดยทำการอบรมเป็นกลุ่ม ใช้วิธีการสอนอย่างมีแบบแผน ส่งเสริมการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และติดตามการฝากครรภ์อย่างต่อเนื่อง 8 ครั้งตามเกณฑ์ ตลอดจนติดตามหลังคลอดอย่างต่อเนื่อง

1. วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัด   1. เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธ์มีสุขภาพที่ดีสมบูรณ์เตรียมพร้อมกับการตั้งครรภ์และพร้อมกับการดูแลบุตรที่ดีได้   2. เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์   3 .เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ   4 .เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อนคลอดครบ 8 ครั้งตามเกณฑ์   5 เพื่อส่งเสริมการคลอดที่โรงพยาบาล

2.วิธีดำเนินการ   1.กิจกรรมอบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพและการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์,ช่วงตั้งครรภ์,คลอดและหลังคลอด   2. จัดอบรมการให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์   3. ประเมินผล/และติดตาม

1. ระยะเวลาดำเนินการ       มีนาคม 2567 - กันยายน 2567

2. สถานที่ดำเนินการ ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี     กลุ่มเป้าหมาย หญิงตั้งครรภ์และสามี หรือญาติ จำนวน 50 คน

3. งบประมาณ จากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพ.ตำบลบ้านกลาง จำนวน 16,500 บาท รายละเอียด ดังนี้     - ค่าวิทยากร ชม.ละ 600 บาท จำนวน 4 ชม.                  เป็นเงิน = 2,400 บาท     - ค่าอาหารกลางวัน 50 คน * 1 มื้อ * 50บาท      เป็นเงิน = 2500  บาท     - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 50 คน * 2 มื้อ * 25 บาท        เป็นเงิน = 2500  บาท     - ค่าป้ายดำเนินโครงการ ขนาด 1 เมตร ×2 เมตร จำนวน 1 ผืน      เป็นเงิน = 1000  บาท       - ค่าวัสดุอุปกรณ์             - ค่าปากกาเคมี 10 แท่งๆละ 20 บาท                เป็นเงิน = 200  บาท             - ค่ากระดาษชาร์ต 10 แผ่นๆละ 40 บาท                เป็นเงิน = 400  บาท
         - Roll-up ขนาด 60160 ซม. จำนวน 3 ชุด2500 บาท            เป็นเงิน = 7,500 บาท
   รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,500- บาท (-หนึ่งหมื่นหกพันห้าร้อยบาทถ้วน-)         หมายเหตุ ทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยกันได้

4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ   1. หญิงตั้งครรภ์ มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และฝากครรภ์ครบ 8ครั้งตามเกณฑ์
     2. หญิงตั้งครรภ์ปกติและหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง มีการดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง และได้รับการฝากครรภ์อย่างมีคุณภาพ
   
   
   ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมอบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพและการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์,ช่วงตั้งครรภ์,คลอดและหลังคลอด จัดอบรมการให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

การฝากครรภ์เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาคุณภาพประชากรเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพื่อการตั้งครรภ์และ การคลอดเป็นไปด้วยความราบรื่น มารดาและทารกปลอดภัย ปราศจากภาวะแทรกซ้อนและมีสุขภาพแข็งแรงครรภ์คุณภาพเป็นเป้าหมายหลักของการให้บริการฝากครรภ์ทุกหน่วยบริการสาธารณสุข ซึ่ง จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการฝากครรภ์คุณภาพคือการที่หญิงตั้งครรภ์มารับบริการฝากครรภ์ครั้งแรกก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถให้การดูแลหญิงตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก ช่วยในการค้นหาหญิง ตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงหรือมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ เกิดความ ปลอดภัยทั้งมารดาและทารกในครรภ์ ทุกวันนี้ ในโลกยังมีผู้หญิงเสียชีวิต จากปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด และมีอีกนับหมื่นๆ คนที่ประสบภาวะแทรกซ้อน สำหรับประเทศไทย โดยเฉลี่ยผู้หญิงเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และการคลอด วันละ 1-2 คนมีแม่และเด็กจำนวนมากเจ็บป่วยรุนแรงถึงพิการ จากสาเหตุส่วนใหญ่ที่สามารถป้องกันได้อันตรายจากการตั้งครรภ์และการคลอดลูกจะลดลงได้ เมื่อผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรง และมีภาวะโภชนาการดีตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ มีการตั้งครรภ์เมื่อพร้อม สถานการณ์งานแม่และเด็กปี 2566 หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ครบ 5 ครั้งตามเกณฑ์ร้อยละ 71.00 หญิงตั้งครรภ์ได้รับยาเสริมไอโอดีนร้อยละ 100 หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 10 ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 2 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือน ร้อยละ 91.23 ร้อยละหญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝากครรภ์ครั้งแรกก่อนหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ เท่ากับ 77.00 ร้อยละของหญิงหลังคลอดได้รับการดูแลครบ 3 ครั้งตามเกณฑ์ เท่ากับร้อยละ 100 จากการดำเนินงานการอนามัยแม่และเด็กยังคงพบว่าการฝากครรภ์ก่อน 12สัปดาห์ การคลอดที่บ้านส่งผลให้พบปัญหาการตกเลือดหลังคลอด การติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำ โครงการอนามัยแม่และเด็ก ลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ มีภาวะโภชนาการดีตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ มีการตั้งครรภ์เมื่อพร้อมตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ไปรับการตรวจสุขภาพเร็วที่สุดตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ รับการตรวจครรภ์เป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ฝากครรภ์อย่างน้อย 8 ครั้ง และได้รับการคลอดในโรงพยาบาลระยะตั้งครรภ์เป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญสำหรับการให้กำเนิดทารก ให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา แม้ว่าการตั้งครรภ์ของสตรีจะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นภาวะที่หญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ทำให้หญิงตั้งครรภ์มีความไม่สุขสบายและมีความวิตกกังวล ดังนั้นจึงจำเป็นที่หญิงตั้งครรภ์ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองและทารกในครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดอย่างปลอดภัย รวมทั้งเตรียมรับบทบาทการเป็นมารดาที่ดีมีคุณภาพ สามารถเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาภายหลังคลอดได้อย่างถูกต้อง เมื่อมารดาได้รับความรู้และได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยจะเริ่มตั้งแต่มารดาวางแผนการตั้งครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ ฝากครรภ์ตามนัด 8 ครั้งตามเกณฑ์อย่างมีคุณภาพ เพื่อก้าวเข้าสู่บทบาทของการคลอด ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดโครงการนี้ขึ้น โดยทำการอบรมเป็นกลุ่ม ใช้วิธีการสอนอย่างมีแบบแผน ส่งเสริมการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และติดตามการฝากครรภ์อย่างต่อเนื่อง 8 ครั้งตามเกณฑ์ ตลอดจนติดตามหลังคลอดอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1. เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธ์มีสุขภาพที่ดีสมบูรณ์เตรียมพร้อมกับการตั้งครรภ์และพร้อมกับการดูแลบุตรที่ดีได้ 2. เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ 3 .เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ 4 .เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อนคลอดครบ 8 ครั้งตามเกณฑ์ 5 เพื่อส่งเสริมการคลอดที่โรงพยาบาล

กิจกรรม/การดำเนินงาน

1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพและการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์,ช่วงตั้งครรภ์,คลอดและหลังคลอด จัดอบรมการให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. หญิงตั้งครรภ์ มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงการฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ และฝากครรภ์ครบ 8ครั้งตามเกณฑ์
   
2. หญิงตั้งครรภ์ปกติและหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง มีการดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง และได้รับการฝากครรภ์อย่างมีคุณภาพ

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น