โครงการ "ลูกประคบ ลดปวดเมื่อย"
| ชื่อโครงการ | โครงการ "ลูกประคบ ลดปวดเมื่อย" |
| รหัสโครงการ | 67-L2995-1-15 |
| ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
| หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
| ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางมะรวด |
| วันที่อนุมัติ | 9 พฤศจิกายน 2566 |
| ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
| กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2567 |
| งบประมาณ | 15,325.00 บาท |
| ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูรฮีดายะห์ เจะเตะ |
| พี่เลี้ยงโครงการ | คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลบ้านกลาง |
| พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี |
| ละติจูด-ลองจิจูด | 6.839,101.521place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มวัยทำงาน | 59 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
|---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน และเกิดได้กับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดแขน หรือแม้กระทั่งปวดศีรษะ สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อในชีวิตประจำวันมักมาจากการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักหรือต่อเนื่อง โดยขาดการผ่อนคลาย หรือยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดความตึงเครียด เช่น การทำงาน การออกกำลังกาย หรือการเล่นกีฬา ซึ่งถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของประชาชนทั่วไป โดยทั่วไป อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมักหายเองได้ใน 1-5 วัน แต่บางครั้งอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดไม่สบายตัวอยู่ไม่น้อย หากทิ้งไว้ก็อาจเสี่ยงต่ออาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ การดูแลตนเองในเบื้องต้นอาจช่วยบรรเทาปวดและลดความเสี่ยงของผลกระทบจากอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ เช่น เปลี่ยนอิริยาบถในการทำงาน ไม่นั่งหลังงอ ลุกยืนยืดเส้นสาย การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และการประคบสมุนไพร
การประคบสมุนไพรนั้น จัดเป็นกระบวนการดูแลสุขภาพทั้งด้านการรักษา การฟื้นฟู การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทย และเป็นภูมิปัญญาไทยที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการส่งเสริมการใช้แพทย์แผนไทยในระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการประคบ
| วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
|---|---|---|---|
| 1 | 1.ร้อยละ 80 ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในการนำภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
2.ร้อยละ 80 ประชาชนสามารถทำลูกประคบสมุนไพร เพื่อส่งเสริมสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว
|
| hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
| วันที่ | กิจกรรม | 59 | 15,325.00 | 1 | 15,325.00 | 0.00 | |
| 11 ม.ค. 67 | จัดอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติเกี่ยวกับการทำลูกประคบสมุนไพร | 59 | 15,325.00 | ✔ | 15,325.00 | 0.00 | |
| รวมทั้งสิ้น | 59 | 15,325.00 | 1 | 15,325.00 | 0.00 | ||
- ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในการนำภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ประชาชนสามารถทำลูกประคบสมุนไพร เพื่อส่งเสริมสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2566 11:21 น.