ส่งเสริมการบริโภคอาหารปลอดภัย ร่วมใจปลูกผัก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
ชื่อโครงการ | ส่งเสริมการบริโภคอาหารปลอดภัย ร่วมใจปลูกผัก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 |
รหัสโครงการ | 67-L7258-02-25 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชุมชนสุภาพอ่อนหวาน |
วันที่อนุมัติ | 26 มกราคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2568 |
งบประมาณ | 29,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวิจิตรา ทองรักษา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.01,100.474place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันคนไทยติดอันดับสองของคนที่มีภาวะโรคอ้วนที่สุดในอาเซียน เป็นผลมาจากพฤติกรรมการ บริโภคของคนไทย ซึ่งข้อมูลในปี 2564 ประเทศไทยมีคนเป็นโรคอ้วนมากถึง 26 ล้านคน หรือสัดส่วน 46.2 % ของคนทั้งประเทศ จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พฤติกรรมการบริโภคของคนไทย หลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยหันมาทำอาหารรับประทานเอง 57.5% แต่กลับรับประทานผักและผลไม้ลดลง 8.3 % และ 10.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ คนไทยมีความเครียด ๓๙% นอนหลับยากมากขึ้น 16.7% มัน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 29.3% และดื่มเครื่องดื่มรสหวานเพิ่มขึ้น 18.7% รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 18.3% อาหารกระป๋อง 15.6% ขนมกรุบกรอบ 13.6% และขนมหวานหรือลูกกวาด 6.8% พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของ การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด และอาจทำให้ ภาวะของโรครุนแรงขึ้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเกณฑ์มาตรธานการบริโภคผักและผลไม้ใน 1 วัน ในผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปไม่ควรน้อยกว่า 400 กรัม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่จะให้ผลดีต่อสุขภาพ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ถึง 50% ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 30% ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ 6% โรคมะเร็งทางเดินอาหาร กระเพาะ อาหาร หลอดอาหาร 1-6% และยังช่วยลดน้ำหนักตัวได้ เพราะผักให้พลังงานต่ำ และที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐและ ภาคเอกชนได้พยายามรณรงค์ให้คนไทยหันมาบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น โดยผุดแคมเปญ "ผลักดันให้ผักนำ" ให้ทุกมื้อที่ รับประมานอาหารให้นึกถึงผักก่อนเป็นลำดับแรก เทคนิคในการรับประทาน เช่นใน 1 จานแต่ละมือแบ่งผักให้ได้สัก ครึ่งหนึ่ง หรือแบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยสูตร 2-1-1 คือ ผัก 2 ส่วน ข้าว 1 ส่วน และเนื้อสัตว์ 1 ส่วน ซึ่งสาเหตุที่คนไม่ รับประทานผักส่วนหนึ่งเพราะมีความกังวลในเรื่องของสารเคมีตกค้างในผักผลไม้ ชุมชนสุภาพอ่อนหวาน มีพื้นที่ 150,000 ตารางเมตร หรือ 0.15 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 13 ซอย จำนวนครัวเรือน 336 ครัวเรือน จำนวนประชากรทั้งสิ้น 992 คน ประชากรแฝง 77 ครัวเรือน 206 คน สภาพพื้นที่ชุมชนสุภาพอ่อนหวานเป็นชนชนชนทในเมืองที่มีความเจริญและมีการขยายตัวทั้งทั้งห้านศรษฐกิจและสังคม พฤติกรรมเสี่ยงของสมาชิกในครัวเรือน ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปี 68.15 % ไม่ได้ออกกำลังกาย 51.11% เจ็บป่วย ด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 28.53% โรคความดันโลหิตสูง 43.12 % โรคไขมันในเลือดสูง 40.37% โรคเบาหวาม 12.84 % และดัชนีมวลกาย (ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปตามเกณฑ์กระทรวงสาธารณสุข) มีผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนระดับ 1 คิดเป็น 36.85 % อ้วนระดับ 2 คิดเป็น 26.76 % อ้วนดับ 3 คิดเป็น 5.63 ในปี 2565-2566 คณะกรรมการชุมชน ชมรมผู้สูงอายุ อสม. และภาคีเครือข่าย ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายในชุมชน และรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนมีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน มีการจัดกิจกรรมลด ปริมาณขยะอินทรีย์ภายในชุมชน โดยการทำถังขยะเปียกและถังน้ำหมักชีวภาพ เพื่อส่งเสริมให้ครัวเรือนในชุมชนชนนำน้ำ หมักไปใช้ประโยชน์ โดยครัวเรือนบริเวณชอยสภาพอ่อนหวานได้รวมกลุ่มกันกว่า 20 ครัวเรือน จัดทำ "แปลงผักขยะ บุฟเฟต์" และมีการขยายผลไปยังซอย 8 กาญจนวณิชย์ แต่ถึงอย่างไรการปลูกผักสวนครัวไมชุมชนก็ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่ ยังซื้อผักจากท้องตลาดมาบริโภคภายในครัวเรือน ดังนั้นเพื่อ ส่งเสริมขยายผลให้ครัวเรือนในชุมชนสุภาพอ่อนหวาน หันมาดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว ไส้ใจการบริโภค อาหารตั้งแต่ต้นทาง ครัวเรือนมีพฤติกรรมการปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานเอง มีการรับประทานผักและผลไม้ที่ ปลอดภัยอย่างเพียงพอ คณะกรรมการชุมชมชนสุภาพอ่อนหวาน จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการบริโภคอาหารปลอดภัย ร่วมใจปลูกผัก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อส่งเสริมให้ครัวเรือนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การบริโภคอาหารปลอดภัยและการปลูกผักสวนครัว ปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน -ร้อยละ ๘๐ ของครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่ถูกต้องในเรื่องการบริโภคอาหาร ปลอดภัยและการปลูกผักสวนครัว |
||
2 | ๒. เพื่อส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้ บริโภคในครัวเรือน
|
||
3 | ๓. เพื่อให้ประชาชนมีแหล่งเรียนรู้ด้านสวนผักคนเมือง
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 0.00 | 2 | 29,900.00 | -29,900.00 | |
1 มี.ค. 67 - 31 ส.ค. 67 | 1.กิจกรรมอบรมความรู้การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษสำหรับชุมชนเมือง | 0 | 0.00 | ✔ | 22,900.00 | -22,900.00 | |
1 มี.ค. 67 - 31 ส.ค. 67 | 2.กิจกรรมเเลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริโภคอาหารปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ "นัดวันกินผัก ปลูกผัก:ปลูกใจ" | 0 | 0.00 | ✔ | 7,000.00 | -7,000.00 | |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 2 | 29,900.00 | -29,900.00 |
ครัวเรือนมีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้บริโภค ประชาชนในชุชนมีสุขภาพดี มีพฤติกรรมารบริโภคผักผลไม้เพิ่มมากขึ้น และเกิดศูนย์เรียนรู้ผักคนเมือง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 16:10 น.