โครงการ ม.4 หวานใจเดิมเพิ่มเติมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย ปีงบประมาณ 2567
ชื่อโครงการ | โครงการ ม.4 หวานใจเดิมเพิ่มเติมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย ปีงบประมาณ 2567 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 |
วันที่อนุมัติ | 6 กุมภาพันธ์ 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 ตุลาคม 2567 |
งบประมาณ | 15,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังตลอดชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง จะเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ป่วย จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนไทยที่มีความดันโลหิตสูงจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ประมาณ ๓.๗ เท่าของผู้ที่มีความดันโลหิตปกติและยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดส่วนปลาย และภาวะหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาเกือบครึ่งหนึ่งจะตายด้วยโรคหัวใจ ส่วนโรคเบาหวานจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตาบอดไตวายและถูกตัดอวัยวะ เป็นต้น ปัญหาของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานที่พบบ่อยที่สุด คือการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง ยังพบการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มมันและหวาน สาเหตุคือ ความเคยชิน มีความจำเป็นต้องประกอบอาชีพนอกบ้าน ไม่มีเวลาในการประกอบอาหารเอง จึงหาซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทาน รวมถึงการขายการออกกำลังและไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ถูกหลักได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จากการดำเนินการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของหมู่ที่ ๔ ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง ในปี 2566 พบว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๓๕ ปี ได้รับการคัดกรอง ๗๕ คน ผลการคัดกรองรอบที่ ๑ พบว่า พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน ๓๒ คน และกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน ๒๙ คน หลังจากนั้น นำกลุ่มเสี่ยงฯ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (3อ๒ส) และตรวจติดตามในรอบ ๓ เดือน ผลการคัดกรองรอบที่ ๒ พบว่า พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน ๑๑ คน และ และกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน ๒๒ คน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ทำให้กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงลดลง และในปี ๒๕๖๗ ชมรม อสม.หมู่ที่ ๔ ตำบลนิคมพัฒนา ได้ลงพื้นที่และติดตามกลุ่มเสี่ยงฯ ในเดือน มกราคม ๒๕๖๗ พบว่า กลุ่มเสี่ยงที่ผ่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เมื่อปี ๒๕๖๖ มีการออกกำลังกายน้อยลง และมีการคัดกรองซ้ำ พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยง สัมฤทธิ์ผลในมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น ต่อยอดการดำเนินงานชมรมหวานใจ ทางชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ ๔ ตำนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จึงได้จัดทำโครงการ ม.4 หวานใจเดิมเพิ่มเติมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย ปีงบประมาณ 2567 ขึ้นเพื่อให้กลุ่มเสี่ยงมีความรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้อง มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควบคู่การออกกำลังกาย และตระหนักถึงการออกกำลังกาย และมีกิจกรรมออกกำลังอย่างต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑. เพื่อให้ประชาชนและกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้อง 2. เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยโรคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควบคู่การออกกำลังกาย 3. เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงตระหนักถึงการออกกำลังกาย และมีกิจกรรมออกกำลังอย่างต่อเนื่อง
|
ขั้นวางแผน (Plan) ๑. ประชุมวางแผนจัดทำโครงการ 2. แบ่งกิจกรรมรับผิดชอบ 3. จัดทำโครงการเพื่อขอรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.นิคมพัฒนา ขั้นดำเนินการ (Do) 1. ประชาสัมพันธ์โครงการ 2. ดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกิจกรรมดังนี้ ๒.๑ อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคควบคู่การออกกำลังกายที่ถูกวิธี - จำนวน ๑ วัน ๒.๒ 2.กิจกรรมการออกกำลังกาย - กิจกรมออกกำลังกาย (เต้นแอโรบิก) สัปดาห์ ๓-๕ วัน อย่างต่อเนื่อง ขั้นประเมินผล (Check) ๑. รายงานสรุปผลโครงการ ๒. รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
- กลุ่มป่วยและกลุ่มเสี่ยงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและมีออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง
- คนในชุมชนมีกิจกรรมออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ป่วยรายใหม่และกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 11:43 น.