โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ รู้ตน ลดเสี่ยง เลี่ยงโรค ในกลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ รู้ตน ลดเสี่ยง เลี่ยงโรค ในกลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน |
รหัสโครงการ | 67-L1481-1-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าพญา |
วันที่อนุมัติ | 14 กุมภาพันธ์ 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 11,430.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางธัญญาลักษณ์ นาคบรรพ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางธัญญาลักษณ์ นาคบรรพ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่าพญา อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.354,99.674place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-Communicale diseases) เช่น โรคหัวใจ-หลอดเลือด มะเร็ง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตและคนไทยมากกว่า 14 ล้านคนกำลังเผชิญกับโรค NCDs มากกว่า 4.8 ล้านคนเป็นโรคเบาหวาน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 ล้านคนในปี 2583 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุว่า ในปี2566 ได้มีการสำรวจผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั้งประเทศ โดยพบประชาชนจำนวน 14 ล้านคนได้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีการลงพื้นที่คัดกรองพบประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง และผู้สงสัยป่วยใหม่ความดันโลหิตสูงในแต่ละพื้นที่เพิ่มมากขึ้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ระบุอีกว่า คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มสูงปีละ 3 แสนคน ซึ่งต่อเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ขณะทั่วโลกพบป่วยโรคเบาหวาน 537 ล้านคน อีก 90 เปอร์เซ็นต์ป่วยเบาหวานชนิด 2 ยังไม่ได้วินิจฉัย คาดปี 2588 เพิ่มถึง 783 ล้านคน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าพญา จึงได้จัดทำโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ รู้ตน ลดเสี่ยง เลี่ยงโรค ในกลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน” ขึ้นมา เพื่อต้องการนำกลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ที่พบจากการค้นพบจากการคัดกรองประชากรอายุ 35 ปี ขึ้นไป ในหมู่บ้าน เข้าสู่การอบรมให้ความรู้ และนำไปสู่การติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ทำให้ผู้เข้ารับอบรมได้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและเหมาะสมยิ่งขึ้น ห่างไกลจากกลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเรื่องอันตรายจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน และมีความรู้ในด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในการป้องกันโรคโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในระยะเวลา 1 เดือน ผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 60 คน ทำแบบประเมินความรู้หลังอบรมผ่านเกณฑ์อย่างน้อย 48 คน คิดเป็นร้อย 80 |
||
2 | ผู้ที่เข้ารับการอบรม หลังจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเป็นระยะเวลา 1 เดือน ได้เข้ารับการวัดค่าความดันโลหิต และค่าน้ำตาลในเลือดซ้ำ ในรายที่พบว่าผิดปกติ จะรับการส่งตัวไปพบแพทย์ที่โรงพยาลเพื่อตรวจรักษาต่อไป ผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 60 คน ได้เข้ารับการวัดค่าความดันโลหิต และค่าน้ำตาลในเลือดซ้ำหลังจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเป็นระยะเวลา 1 เดือน จำนวน 60 คน คิดเป็นร้อย 100 |
- ประชุมสมาชิกชมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลท่าพญา เพื่อค้นหาปัญหา
- สำรวจกลุ่มเป้าหมาย ในเขตที่ อสม รับผิดชอบในแต่ละครัวเรือน
- นำเสนอปัญหาพร้อมเขียนโครงการ/ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านหอกระจายข่าวและอสม.
- แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ
- กำหนดปฏิทินการดำเนินโครงการ
- ดำเนินการประสานงานกับวิทยากร ระยะดำเนินการ
- อบรมให้ความรู้เรื่องโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
- ติดตามการตรวจวัดค่าความดันโลหิตและค่าน้ำตาลในเลือด หลังจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเวลา 1 เดือน ระยะหลังดำเนินการ
- ติดตามประเมินผล
- สรุปผลการดำเนินงาน
- ประเมินผล/สรุปโครงการ
1 .กลุ่มเสี่ยงและผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจนมีค่าความดันโลหิต และค่าน้ำตาลในเลือดที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ 2. ผู้สงสัยป่วยใหม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ที่ไม่สามารถลดค่าความดันโลหิต และค่าน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไป 1 เดือน ต้องได้รับการส่งตัวไปพบแพทย์ที่โรงพยาลเพื่อตรวจรักษาต่อไป
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 11:07 น.