โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในเขตหน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลแม่ลาน
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในเขตหน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลแม่ลาน |
รหัสโครงการ | 67-L3020-01-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลแม่ลาน |
วันที่อนุมัติ | 28 กุมภาพันธ์ 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 30,160.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | อาฟีฟะห์ อาแวกือจิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.677,101.266place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 0.00 | |||||
รวมงบประมาณ | 0.00 |
คำเตือน : รวมงบประมาณของทุกงวด (0.00 บาท) ไม่เท่ากับ งบประมาณโครงการ (30,160.00 บาท)
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 70 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประชาชนไทยทั้งในแง่ภาระโรค และอัตราการเสียชีวิตอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (30 - 69 ปี) จากโรคไม่ติดต่อที่สำคัญประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคเบาหวาน, ภาวะความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงที่สุดเท่ากับ 44.3 รายต่อประชากรแสนคน และอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้ชายสูงกว่าเพศหญิง (กรมควบคุมโรค, 2562) สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว มักเกิดจาก“กรรมพันธุ์และพฤติกรรม” เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ ผู้ป่วยและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับความรู้เรื่องโรค รวมไปถึงความรู้เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งได้รับการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ระยะต้น ก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นคนปกติโดยปราศจากโรคแทรกซ้อน
ในเขตพื้นที่ของหน่วยบริการปฐมภูมิมีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 64 คน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 117 คน ซึ่งโรคเหล่านี้เกิดจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงร่วมที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การขาดการออกกำลังกายที่ถูกต้อง การรับประทานอาหารที่มันจัด เค็มจัด หวานจัดรวมทั้งผักและ ผลไม้ที่ไม่เพียงพอ ความเครียด การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา เป็นต้น การดำเนินงานด้านสาธารณสุขในชุมชน จำเป็นต้องมีเครือข่ายสุขภาพที่สำคัญ คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน หรือ อสม.ที่ให้บริการแก่ชุมชนเป็นรูปแบบหนึ่งของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน อสม. คือ ประชาชนในหมู่บ้าน ที่มีใจรักในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข สมัครใจ และเต็มใจ ที่จะช่วยงานในชุมชนเป็นที่ยอมรับนับถือของ ชาวบ้านปฏิบัติงานด้วยความเสียสละซึ่งต้องผ่านกระบวนการอบรมให้ความรู้ จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอและจะต้องมีการ พัฒนาด้านทักษะความรู้ให้ทันต่อสภาพปัญหาด้านสาธารณสุข ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการรักษาพยาบาลเบื้องต้นตลอดจนเป็นผู้นำในการสร้างสุขภาพให้แก่ประชาชนในชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถ จัดระบบบริหารจัดการด้านสุขภาพชุมชนได้อย่างเหมาะสม ด้วยชุมชนเอง ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)และองค์กรต่างๆ
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ในหน่วยบริการปฐมภูมิ ได้ตระหนักถึงภาวะสุขภาพของประชาชนในกลุ่มดังกล่าว และได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริม ป้องกัน และควบคุมโรค โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ที่ดีขึ้นจึงได้จัดทำโครงการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ "รู้ตน ลดเสี่ยง เลี่ยงโรค" ตามหลัก 3อ2ส เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ทักษะในการจัดการตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดการเกิดโรคเรื้อรังได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถดูแลตนเองตามหลัก 3อ2ส ได้อย่างถูกต้อง ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถดูแลตนเองตามหลัก 3อ2ส ได้อย่างถูกต้อง |
90.00 | |
2 | เพื่อให้อัตราป่วยด้วยโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ จากกลุ่มเสี่ยงลดลง
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 230 | 30,160.00 | 0 | 0.00 | |
29 เม.ย. 67 | ประชุมเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกับอสม. เพื่อคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย อสม. จำนวน 41 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 9 คน | 50 | 1,500.00 | - | ||
15 พ.ค. 67 | อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จัดกิจกรรมเวียนฐาน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค | 70 | 16,360.00 | - | ||
19 มิ.ย. 67 - 24 ก.ค. 67 | ติดตามเยี่ยมบ้านวัดความดันโลหิตสูง 2 ครั้ง พร้อมประชุมสรุปผลการติดตาม อสม. จำนวน 41 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 9 คน | 50 | 10,500.00 | - | ||
7 ส.ค. 67 | ประชุมถอดบทเรียนกับ อสม. และผู้นำชุมชน ในการดูแล ตามบริบทหมู่บ้าน อสม. จำนวน 41 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 9 คน จนท.อบต จำนวน 5 คน ผู้นำชุมชน จำนวน 5 คน | 60 | 1,800.00 | - |
ขั้นเตรียมการ
1.จัดประชุมชี้แจงโครงการให้แก่คณะทำงาน
2.วางแผนและกำหนดรูปแบบกิจกรรม
ขั้นดำเนินการ
1.ประชุมผู้ดำเนินการโครงการทุกฝ่าย เพื่อเตรียมดำเนินกิจกรรม
2.ดำเนินกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ โดยกิจกรรมแบ่งเป็นดังนี้
2.1 ประชาสัมพันธ์โครงการ
2.2 แกนนำอสม.ทั้งหมดในเขตรับผิดชอบจับคู่กับกลุ่มเป้าหมายในการช่วยดูแลสุขภาพ
2.3 ทำข้อตกลงร่วมกัน มอบหมายภารกิจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระตุ้นเตือนการดูแลสุขภาพ
2.4 จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ 3 อ 2 ส และมีการติดตามแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เป็นที่ปรึกษาให้แก่กัน
2.5 จัดทำแบบบันทึกสุขภาพ
2.6 เตรียมกลุ่มเป้าหมาย โดยการประเมินภาวะสุขภาพของผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน วัดรอบเอว
3. สรุปผลการดำเนินโครงการ
4. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามโครงการ
- ประเมินโครงการ ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ
- ประเมินสุขภาพ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ประเมินดัชนีมวลกาย ตรวจความดันโลหิต ประเมิน CVD Risk ในผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอสม.ที่เข้าร่วมโครงการ เปรียบเทียบก่อนและหลังร่วมกิจกรรม
1.ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถดูแลตนเองตามหลัก 3อ2ส ได้อย่างถูกต้อง และเป็นแบบอย่างในการส่งเสริมสุขภาพให้กับชุมชนได้
2 ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
3 ประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
4 อัตราป่วยด้วยโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ จากกลุ่มเสี่ยงลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2567 11:21 น.