โครงการนวัตกรรมสลามานามัย แพทย์แผนไทยห่วงใยสุขภาพกายใจผู้สูงอายุ ปี 2567
ชื่อโครงการ | โครงการนวัตกรรมสลามานามัย แพทย์แผนไทยห่วงใยสุขภาพกายใจผู้สูงอายุ ปี 2567 |
รหัสโครงการ | 67-L8423-1-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านเจ๊ะเก |
วันที่อนุมัติ | 21 มีนาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2567 - 30 กันยายน 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2567 |
งบประมาณ | 19,750.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวนูรฮานันท์ ตาปู |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.277,101.691place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประเทศไทย กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึงร้อยละ 71 ของการ เสียชีวิตทั้งหมดสูงเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ สถานการณ์ผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของไทยในปี 2553 (WHO, 2013) มีประมาณ 400,000 คน คิดเป็นร้อยละ 73 สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก และประมาณร้อยละ 29 ของการเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอุบัติขึ้นในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี สอดคล้องกับสถิติสาธารณสุขปี 2558 (สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์, 2559) จากฐานข้อมูลสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในปี 2565 จำนวน 6.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 2 แสนคน และผู้ป่วยโรคเบาหวานในปี 2565 จำนวน 3.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1.5 แสนคน จากข้อมูลการเจ็บป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ปี 2564-2566 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงเขตรับผิดชอบที่เป็นผู้ป่วยรายเก่าทั้งหมด 487,529 และ 577 รายตามลำดับ คิดเป็น 9,511.71,10,332.03 และ11,269 /ต่อประชากรแสนคนตามลำดับ และป่วยด้วยโรคเบาหวานทั้งหมดจำนวน 149,163 และ 186 รายตามลำดับ คิดเป็น 2,910.15,3,111.87 และ3,502.82 /ต่อประชากรแสนคนตามลำดับ และป่วยทั้งโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน จำนวน 56,63 และ 71 ราย ตามลำดับ คิดเป็น 1,093.75,1,202.74 และ 1,337.09 /แสนประชากรแสนคน ตามลำดับ อีกทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเจ๊ะเก ได้มีการดำเนินงานคัดกรองกลุ่มเป้าหมายเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพทุกปี ซึ่งในปี 2566 ได้มีการคัดกรอง กลุ่มเป้าหมายประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 2,432 ราย และได้รับการคัดกรอง จำนวนทั้งสิ้น 2,353 ราย คิดเป็นร้อยละ 96.75 และพบว่าในกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการคัดกรอง เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกประเภท (เสี่ยงสูง/ปานกลาง/ต่ำ) จำนวน 653 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.75 นี่คือสถิติที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งจากการคัดกรองในรอบปี 2566 ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยเดิมก็อยู่ในอัตราที่สูงอยู่แล้วและยังพบกลุ่มเสี่ยงเป็นสถิติตัวเลขเช่นนี้จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการป้องกันและควบคุม ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องควบคุมป้องกันจากภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย และกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องป้องกันไม่ให้เป็นโรค จึงจำเป็นที่จะต้องส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเหล่านี้ จากพฤติกรรมที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพสู่พฤติกรรมที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะมหันตภัยเงียบอย่างโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเจ๊ะเก จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการนวัตกรรมสลามานามัย แพทย์แผนไทยห่วงใยสุขภาพกายใจผู้สูงอายุ ปี 2567 เพื่อเป็นนวัตกรรมรูปแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังในพื้นที่ และลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผลการวัดความรู้อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 80 |
||
2 | กลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น ร้อยละ 60 |
- กลุ่มเสี่ยงมีความรู้เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผลการวัดความรู้อยู่ในระดับสูง
ร้อยละ 80 - กลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น ร้อยละ 60
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 11:51 น.