โครงการชุมชนต้นแบบ หนูน้อยฟันดี ปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการชุมชนต้นแบบ หนูน้อยฟันดี ปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L/2514-1-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลาโละ |
วันที่อนุมัติ | 28 เมษายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 13,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวมารียัมมะเกะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นาย อรรถพล ขวัญเกิด |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลลาโละ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.343,101.59place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 พ.ค. 2560 | 31 ส.ค. 2560 | 13,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 13,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 90 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ฟันน้ำนมเป็นฟันชุดแรกของมนุษย์ โดยฟันหน้าล่างจะขึ้นมาเป็นซี่แรกเมื่อมีอายุประมาณ ๖ – ๙ เดือน ตามพัฒนาการฟันน้ำนมจะขึ้นครบ ๒๐ ซี่ เมื่อมีอายุครบ ๒ ปีโดยส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญและให้การดูแลรักษาฟันน้ำนมเท่าทีควร เพราะคิดว่าฟันแท้สามารถขึ้นมาแทนที่ได้และไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาฟันน้ำนม ความจริงแล้วฟันแท้จะดีได้ขึ้นอยู่กับฟันน้ำนม เพราะฟันน้ำนมไม่ใช่แค่ช่วยให้รอยยิ้มที่สวยงาม แต่ยังช่วยเป็นแนวในการขึ้นของฟันแท้ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก รวมถึงปัญหาการเจ็บป่วยด้วยโรคบางโรค โรคฟันผุในฟันน้ำนมยังเป็นปัญหาที่พบมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ เด็กอายุ ๓ ปี ที่มีฟันครบ ๒๐ ซี่พบฟันผุถึงร้อยละ ๖๑และเมื่ออายุครบ ๕ ปีพบฟันผุถึงร้อยละ ๘๐ การรักษาฟันผุในเด็กทำได้ยาก เนื่องจากเด็กมักจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษา ดังนั้นการป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยควรดำเนินการเริ่มที่หญิงตั้งครรภ์จนเด็กเกิดไปถึงเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนและสามารถแปรงฟันด้วยตังเองจนสะอาด แต่ด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบันการให้ความสำคัญ และการดูแลฟันลูกในพื้นที่ของจังหวัดชายแดนใต้ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยากและทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่สุขภาพช่องปากที่จะเกิดปัญหา แต่ยังส่งผลกระทบต่อเด็กในหลายด้าน และมีการวิจัยว่าโรคฟันผุมีผลต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่ควรแก้ไขตั้งแต่แรกเริ่ม
จากข้อมูลการสำรวจสถานการณ์โรคฟันผุในเด็กอายุ ๓ ปีในเขตตำบลลาโละ อำเภอรือเสาะ พ.ศ.๒๕๕๘จำนวน ๗๓ คนพบเด็กที่มีฟันผุ ๕๙ คนคิดเป็นอัตราความชุกโรคฟันผุสูงถึง ร้อยละ ๘๐.๘๒ค่าเฉลี่ยโรคฟันผุคิดเป็นร้อยละ ๑๓.๒๓ ซี่/คน จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปัญหาสุขภาพช่องปากอยู่ในขั้นรุนแรงควรแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากปล่อยไว้และไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องและต่อเนื่อง อาจเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กในระยะยาวส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเด็กได้ในอนาคต
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลาโละ ได้เห็นถึงปัญหา และความสำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากในเด็กจึงได้จัดทำ โครงการชุมชนต้นแบบ หนูน้อยฟันดี ปี ๒๕๖๐ เพื่อดูแลตั้งแต่สุขภาพช่องปากเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึงเด็กวัยก่อนเรียน กระตุ้นให้ผู้ปกครอง ผู้เลี้ยงดูเด็กได้ให้ความสำคัญ และให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพช่องปากของลูกและเด็กในชุมชน เน้นการป้องกันก่อนการรักษา และเกิดประสิทธิผลในการดูแลสุขภาพช่องปากในระยะยาว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กของเด็กอายุ ๐ – ๖๐ เดือนได้รับการทาฟลูออไรด์วานิช เด็กของเด็กอายุ๐ – ๖๐ เดือนได้รับการทาฟลูออไรด์วานิช ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ |
||
2 | เพื่อให้ผู้ปกครองผู้เลี้ยงดูเด็กอายุ ๐ – ๖๐เดือน ได้รับการฝึกแปรงฟันให้เด็ก ผู้ปกครองผู้เลี้ยงดูเด็กอายุ ๐ – ๖๐ เดือน ได้รับการฝึกแปรงฟันให้เด็กไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ |
||
3 | เพื่อเพิ่มคุณภาพของการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ปกครอง ผู้เลี้ยงดูเด็ก ผู้ปกครอง ผู้เลี้ยงดูเด็ก สามารถดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กได้ดี |
||
4 | เกิดการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายสาธารณสุข มีภาคีเครือข่ายสนับสนุนในการดำเนินโครงการ |
||
5 | สร้างกระแสงานทันตสาธารณสุขในชุมชน มีชุมชนต้นแบบในการดำเนินงานทันตสาธารณสุข |
ขั้นวางแผน(Plan)
๑. กำหนดกลุ่มเป้าหมายในเขตรับผิดชอบ
๒. สำรวจข้อมูลทางทันตสุขภาพในเขตรับผิดชอบ
๓. เขียนแผน/โครงการ เพื่อเสนออนุมัติ
๔.. ประชุมชี้แจงโครงการแก่อาสาสมัครสาธารณสุขเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการให้ชุมชนรับทราบ
๕. ดำเนินงานตามโครงการ
ขั้นดำเนินการ(Do)
๑. กิจกรรม สร้างเกราะป้องกัน เด็กลาโละฟันดี
-จัดทำฐานข้อมูลสุขภาพช่องปากเด็กอายุ0-5 ปีให้ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน
-การตรวจสุขภาพช่องปากเด็กอายุ 0-5 ปี
-คัดกรองและประเมินความเสี่ยงเด็กปฐมวัยตามเกณฑ์ที่กำหนด
-ให้ทันตสุขศึกษา และ สอน/ฝึกวิธีการทำความสะอาดช่องปากเด็กแก่ผู้ปกครองของเด็ก
-ทาฟลูออไรด์วานิชในเด็ก 0-5 ปี
-ส่งต่อเด็กที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่ข่าย
-ติดตามเยี่ยมบ้านและจัดบริการส่งเสริมป้องกันแบบเชิงรุกในชุมชน
๒. กิจกรรม ร้อยมือ สร้างสรรค์ฟันดี
-จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม.ในเขต ในการดูแลและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพช่องปากแก่
เด็ก 0-5 ปี ในชุมชน
๓. กิจกรรม ลูกน้อยฟันสวย ด้วยมือแม่
-มหกรรมการแปรงฟันเคลื่อนที่ในชุมชน ทั้ง 4 หมู่บ้าน
-ค้นหา”ซุปตาร์ฟันน้ำนม”ในชุมชน
ขั้นตรวจสอบและประเมินผล(Check)
๑.ประเมินผลกิจกรรมกลุ่มเด็กอายุ ๐-๖๐ เดือน จากผลการตรวจสุขภาพช่องปากและการทาฟลูออไรด์วานิช
๒.ประเมินผลกิจกรรมกลุ่มเด็กอายุ ๐-๖๐ เดือน จากผลการตรวจสุขภาพช่องปากและผลคะแนนการแปรงฟัน
๓.ประเมินการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการแกไขปัญหาทันตสุขภาพของชุมชน
๔.สรุปผลการดำเนินงาน
ขั้นปรับปรุงและพัฒนา(Action)
๑.รายงานผลการดำเนินงาน
๒.ประชุมร่วมกันเพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
๓.ปรับปรุง/พัฒนาวางแผนการดำเนินงานในปีต่อไป
๑.เด็กของเด็กอายุ ๐ – ๖๐ เดือนได้รับการทาฟลูออไรด์วานิชอย่างมีคุณภาพ๒.ผู้ปกครองเด็กอายุ ๐ – ๖๐ เดือนได้รับการฝึกแปรงฟันให้เด็กที่ถูกวิธีและสามารถถ่ายทอดความรู้สู่คนในชุมชน ๓.ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก อสม.และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในการส่งเสริม ป้องกันและดูแล ทันตสุขภาพเด็กและของตัวเองได้๔.ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559 13:21 น.