กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการเสริมสร้างแรงจูงใจ เพื่อนำบุตรหลานรับภูมิคุ้มกันโรค ปี 2568
รหัสโครงการ ุ68-L4145-02-03
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ 6
วันที่อนุมัติ 7 กุมภาพันธ์ 2568
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 กุมภาพันธ์ 2568 - 30 กันยายน 2568
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2568
งบประมาณ 28,960.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวมารีฮะ อาแด
พี่เลี้ยงโครงการ นางนิรันดาร์ ชุมประเวศ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด 6.502,101.063place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานปัญหาสุขภาพอุบัติใหม่ , แผนงานอนามัยแม่และเด็ก , แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 1 ก.พ. 2568 30 ก.ย. 2568 28,960.00
รวมงบประมาณ 28,960.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 80 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ร้อยละของคนในชุมชนที่มีความรู้ สามารถปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
85.00
2 ร้อยละของหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการทางสังคมเพื่อการเฝ้าระวังและจัดการโรคอุบัติใหม่ เช่น ข้อตกลง/ธรรมนูญ/มาตรการชุมชน เพื่อป้องกัน แก้ปัญหา และฟื้นฟูโรคติดต่ออุบัติใหม่ (เช่น มาตรการเกี่ยวกับตลาด การทำกิจกรรมทางศาสนา การสวมหน้ากากอนามัย การจัดงานพ
85.00

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีความสำคัญที่จะเป็นตัวป้องกันการเกิดโรคในอนาคต ซึ่งแน่นอนที่สุดการป้องกันย่อมจะดีกว่าการรักษาในภายหลัง การเกิดโรคไม่ว่าจะด้วยทฤษฎีทางการแพทย์หรือหลักการของศาสนา แทนที่จะให้เกิดโรคก่อนค่อยคิดหาวิธีหายา หาทางรักษาในภายหลังอาจจะเป็นสิ่งที่สายเกินไป หากเกิดโรคแล้วไม่สามารถรักษาได้ สร้างความเจ็บป่วย ทรมาน รำคาญใจและเสียเงินมากมาย ซึ่งไม่คุ้มค่าต่อผลเสียที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังหากมิได้รับภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายตั้งแต่แรกๆโดยการฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้เด็กอายุ 0-5 ปี ได้รับวัคซีนภูมิคุ้มกันโรคแก่ร่างกาย ซึ่งสามารถป้องกันโรคได้ 8 ชนิด ดังนี้ วัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด และไข้สมองอักเสบ ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคแต่ละตัวแต่ละชนิดควรได้รับตามช่วงอายุที่กำหนด และรับครบชุดตามเกณฑ์ เมื่ออายุครบ 5 ปี นับตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุวัคซีนพื้นฐาน หรือวัคซีนภาคบังคับไว้ในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทยเราเมื่อประมาณ 33 ปีมาแล้ว โดยค่อยๆ เพิ่มชนิดของวัคซีนที่ค้นพบใหม่เข้าไปเรื่อยๆ  จนครอบคลุมโรคสำคัญแทบทุกโรคในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เด็กๆ แทบทุกคนล้วนได้รับวัคซีนกันถ้วนหน้า ส่งผลให้โรคติดต่อร้ายแรงชนิดต่างๆ เช่น โปลิโอ,คอตีบ,ไอกรน,วัณโรค ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากโรคติดต่อเหล่านี้เป็นเชื้อโรคที่ติดต่อจากคนสู่คน บางโรคการติดต่อเกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า “การระบาด” ผลการระบาดแต่ละครั้ง ทำให้ผู้ติดเชื้อพิการ และเสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้นวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาลต่อมนุษย์ จากผลจากกการดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 3 ปีย้อนหลังเด็ก 0-5 ปี ได้รับความคอบคลุมการสร้างเสริมภูมิคุมกันโรค ดังนี้ ในปีงบประมาณ 2565 คิดเป็นร้อยละ 48.57 ในปีงบประมาณ 2566 คิดเป็นร้อยละ 50.54 ในปีงบประมาณ 2567 คิดเป็นร้อยละ 52.67 ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เป็นผลงานที่ต่ำ ประชาชนไม่เห็นความสำคัญของการรับวัคซีน ยังเป็นปัญหาที่สำคัญที่ควรได้รับการแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาในรูปแบบเดิมยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
      ทางชมรม อสม.(อาสาสมัครสาธารณสุข) ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาตอง จึงได้จัดทำโครงการเสริมสร้างแรงจูงใจ เพื่อนำบุตรหลานรับภูมิคุ้มกันโรค ปี 2568

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อเพิ่มจำนวนคนในชุมชนที่สามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้

ร้อยละของคนในชุมชนที่มีความรู้ สามารถปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

85.00
2 เพื่อเพิ่มหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการทางสังคม เพื่อการเฝ้าระวังและจัดการโรคอุบัติใหม่

ร้อยละของหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการทางสังคมเพื่อการเฝ้าระวังและจัดการโรคอุบัติใหม่ เช่น ข้อตกลง/ธรรมนูญ/มาตรการชุมชน เพื่อป้องกัน แก้ปัญหา และฟื้นฟูโรคติดต่ออุบัติใหม่ (เช่น มาตรการเกี่ยวกับตลาด การทำกิจกรรมทางศาสนา การสวมหน้ากากอนามัย การจัดงานพิธีต่าง ๆ มาตรการที่กักกันในชุมชน (Local Quarantine – LQ) มาตรการแยกกักในชุมชน (Home Isolation – HI) เป็นต้น

85.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
วันที่ชื่อกิจกรรมกลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)

วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อเพิ่มจำนวนคนในชุมชนที่สามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้

รวม 0 0.00 0 0.00

วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อเพิ่มหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการทางสังคม เพื่อการเฝ้าระวังและจัดการโรคอุบัติใหม่

รวม 0 0.00 0 0.00

ไม่ระบุวัตถุประสงค์

1 - 28 ก.พ. 68 ขั้นเตรียมการ 0.00 0.00 -
28 ก.พ. 68 - 1 ก.ย. 68 ขั้นดำเนินการ 0.00 28,960.00 -
1 - 30 ก.ย. 68 ขั้นหลังดำเนินการ 0.00 0.00 -
9 ก.พ. 68 ขั้นดำเนินการ 30.00 28,960.00 -
9 ก.พ. 68 1. ประเมินความก้าวหน้าการดำเนินงาน 0.00 0.00 -
9 ก.พ. 68 2. ประเมินตามวัตถุประสงค์ของโครงการ 0.00 0.00 -

หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้

 

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2568 15:19 น.