โครงการสุขภาพดี ชีวีมีสุข ตามวิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2568
ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาพดี ชีวีมีสุข ตามวิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2568 |
รหัสโครงการ | 68-L2489-1- |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บาเระเหนือ |
วันที่อนุมัติ | 17 เมษายน 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 10 มีนาคม 2568 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 64,860.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาเระเหนือ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.571,101.613place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ)
จากสภาพสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนตามสภาพจากเดิม ทำให้พฤติกรรมของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น พฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง อันนำไปสู่ ระบบการทำงานต่างๆของร่างกายเริ่มจะเสื่อมโทรมลง และมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งโรคเรื้อรัง Metabolic ได้แก่ โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะทนทุกข์ทรมาน และทำให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน และชีวิต นอกจากนี้โรคเบาหวานยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ
สถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี ในปี พ.ศ. 2565 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานสะสมจำนวน 3.3 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2564 มากถึง 1.5 แสนคน สำหรับการคัดกรองผู้ป่วยรายใหม่ในปี 2567 พบว่า การคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ยังไม่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานมากถึง 5 ล้านคนจากเป้าหมายทั่วประเทศ 22 ล้านคน ดังนั้นประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองโรคเบาหวานปีละ 1 ครั้ง ค่าระดับน้ำตาลในเลือดควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรกและรักษาได้เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและ อาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งสาเหตุโรคเบาหวานเกิดจากการทํางานของฮอร์โมนผิดปกติส่งผลให้เกิดภาวะนํ้าตาลในเลือดสูง หากน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะส่งผลให้อวัยวะเสื่อมสภาพเป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตา ไต หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองโรคเบาหวานที่พบได้บ่อยที่สุด คือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจาก ภาวะดื้ออินซูลิน ในระยะแรกอาจไม่มีอาการ มักตรวจพบเมื่อเช็กสุขภาพโดยบังเอิญในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนร่วมด้วย การดูแลป้องกันผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทำได้โดย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี ควบคุมอาหารลดอาหารหวาน มัน เค็ม พบแพทย์สม่ำเสมอ ใช้ยาตามแพทย์สั่ง หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งแพทย์ที่รักษาห้ามปรับยาเอง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นตรวจเท้าด้วยตัวเอง หากเป็นแผลควรรีบไปพบแพทย์ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
สถานการณ์ผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ของตำบลบาเระเหนือตั้งแต่ปี ปี 2564 ถึงปี 2566 เท่ากับ 5 คน ,4 คน,และ 2 คน ตามลำดับ และในปี 2567 ผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด จำนวน 199 คน และสามารถควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดได้ดี ร้อยละ 15.58 (เกณฑ์มากกว่าหรือเท่ากับ 40 %) และสถานการณ์ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ของตำบลบาเระเหนือตั้งแต่ปี ปี 2563 ถึงปี 2565 เท่ากับ 6 คน,5 คน,และ 5 คน ตามลำดับ และในปี 2567 มีผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในความรับผิดชอบ จำนวน 627 คน และสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดี ร้อยละ 51.20 (เกณฑ์มากกว่าหรือเท่ากับ 60 %) การดูแลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะ โดยแพทย์เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของผู้ป่วย และการตรวจป้องกันภาวะแทรกซ้อน นอกจาก ยังควรมีการติดตามเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านเพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาของการดูแลตนเอง และร่วมหารือ และแนะนำ การแก้ไขปัญหาสุขภาพกับผู้ป่วยแต่ละราย ปัจจุบันผู้ป่วยที่มารับบริการดูแลรักษาโรคเรื้อรังดังกล่าวมี เป็นจำนวนมาก และมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับบริการดูแลภาวะแทรกซ้อนได้อย่างครบถ้วน และการรักษาส่วนใหญ่ยังเน้นโรงพยาบาลเป็นศูนย์กลาง(Hospital-based) ถึงแม้หลาย ๆ โรงพยาบาล จะได้รับการรับรองเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ(HPH) ก็ตาม ทำให้ไม่เกิดความยั่งยืนในระบบการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยและครอบครัวมีศักยภาพในการดูแลตนเองน้อย ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งแพทย์ และทีมงานเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงการที่สามารถให้ประชาชน กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย ได้ตระหนักในการดูแลตนเอง มีความรู้ สร้างทัศนคติ จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และปฏิบัติตัวให้ห่างจากการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย เพื่อลดงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมาก
การป้องกันภาวะความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานในประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่มีความสำคัญเพื่อลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรค ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาเระเหนือได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการค้นหาและคัดกรองโรคเบาหวานและภาวะความดันโลหิตสูงของประชาชนในพื้นที่ รับผิดชอบ ทั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ และแนวโน้มของการเจ็บป่วย อันจะเป็นแนวทางในการวางแผน กำหนดนโยบายในการควบคุม ป้องกัน และลดอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งประชาชนในกลุ่มเป้าหมายได้เกิดทักษะในการค้นหากลุ่มเสี่ยงของโรคดังกล่าวในชุมชนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้อสม.มีความรู้และทักษะในการคัดกรองกลุ่มเป้าหมายตามแนวทางที่ถูกต้อง อสม.มีความรู้และทักษะในการคัดกรองความดันโลหิตสูงและเจาะน้ำตาลในเลือดที่ปลายนิ้ว ร้อยละ 80 |
||
2 | เพื่อให้ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นเพื่อค้นหาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ประชากรอายุ 35 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นเพื่อค้นหาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ร้อยละ 90 |
||
3 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วย 3 อ. 2 ส ตามวิถีชุมชน กลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพร้อยละ 67 |
ลำดับ | กิจกรรมหลัก | งบประมาณ | มี.ค. 68 | เม.ย. 68 | พ.ค. 68 | มิ.ย. 68 | ก.ค. 68 | ส.ค. 68 | ก.ย. 68 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | จัดอบรมให้ความรู้แก่แกนนำ/ภาคีเครือข่าย(10 มี.ค. 2568-30 ก.ย. 2568) | 8,100.00 | |||||||
2 | กิจกรรมตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงและให้ความรู้แก่ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยแกนนำ/ภาคีเครือข่ายในชุมชน จำนวน 1,200 คน(7หมู่บ้าน)(10 มี.ค. 2568-30 ก.ย. 2568) | 56,760.00 | |||||||
รวม | 64,860.00 |
1 จัดอบรมให้ความรู้แก่แกนนำ/ภาคีเครือข่าย | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 75 | 8,100.00 | 0 | 0.00 | 8,100.00 | |
10 มี.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | 1.1 อบรมให้ความรู้แก่แกนนำในการดูแลติดตาม กลุ่มเสี่ยงสูงและผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจำนวน 75 คน 1.2 ฝึกทักษะการตรวจความดันโลหิตและระดับ น้ำตาลในเลือดแก่แกนนำ/ภาคีเครือข่าย | 75 | 8,100.00 | - | - | ||
2 กิจกรรมตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงและให้ความรู้แก่ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยแกนนำ/ภาคีเครือข่ายในชุมชน จำนวน 1,200 คน(7หมู่บ้าน) | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 1320 | 56,760.00 | 0 | 0.00 | 56,760.00 | |
10 มี.ค. 68 | เจาะเลือดปลายนิ้วและวัดความดันโลหิตเพื่อคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงแก่ประชาชนอายุ 35 ขึ้นไป โดยแกนนำ/ภาคีเครือข่ายตามจุดที่กำหนดในชุมชน | 1,200 | 39,960.00 | - | - | ||
10 มี.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | อบรมให้ความรู้และจัดกิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแก่กลุ่มเสี่ยงรายใหม่โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ด้วยหลัก 3 อ 2 ส จำนวน 120 คน(จัดอบรม 2 รุ่นๆละ 60 คน | 120 | 16,800.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 1,395 | 64,860.00 | 0 | 0.00 | 64,860.00 |
1.ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองภาวะเสี่ยงต่อภาระโรค METABOLIC
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2568 11:02 น.