โครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ปี 2568
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ปี 2568 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริทสุขภาพตำบลบ้านรังมดแดง |
วันที่อนุมัติ | 21 มกราคม 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2568 - 29 สิงหาคม 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 กันยายน 2568 |
งบประมาณ | 7,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางซูไฮบะห์ เจะมะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลดอนทราย อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.597,101.701place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 36 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริม สนับสนุน และปกป้องให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่อย่างเต็มที่ตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ว่า “เด็กตั้งแต่แรกเกิด – 6 เดือน ควรได้รับนมแม่อย่างเดียวและกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้น” ประเทศไทยจึงได้ตั้งเป้าหมายในปี 2568 ได้ว่า “ร้อยละของเด็กแรกเกิด – 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียวร้อยละ 50” ซึ่งในสถานการณ์ของประเทศไทยปัจจุบันนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 14 ซึ่งยังต่ำกว่าตราเฉลี่ยทั่วโลก และต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สาธิต, 2564) และจากการดำเนินงานอนามัยแม่และเด็กของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านรังมดแดง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีเพียงร้อยละ ๕๔.5๕ เท่านั้น ซึ่งยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้อาจเพราะมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต สภาพเศรษฐกิจ และสังคม ครอบครัวที่เคยอยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก และญาติ แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ลาหลังคลอดไม่ได้ มีความจำเป็นต้องละทิ้งเด็กไว้กับปู่ ย่า ตา ยาย ที่มีประเพณี ความเชื่อ ทัศนคติดั้งเดิม และมีความรู้ไม่เพียงพอ ทำให้เด็กได้รับ นมแม่อย่างเดียวจนอายุ 6 เดือนลดน้อยลง ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับลูก (Good start) เป็นอาหารธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคแก่ทารก และสามารถเสริมสร้างความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก จากการที่แม่ได้สัมผัสลูกแบบเนื้อแนบเนื้อ ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น มั่นคง ปลอดภัย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยให้ลดการเสียเลือดหลังคลอดน้อยลง รูปร่างแม่คืนสู่สภาพเดิมได้เร็ว ช่วยให้แม่และลูกไม่เป็นโรคอ้วน หากให้นมแม่เป็นเวลานานจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ นอกจากนี้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผสม และอุปกรณ์ในการชงนม (พรพิมล อาภาสสกุล, 2559) การจัดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อสร้างรากฐานที่ดีของชีวิตจึงมีเป้าหมายเพื่อเป็นการเพิ่มความรู้และทัศนคติ เรื่องความสำคัญและประโยชน์ของนมแม่ ความแตกต่างของนมแม่และนมผสม หลักการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การจัดท่าให้นมแม่ที่ถูกต้อง แม่ทำงานสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ และเพิ่มทักษะการนวดเต้านม การบีบเก็บน้ำนม และการนำน้ำนมที่เก็บไว้ออกมาใช้ ซึ่งคาดหวังว่าโครงการนี้จะนำไปสู่ความตั้งใจของหญิงตั้งครรภ์และบุคคลในครอบครัว และสามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 ต่อเนื่องจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้น ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่ดีของชีวิตให้กับหญิงตั้งครรภ์และทารกแรกเกิด
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้มารดามีความเข้าใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
|
||
2 | 2. เพื่อให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน
|
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
- หญิงหลังคลอดเข้าใจถึงประโยชน์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ร้อยละ ๘0
- ทารกได้รับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ร้อยละ ๖0
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2568 10:25 น.