โครงการส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน เพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว ประจำปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน เพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว ประจำปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L2536-2-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อสม. ตำบลปูโยะ |
วันที่อนุมัติ | 13 ตุลาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 25,980.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ชมรม อสม. ตำบลปูโยะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางนงเยาว์ เกษกุล |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.109,101.993place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 77 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข จัดงานวันไอโอดีนแห่งชาติ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ต้องการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนในหมู่คนไทยจากผลการสำรวจปริมาณไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์และความครอบคลุมเกลือไอโอดีนที่มาตรฐานระดับครัวเรือน ถึงแม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกยังอยู่ระดับที่ไม่น่าไว้วางใจจึงยังต้องเพิ่มยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานและต้องมีการทำอย่างต่อเนื่องให้ประชากรในพื้นที่ได้รับสารไอโอดีนเพียงพอกับความต้องการของร่างกายโรคขาดสารไอโอดีนเป็นปัญหาสาธารณสุขทางด้านโภชนาการที่สำคัญ เป็นต้นเหตุที่พบมากที่สุดของภาวะ ปัญญาอ่อนซึ่งป้องกันได้ พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่จะมีผลร้ายแรงชัดเจนในทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนอายุ 2-3 ปี โดยมี ผลลดความเฉลียวฉลาด หรือไอคิวของเด็กได้ถึง 10-15 จุด ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยปกติร่างกายต้องการสารไอโอดีนทุกวัน วันละ 100-150 ไมโครกรัม ในส่วนของหญิงมีครรภ์หากขาดสารไอโอดีนจะทำให้ทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือแท้งหรือพิการตั้งแต่กำเนิดเด็กที่เกิดจากแม่ที่ขาดสารไอโอดีนมีโอกาสที่จะเป็นปัญญาอ่อน เป็นใบ้ ช่วยตัวเองไม่ได้กลายเป็นเด็กเอ๋อ ส่วนในเด็กวัยเรียนที่ขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้เรียนรู้ช้า เฉื่อยชา เป็นคอพอกเพราะสารไอโอดีนมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาสมองทารกที่อยู่ในครรภ์ต้องการสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มและขนาดเซลล์สมองและช่วยสร้างโครงข่ายใยประสาทที่ต่อเชื่อมถึงกันสร้างปลอกหุ้มเซลล์ใยประสาทอย่างต่อเนื่อง ส่วนในวัยผู้ใหญ่หากขาดสารไอโอดีนจะทำให้กลายเป็นคนเซื่องซึม เฉื่อยชาประสิทธิภาพการทำงานลดลง ดังนั้นชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลปูโยะได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนที่ต่อเนื่อง และเฝ้าระวังติดตามอย่างมีคุณภาพ จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน เพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิวซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชน องค์กรในระดับหมู่บ้านเกิดความเข้าใจ และร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนซึ่งจะส่งผลให้โรคขาดสารไอโอดีนลดลง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพ สร้งความเข็มแข็งในชุมชน พัฒนาชุมชนเพื่อเป็นหมู่บ้านไอโอดีนทุกหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขมีความรู้ในเรื่องไอโอดีน ทุกคน |
||
2 | - เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุ 0-6 ปี ให้มีพัฒนาการสมวัย
- เพื่อให้ประชาชนบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนและอาหารเสริมไอโอดีน ทุกหลังคาเรือน ทุกหลังคาเรือนได้รับสนัสนุนเกลือเสริมไอโอดีนและมีการใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่ได้มาตรฐาน |
- ขั้นเตรียมการ 1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน 1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ขั้นดำเนินการ 2.1 พิธีเปิดโครงการ 2.2 จัดอบรมให้ความรู้แก่อสม. 2.3 สนับสนุนเกลือเสริมไอโอดีนแก่ประชาชน จำนวน ๖ หมู่บ้าน 2.4 สรุปผลการดำเนินโครงการ
- ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพในการพัฒนาเป็นหมู่บ้านไอโอดีนทุกหมู่บ้าน
- ประชาชนในตำบลปูโยะบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนทุกหลังคาเรือน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2560 14:25 น.