โครงการโรงเรียนนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง
ชื่อโครงการ | โครงการโรงเรียนนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง |
รหัสโครงการ | 61-L5169-2-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนวัดปรางแก้ว |
วันที่อนุมัติ | 19 กุมภาพันธ์ 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ตุลาคม 2561 |
งบประมาณ | 36,710.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายปัญญา ศรีลารักษ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.886,100.442place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 พ.ค. 2561 | 30 ก.ย. 2561 | 36,710.00 | |||
รวมงบประมาณ | 36,710.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การมี "อาหาร" ที่เพียงพอและมีคุณภาพ ถือเป็น "สิทธิขั้นพื้นฐาน" ที่คนทุกคนไม่ว่า ยากดีมีจนควรเข้าถึง ทว่าในความเป็นจริงกลับพบการปนเปื้อนของสารพิษตกค้างในอาหารได้ทั่วไป อาทิ ผัก-ผลไม้ ดังการเปิดเผยของ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) เมื่อเดือนต.ค. 2559 ระบุว่า ผลการสุ่มตรวจผักและผลไม้ ทั้งในห้างค้าปลีกชื่อดังและตลาดขายส่งขนาดใหญ่ จำนวน 158 ตัวอย่าง พบสารเคมีตกค้างถึงร้อยละ 56
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยเมื่อเดือน เม.ย. 2560 ว่า กระทรวงเกษตรฯ มียุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเพื่อเข้าสู่ปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยืน ซึ่ง 1 ในเป้าหมายคือ "มุ่งลดการใช้สารเคมีให้ได้ร้อยละ 10 ภายใน 5 ปี" ตัวชี้วัดคือการตรวจพบสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานต้องลดลงจากปัจจุบันร้อยละ 10 ของจำนวนตัวอย่างที่ตรวจ ภายใน 5 ปี ดังนั้นการหาผักปลอดสารพิษมาประกอบอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในพื้นที่ของโรงเรียนเอง
สถานการณ์ปัญหาการบริโภคอาหารและโภชนาการภายในโรงเรียนวัดปรางแก้ว โดยภาพรวมนักเรียนส่วนมากมีการบริโภคอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย แต่ตรวจสุขภาพร่วมกับโรงพยาบาลคลองหอยโข่งพบว่ามีนักเรียนบางส่วนประสบปัญหาทุพโภชนาการ เนื่องจากมีสุขนิสัยที่ไม่ถูกต้องในการเลือกรับประทานอาหาร เช่น ไม่ชอบรับประทานผักกินอาหารประเภทเดิมซ้ำ ๆ กัน ชอบรับประทานขนมกรุบกรอบที่ไม่มีประโยชน์ดื่มน้ำอัดลมและน้ำหวานชอบรับประทานอาหารที่มีผงชูรส และพบว่านักเรียนไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก่อนมาโรงเรียน ทำให้อาหารมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่สุดของนักเรียนซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการด้านความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียนไม่ได้รับการส่งเสริมให้เหมาะสมกับนักเรียนที่กำลังเจริญเติบโตอย่างสมวัยซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผู้ปกครองที่ยังไม่เห็นความสำคัญในการสอนบุตรหลานให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการรับประทานอาหารเช้าก่อนมาโรงเรียน และจากการประเมินภาวะทุพโภชนาการของนักเรียนโรงเรียนวัดปรางแก้วในปีการศึกษา 2560 พบว่า มีนักเรียนเตี้ย จำนวน 3 คน ผอมและเตี้ย จำนวน 2 คน อ้วน จำนวน 5 คน
ด้วยเหตุนี้โรงเรียนวัดปรางแก้วได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาภาวะโภชนาการทั้งขาดและเกินของนักเรียน รวมทั้งการรับประทานอาหารที่ปลอดภัย จึงได้จัดทำโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเองในโรงเรียนขึ้นเพื่อลดปัญหาโภชนาการและสุขภาพของนักเรียนและมีความรู้และแนวทางในการจัดการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการและสุขภาพนักเรียนบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายต่อเนื่องยั่งยืนโรงเรียนวัดปรางแก้วจึงได้จัดทำโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเองขึ้น โดยมีปณิธานอย่างมุ่งมั่นในการเจริญรอยตามพระยุคลบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการน้อมนำรูปแบบการบริหารจัดการที่ดีด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพของนักเรียนอย่างครบวงจรมาปฏิบัติและพัฒนาสู่โรงเรียนต้นแบบส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้กินอิ่มอย่างมีคุณภาพ โภชนาการสมวัย สุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษและนำไปปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน / 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์และนำไปใช้ในการปลูกผักปลอดสารพิษ / 3. นักเรียนได้รับประทานผักปลอดสารพิษ ทำให้นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง
|
100.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 35.00 | 6 | 36,700.00 | |
19 พ.ค. 61 | สร้างความรู้ความเข้าใจในการปลูกผัก ปลอดสารพิษเพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวันและอาหารเช้า | 0 | 15.00 | ✔ | 15,800.00 | |
26 พ.ค. 61 - 26 ก.พ. 61 | การทำปุ๋ยอินทรีย์ | 0 | 15.00 | ✔ | 15,800.00 | |
27 พ.ค. 61 | การทำปุ๋ยอินทรีย์ | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
2 มิ.ย. 61 | สร้างความรู้ความเข้าใจในการปลูกผัก ปลอดสารพิษเพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวันและอาหารเช้า | 0 | 5.00 | ✔ | 5,100.00 | |
1 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 | สร้างความรู้ความเข้าใจในการปลูกผัก ปลอดสารพิษเพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวันและอาหารเช้า | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
1 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 | การทำปุ๋ยอินทรีย์ | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 |
1) สำรวจความต้องการ ความจำเป็นของการดำเนินการตามโครงการ
2) ประสานงานกับเครือข่ายผู้ปกครอง ชมรมผู้สูงอายุตำบลทุ่งลาน
3) จัดกิจกรรม 2 กิจกรรม ดังนี้
3.1 กิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจในการปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวัน
3.1.1 อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษ
3.1.2 การปลูกผักชนิดต่างๆของคนสามวัยในแปลงผักของโรงเรียน
3.1.3 การนำผลผลิตไปทำอาหารกลางวันให้กับนักเรียน
3.2 กิจกรรมการทำปุ๋ยอินทรีย์
3.2.1 การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการปลูกผักปลอดสารพิษ
3.2.2 การทำปุ๋ยอินทรีย์
3.2.3 การนำปุ๋ยไปใช้ในแปลงผักของโรงเรียน
4) สรุปผลหลังดำเนินโครงการ
- นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษและนำไปปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน
- นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์และนำไปใช้ในการปลูกผักปลอดสารพิษ
- นักเรียนได้รับประทานผักปลอดสารพิษ ทำให้นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2561 13:14 น.